>> “ศุภนร ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา” หนุ่มร่างสูงกว่า 185 เซนติเมตรคนนี้ เป็นลูกชายคนโตของ “หม่อมหลวงจักรีพันธ์ ศุขสวัสดิ” กับ “อรวัลย์ ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา” นับเป็นหนุ่มมากความสามารถที่รั้งตำแหน่งเป็นนักกีฬากระโดดไกลทีมชาติไทย และเคยคว้าเหรียญทองในการแข่งขันยุวชนชิงแชมป์โลกที่ประเทศอิตาลี เมื่อปี 2552 มาแล้ว และถือเป็นนักกีฬาเลือดใหม่ที่น่าจับตามองเลยทีเดียว
“ตีโต้” หนุ่มน้อยจากเชียงใหม่วัย 18 ปี เล่นกีฬาเกือบทุกประเภทมาตั้งแต่ 9 ขวบ ก่อนจะมาเป็นนักกีฬากระโดดไกลในปัจจุบัน ซึ่งเป็นกีฬาที่บ้านเราอาจจะไม่ได้ให้ความสนใจอย่างกีฬาชนิดอื่นๆ มากนัก
“เมื่อก่อนผมชอบเล่นบาสเก็ตบอลมาก แต่ถ้าเราเล่นบาสฯ ต่อคงไม่มีโอกาสติดทีมชาติแน่ๆ อีกอย่างกีฬาบาสของบ้านเรายังไม่เด่นในระดับโลก เลยเลิกเล่นตอน ม.3 แล้วหันมาจริงจังกับการกระโดดไกลแทน พอดีโค้ชคนแรกของผมได้ชักชวนให้มาลองเล่น เพราะเห็นว่ารูปร่างได้ และกีฬาชนิดนี้ไม่ค่อยมีคนเล่นด้วย ผมว่ากระโดดไกลสนุกดีนะ ก็คิดอยากให้มันกลายเป็นกีฬาที่ฮิตขึ้นมาบ้าง”
นอกจากจะอยากให้กีฬากระโดดไกล มีคนสนใจมากขึ้นแล้ว ความฝันสูงสุดที่เขากำลังไล่ตามอยู่นั้นคือการนำเหรียญทองโอลิมปิกกลับมาเป็นของขวัญชาวไทยให้ได้
“ผมตั้งเป้าไว้ที่กีฬาโอลิมปิกเป็นแห่งสุดท้ายครับ ผมชอบความท้าทาย และตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง ความฝันแรกตอนเริ่มเล่นของผมคืออยากจะเป็นที่หนึ่งในประเทศไทย จนตอนนี้ผมก็ได้เป็นแชมป์โลกแล้ว เลยเหลืออยู่ฝันเดียวก็คือเหรียญทองโอลิมปิก”
สำหรับเคล็ดลับในการแข่งขันของตีโต้ คือทำให้ได้ดีเหมือนตอนซ้อม แต่ถ้าเกิดพ่ายแพ้ในการแข่งขันครั้งใด เขาจะไม่เสียใจ แต่กลับมองว่ายังทำได้ไม่ดีพอ เหมือนกับคติที่ยึดมาตลอดว่า
“คราวแพ้อย่าลดละ...คราวชนะอย่าลำพอง!”
ความมุ่งมั่นพยายามของเขาเห็นได้จากตารางซ้อม 5 ชั่วโมงในแต่ละวัน เมื่อบวกกับการเรียนหนังสือแล้ว เขาบอกว่าแทบไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น เมื่อมีเวลาว่างมีอย่างเดียวที่เขานึกถึงก็คือ การนอน และถึงแม้จะไม่มีเวลาเฮฮาเที่ยวเล่นตามประสาวัยรุ่นคนอื่นๆ แต่ตีโต้ก็ไม่รู้สึกเสียดายอะไร เพราะกีฬาคือสิ่งที่รักและความเป็นสนุกสำหรับเขา
ตอนนี้ตีโต้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาเหตุที่เลือกเรียนสาขานี้ ไม่ใช่เพราะได้รับอิทธิพลจากผู้เป็นพ่อที่มีอาชีพเป็นทนายความ แต่ตีโต้บอกว่า เป็นสาขาวิชาที่ดูท้าทายและสามารถตอบโจทย์อีกความฝันหนึ่งก็คือการได้เป็นผู้พิพากษา
“พอได้มาเรียนก็ท้าทายจริงๆ ด้วยครับ...ยากมาก เพราะต้องอ่านหนังสือเยอะ แต่ผมมีเพื่อนที่เรียนเก่งๆ มาช่วยลากไปเรียน มาช่วยติว แต่เรียนกฎหมายก็สนุกดีครับ”
ส่วนหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันไปสู่ความสำเร็จของ “ตีโต้”คือ การสนับสนุนจากคุณพ่อ-คุณแม่ อย่าง “หม่อมหลวงจักรีพันธ์ ศุขสวัสดิ์” กับ “อรวัลย์ ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา” ที่เป็นแรงใจให้เขาเสมอ
“ถ้าพวกท่านไม่สนับสนุนผมคงไม่มาถึงจุดนี้ อีกอย่างพ่อของผมเคยเป็นนักทศกรีฑามาก่อนด้วย ที่บ้านผมจะเลี้ยงค่อนข้างให้อิสระ เราอยากจะทำอะไรก็ทำ แต่ไม่ได้ตามใจเรา ถ้าเราจะไปไหนมาไหน ไม่เคยห้าม แค่บอกท่านก็พอ”
เห็นหน้าตาหล่อเหลาแบบที่สามารถเข้าวงการบันเทิงตามรอยรุ่นพี่นักกีฬาหลายคนได้สบายๆ แต่ในตอนนี้เขาอยากใช้ความสามารถของตัวเองพิสูจน์ให้คนเห็นมากกว่าใช้ภาพลักษณ์ภายนอก “งานในวงการบันเทิงก็ดูเท่ดีนะครับ แต่ผมก็ยังไม่ชอบอยู่ดี ถ้าเป็นงานถ่ายแบบ เดินแบบซึ่งเคยมีเข้ามาบ้าง ผมก็พอทำได้ เพราะไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองมากนัก แต่ว่ากับงานแสดงผมคงยังทำไม่ได้”
เรายังไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าหนุ่มคนนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน แต่เห็นได้ถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างนี้ เชื่อแน่ว่า ความสำเร็จของเขาจะต้องก้าวกระโดดเหมือนกับกีฬาที่เขารัก ::Text by FLASH mag.
Profile
ชื่อเล่น :: ตีโต้
อายุ :: 18 ปี
การศึกษา
:: มัธยมปลาย โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
:: นักศึกษา ชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
>> คุณรู้หรือไม่ว่า :
1.ชื่อ “ศุภนร” อ่านว่า สุ-พะ-นะ-ระ
2.เขาเคยเป็นนักกีฬาลีลาศ ระดับเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่มาแล้ว!
3.ผลงานอันยอดเยี่ยมของเขาถูกจับตามองอย่างมาก ถึงขั้นมีแมวมองจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เข้ามาทาบทามเพื่อดึงตัวไปร่วมทีมด้วย โดยมอบทุนการศึกษาเรียนฟรีเป็นเครื่องแลกเปลี่ยน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net