ในโอกาสที่ มาดามเฉิน จื้อลี่ รองประธานสภาผู้แทนประชาชนและประธานสหพันธ์สตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นำคณะเยือนประเทศไทย อย่างเป็นทางการตามคำเชิญของ คุณหญิงณัฐิกา (วัธนเวคิน) อังอุบลกุล ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทำให้สัมพันธภาพแห่งพันธกิจด้านสตรีของทั้งสองประเทศถ่ายทอดสู่กัน เพื่อยกระดับสถานภาพสตรีให้รุดหน้าและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การเดินทางมาเยือนครั้งนี้ คณะของมาดามเฉิน ได้เข้าพบ ฯพณฯ ชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ฯพณฯ ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เข้าชมพระที่นั่งวิมานเมฆ เข้าชมงานศิลป์แผ่นดิน ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ชมการแสดงศิลปะวัฒนธรรม ณ โรงละครสยามนิรมิต เยี่ยมชมหอการค้าไทย-จีน ถนนสาทร เยี่ยมชมศูนย์ฝึกอาชีพไทย-จีน สภาสตรีแห่งชาติ ณ บ้านมนังคศิลา เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล
โอกาสนี้ มาดามเฉิน จื้อลี่ พร้อมคณะ ยังได้รับพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ วังสระปทุม ในวโรกาสที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ณ ศาลาดุสิตดาลัย สวนจิตรลดา เพื่อแสดงให้เห็นว่ามาดามเฉิน จื้อลี่ ได้สร้างคุณูปการแก่มหาวิทยาลัยและประเทศไทยจนเป็นที่ประจักษ์
สำหรับการมาเยือนประเทศไทยของคณะสหพันธ์สตรีแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมคณะ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ผู้มีบทบาท และตำแหน่งสูง ในองค์กรต่างๆ ของจีนนั้น คุณหญิงณัฐิกา กล่าวว่า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่องค์กรด้านสตรีของทั้งสองประเทศจะได้มาร่วมงานพันธกิจเพื่อสตรี ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ ศึกษาดูงานซึ่งกันและกัน เพื่อนำความก้าวหน้าไปพัฒนาพันธกิจของตัวเองให้เกิดผล
ที่ผ่านมา สหพันธ์สตรีจีนได้จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมไทย-จีนขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน และการมาเยือนครั้งนี้ทางสหพันธ์สตรีจีนก็ได้สานต่อความช่วยเหลือ ด้วยการมอบเงินทุน 5 แสนหยวน(ประมาณ 2.5 ล้านบาท) เพื่อนำไปปรับปรุงศูนย์ฝึกอาชีพและสนับสนุนเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ในการฝึกอาชีพให้แก่สตรี โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีให้ทันสมัย และพัฒนาเยาวสตรีให้พร้อมก้าวไปสู่การเป็นสตรีคุณภาพของประเทศต่อไป
“การที่มาดามเฉิน จื้อลี่ มาเยือนไทยครั้งนี้ ท่านเองได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้านการพัฒนาสตรีจากประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีกฎหมายหลายเรื่องเกี่ยวกับเด็กที่ท่านสนใจ และจะนำไปยื่นญัตติเพื่อใช้เป็นกฎหมายในประเทศจีน ขณะเดียวกันทางสภาสตรีของไทยก็สนใจที่จะนำนโยบายด้านการดูแลสุขภาพ ที่สหพันธ์สตรีจีนใช้ได้ผลและมีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึงในการดูแลประชากรผู้หญิงทั้งหมดที่มีจำนวนมากถึง 650ล้านคน”
ด้าน มาดามเฉิน จื้อลี่ ได้กล่าวปาฐกาถาพิเศษ ในงานเลี้ยงรับรอง ณ ร.ร.แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ว่า รู้สึกซาบซึ้งในการต้อนรับที่อบอุ่นและยินดียิ่งที่ได้มาเยือนดินแดนที่สวยงามและเต็มไปด้วยวัฒนธรรม เพื่อกระชับสัมพันธ์และยกระดับสถานภาพสตรีร่วมกัน สมกับคำว่า “จีนกับไทย ไม่ใช่อื่นไกล” ถือเป็นพี่น้องกัน และปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจเรื่อยมา
สำหรับประเทศจีนเมื่อ 61 ปี ก่อน ท่านประธานเหมา เจ๋อ ตุงได้ประกาศเปิดประเทศให้เป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จตุรัสเทียนอันเหมิน ขณะเดียวกัน สตรีจีนก็ถูกปลดแอกให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สตรีถูกยกฐานะให้เป็นเจ้าของประเทศ ร่วมเป็นเจ้าของสังคมและเจ้าของตัวเอง แตกต่างโดยสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับสตรีจีนในอดีตที่จะต้องถูกมัดเท้าและส่วนใหญ่ต้องทำงานในครอบครัว แทบไม่เคยออกไปทำงานนนอกบ้าน และไม่มีบทบาทในสังคมมากนัก แต่สมัยนี้สตรีกลับเป็นกำลังสำคัญของชาติ เป็นผู้บริหารคนสำคัญขององค์กรธุรกิจ ทรงอิทธิพลต่อ ภาคเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรมและด้านกีฬา
ที่ผ่านมา นโยบายสำคัญในการบริหารจัดการสหพันธ์สตรีของจีนได้มุ่งเน้นให้การศึกษา และด้านสาธารณสุข เร่งจัดให้บริการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้เกิดความเสมอภาคระหว่างเพศในด้านคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐาน โดยมีกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นบรรทัดฐาน ทำให้ปัจจุบันนี้ บทบาทของสตรีที่เพิ่มขึ้นได้กลายเป็นท้องฟ้าครึ่งหนึ่งของประเทศจีนไปแล้วอย่างเต็มภาคภูมิ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
