ความสวยงามของผู้หญิงใช่จะดูกันแต่หน้าตา แต่ยังรวมไปถึงกิริยา น้ำเสียง ท่าทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ใครๆ ที่อยู่รอบตัวตัวเธอสัมผัสได้ในทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึก ทั้งสวยน่ารัก สร้างความหวั่นไหว ให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหาเป็นแรงดึงดูดที่ทำให้ทุกคนอยากใกล้ชิด เป็นเธอที่ทำให้ความหมายของ “ผู้หญิง” มีคุณค่าและเปล่งประกายในทุกนาทีที่ได้สัมผัส
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงมีเสน่ห์อย่างแตกต่าง และเปล่งประกายได้ในสไตล์ของตัวเอง มาจากองค์ประกอบความสวยทั้งใบหน้า สีสัน การแต่งกาย ความหอม น้ำเสียง บุคลิกท่าทาง เป็นรายละเอียดที่ถูกนำมาร้อยเรียงและถูกนำมาใช้ในช่วงจังหวะและลีลาที่ลงตัว ซึ่งนั่นคือ “มายา” ของหญิงสาวอันเป็นที่มาของ “มายา” (MAYA) ชุดเครื่องสำอางและน้ำหอมให้สาวๆ ได้สนุกไปกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ “มายา” ทั้งการใช้สีสันบนใบหน้า กลิ่นหอม ประกอบกับการใช้ภาษากาย ของ โอเรียนทอล พริ้นเซส
โดยแบ่ง “มายา” ออกเป็น 5 สไตล์คือ Maya Love, Maya Desire, Maya Mystery, Maya Envy, และ Maya Joy ช่วยให้สาวๆ เลือกมายาไปใช้จริงอย่างถูกวิธี และเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ เสริมสร้างเสน่ห์ให้ผู้หญิงได้อย่างที่ใจต้องการ
1. Love Maya Orchid Heaven ใช้ความอ่อนไหว...ละลายจนใจอ่อน
นึกภาพนางเอกแสนหวาน หรือเจ้าหญิงในนิทานที่แสนอ่อนหวาน โดยมี “สีชมพู” ที่ทำให้ผู้หญิงดูอ่อนหวานและให้ความรู้สึกอบอุ่นที่สุดเป็นตัวนำ เลือกใช้บลัชออนสีหวานมีส่วนผสมชิมเมอร์บางเบาช่วยเพิ่มประกายของพวงแก้ม เติมความหอมด้วยน้ำหอมกลิ่นหอมหวาน โดยมีทริคเล็กๆ คือ ยื่นมือห่างลำตัวประมาณ 1 ฟุต แล้วฉีดน้ำหอมไปด้านหน้า 4 จุด คือ บริเวณเหนือศีรษะ ช่วงอก กึ่งกลางลำตัว และระดับเดียวกับสะโพก จากนั้นรีบเดินผ่านเข้าไปบริเวณที่มีละอองน้ำหอมโปรยปราย กลิ่นหวานฉ่ำจะติดบนร่างกายและเส้นผมบางเบา วางจังหวะลีลาด้วยการนั่งยืดตัวขึ้น ชิดเข่าเข้าด้วยกัน กดคางเล็กน้อย ประสานมือไว้บนตัก และใช้ดวงตาส่งผ่านความรู้สึกพร้อมกับรอยยิ้มแสนหวาน
2. Desire Maya Magic Rosea ควบคุมความหลงใหล.. ไม่ให้รู้ตัว
ไม่มีสีไหนที่สะท้อนความเซ็กซี่เย้ายวนใจได้ดีไปกว่า “สีแดง” ความเร่าร้อนที่ซ่อนภายใต้ความอ่อนหวานอย่างแนบเนียน คิ้วเป็นอาวุธสำคัญในการสื่อความหมาย หยิบดินสอเขียนคิ้วตวัดตั้งแต่กลางคิ้วจนถึงหางคิ้ว โดยให้เส้นโค้งกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย ปัดรูปคิ้วให้ดูสวยเนี้ยบ ใช้อายแชโดว์สีอ่อนทาให้ทั่วเปลือกตา แล้วตามด้วยอายแชโดว์สีแดงอมน้ำตาลเกลี่ยจากหางตาให้สีฟุ้งกระจายมาที่หัวตา เน้นน้ำหนักความเข้มอยู่ที่หางตา จากนั้นใช้อายไลเนอร์วาดชิดขอบตาทั้งบนและล่าง เพิ่มความเย้ายวนด้วยแพรขนตาปลอมสีม่วง ปัดมาสคาร่าสีดำเข้ม ให้ขนตามีมิติบาดใจแบบดรามาติกลุค เติมซิมเมอร์บริเวณกึ่งกลางเปลือกตาและโหนกคิ้ว ใช้สีแดงเข้มวาดขอบปากให้เกินรูปปากจริง บรรจงลากสีให้สวยเด่นชัด แต้มลิปกลอสเล็กน้อยกึ่งกลางริมฝีปาก เติมความหอมในจุดที่ชีพจรไหลเวียน เพราะเป็นจุดที่กระจายความหอมสัมพันธ์กับระดับจมูกพอดี เช่น ลำคอ หลังใบหู แล้วลองหัดทำท่าทางเซ็กซี่เล็กๆ เย้ายวนชวนให้อยากตกหลุมพรางเช่น เดินทิ้งปลายเท้าเล็กน้อย นั่งไขว้ขาเอียง 45 องศา ความเย้ายวนจะลอยพริ้วติดตามไปตลอดเวลา
3. Envy Maya Flaming Parrot สะกดความสนใจ ให้หยุดไว้ที่เดียว
เสน่ห์ที่เจิดจรัสของ ”สีแดงเพลิง” พร้อมสยบทุกสิ่งให้อยู่ภายใต้การควบคุม เน้นการแต่งดวงตา ให้ร้อนแรง ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเขียนชิดขอบตาบนและล่างให้เส้นยาวกว่าปกติแล้วเกลี่ยหางตาให้ยาวและเฉียงออกไป กระจายสีสันอายแชโดว์ให้เลยรอยพับตาขึ้นไปเล็กน้อย จากนั้นหยิบสีน้ำตาลอมแดงแต้มลงบนขอบสีน้ำตาล แต่งแต้มลงเหนือสีแรกและเกลี่ยที่หางตาให้ยาวชี้ขึ้นไปทางแนวขมับจนจรดหางคิ้ว โชว์ความเปรี้ยวมั่นด้วยอายไลเนอร์สีดำแบบดินสอหรือแบบลิควิดก็ได้ โดยเขียนชิดขอบตาบนและล่างให้ยาวเกินหัวตาออกมาเล็กน้อย ติดขนตาปลอมโดยเน้นติดไปทางหางตา เติมความร้อนแรงด้วยลิปไลเนอร์ลงที่ขอบปาก ทาลิปสติกสีแดงอมพู และลิปกลอสทับ ย่างกรายด้วยความมั่นใจกับกลิ่นหอมที่ฉีดบริเวณหัวใจ และหลังมือ ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยสีสันและความร้อนแรงตามจังหวะการเต้นของหัวใจ
4. Mystery Maya Moonlight Cactus เปลี่ยนความซ่อนเร้น เป็นแรงดึงดูด
ภายใต้บุคลิกที่นิ่ง สง่างาม พลังลึกลับจาก “สีน้ำเงิน” กระตุ้นให้น่าค้นหา การแต่งดวงตา เข้มเป็นวิธีหนึ่งในการสื่อสารด้วยสายตา ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีดำเข้มเขียนขอบตาบนและล่าง ให้เส้นหนาและยาวเกินขอบตาจริงเล็กน้อย จากนั้นใช้พู่กันแบนเกลี่ยให้เส้นดินสอดูเลือนรางบางเบา แตะอายแชโดว์สีดำกดทับทั่วเปลือกตา ใช้พู่กันเกลี่ยให้สีดูฟุ้งกระจายในแนวสโมคกี้อายส์ ลงอายส์ แชโดว์สีเทาอมเขียวแตะกึ่งกลางตา เติมชิมเมอร์สีฟ้าอ่อนของเฟซพาวเดอร์ที่หัวตาและโหนกคิ้วเพื่อสร้างมิติ ดัดและปัดขนตาให้ดวงตาแสดงพลังลึกลับที่น่าค้นหา พรมความหอมตามจุดซ่อนเร้น เช่น ข้อพับแขน ข้อพับขา แล้วสวมทับด้วยเสื้อผ้าที่มิดชิด หรืออาจจะฉีดน้ำหอมบริเวณหลังต้นคน แล้วปล่อยผมยาวลงมาปิด
5.Joy Maya Blooming Blaze โลกหมุนได้ ด้วยความสดใสของรอยยิ้ม
เปล่งประกายความสนุกสนานอย่างเป็นธรรมชาติด้วย “สีเขียวและสีส้ม” ใช้สีเขียวอ่อนระบายทั่วเปลือกตาบนให้ฟุ้งกระจาย ตามด้วยอายไลเนอร์สีน้ำตาลอ่อนเน้นขอบตาบนและล่างให้ดูได้รูปขึ้น หรืออาจใช้สีส้มไล้ทั่วเปลือกตาบน และใช้สีเขียวทางที่หัวตาไล่มาถึงช่วงกึ่งกลางตาก็ได้ เพิ่มความสดใสด้วยขนตางอนยาว โดยดัดขนตาเบาๆ 3 จังหวะ เริ่มจากชิดโคนขนตา กึ่งกลางขนตา และบริเวณปลายขนตา จากนั้นใช้มาสคาร่าปัดขนตาก่อนติดขนตาปลอม แก้มสวยด้วยสีพีซปัดเบาๆ ทั่วกึ่งกลางแก้มให้เกิดความวาวสดใส เติมความสดใสด้วยกลิ่นหอมสดชื่นในทุกช่วงเวลาที่เคลื่อนไหว โดยฉีดพรมเบาๆ ให้ทั่วร่างกายและปลายผม เพราะทุกครั้งที่สะบัดปลายผมหรือขยับร่างกาย กลิ่นหอมสดชื่นจะกระจายให้กับคนที่อยู่รอบๆ เปล่งประกายความสดใสด้วยรอยยิ้มที่แสดงความเป็นมิตร ทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย มีชีวิตชีวา
ถ้าอยากเรียนรู้เกี่ยวกับ “มายา” ศาสตร์สร้างสเน่ห์ของหญิงสาว จาก โอเรียลทอล พริ้นเซส เพิ่มเติมได้ที่ Maya Academia ใน www.orientalprincess.com/mayaacademia
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงมีเสน่ห์อย่างแตกต่าง และเปล่งประกายได้ในสไตล์ของตัวเอง มาจากองค์ประกอบความสวยทั้งใบหน้า สีสัน การแต่งกาย ความหอม น้ำเสียง บุคลิกท่าทาง เป็นรายละเอียดที่ถูกนำมาร้อยเรียงและถูกนำมาใช้ในช่วงจังหวะและลีลาที่ลงตัว ซึ่งนั่นคือ “มายา” ของหญิงสาวอันเป็นที่มาของ “มายา” (MAYA) ชุดเครื่องสำอางและน้ำหอมให้สาวๆ ได้สนุกไปกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ “มายา” ทั้งการใช้สีสันบนใบหน้า กลิ่นหอม ประกอบกับการใช้ภาษากาย ของ โอเรียนทอล พริ้นเซส
โดยแบ่ง “มายา” ออกเป็น 5 สไตล์คือ Maya Love, Maya Desire, Maya Mystery, Maya Envy, และ Maya Joy ช่วยให้สาวๆ เลือกมายาไปใช้จริงอย่างถูกวิธี และเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ เสริมสร้างเสน่ห์ให้ผู้หญิงได้อย่างที่ใจต้องการ
1. Love Maya Orchid Heaven ใช้ความอ่อนไหว...ละลายจนใจอ่อน
นึกภาพนางเอกแสนหวาน หรือเจ้าหญิงในนิทานที่แสนอ่อนหวาน โดยมี “สีชมพู” ที่ทำให้ผู้หญิงดูอ่อนหวานและให้ความรู้สึกอบอุ่นที่สุดเป็นตัวนำ เลือกใช้บลัชออนสีหวานมีส่วนผสมชิมเมอร์บางเบาช่วยเพิ่มประกายของพวงแก้ม เติมความหอมด้วยน้ำหอมกลิ่นหอมหวาน โดยมีทริคเล็กๆ คือ ยื่นมือห่างลำตัวประมาณ 1 ฟุต แล้วฉีดน้ำหอมไปด้านหน้า 4 จุด คือ บริเวณเหนือศีรษะ ช่วงอก กึ่งกลางลำตัว และระดับเดียวกับสะโพก จากนั้นรีบเดินผ่านเข้าไปบริเวณที่มีละอองน้ำหอมโปรยปราย กลิ่นหวานฉ่ำจะติดบนร่างกายและเส้นผมบางเบา วางจังหวะลีลาด้วยการนั่งยืดตัวขึ้น ชิดเข่าเข้าด้วยกัน กดคางเล็กน้อย ประสานมือไว้บนตัก และใช้ดวงตาส่งผ่านความรู้สึกพร้อมกับรอยยิ้มแสนหวาน
2. Desire Maya Magic Rosea ควบคุมความหลงใหล.. ไม่ให้รู้ตัว
ไม่มีสีไหนที่สะท้อนความเซ็กซี่เย้ายวนใจได้ดีไปกว่า “สีแดง” ความเร่าร้อนที่ซ่อนภายใต้ความอ่อนหวานอย่างแนบเนียน คิ้วเป็นอาวุธสำคัญในการสื่อความหมาย หยิบดินสอเขียนคิ้วตวัดตั้งแต่กลางคิ้วจนถึงหางคิ้ว โดยให้เส้นโค้งกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย ปัดรูปคิ้วให้ดูสวยเนี้ยบ ใช้อายแชโดว์สีอ่อนทาให้ทั่วเปลือกตา แล้วตามด้วยอายแชโดว์สีแดงอมน้ำตาลเกลี่ยจากหางตาให้สีฟุ้งกระจายมาที่หัวตา เน้นน้ำหนักความเข้มอยู่ที่หางตา จากนั้นใช้อายไลเนอร์วาดชิดขอบตาทั้งบนและล่าง เพิ่มความเย้ายวนด้วยแพรขนตาปลอมสีม่วง ปัดมาสคาร่าสีดำเข้ม ให้ขนตามีมิติบาดใจแบบดรามาติกลุค เติมซิมเมอร์บริเวณกึ่งกลางเปลือกตาและโหนกคิ้ว ใช้สีแดงเข้มวาดขอบปากให้เกินรูปปากจริง บรรจงลากสีให้สวยเด่นชัด แต้มลิปกลอสเล็กน้อยกึ่งกลางริมฝีปาก เติมความหอมในจุดที่ชีพจรไหลเวียน เพราะเป็นจุดที่กระจายความหอมสัมพันธ์กับระดับจมูกพอดี เช่น ลำคอ หลังใบหู แล้วลองหัดทำท่าทางเซ็กซี่เล็กๆ เย้ายวนชวนให้อยากตกหลุมพรางเช่น เดินทิ้งปลายเท้าเล็กน้อย นั่งไขว้ขาเอียง 45 องศา ความเย้ายวนจะลอยพริ้วติดตามไปตลอดเวลา
3. Envy Maya Flaming Parrot สะกดความสนใจ ให้หยุดไว้ที่เดียว
เสน่ห์ที่เจิดจรัสของ ”สีแดงเพลิง” พร้อมสยบทุกสิ่งให้อยู่ภายใต้การควบคุม เน้นการแต่งดวงตา ให้ร้อนแรง ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเขียนชิดขอบตาบนและล่างให้เส้นยาวกว่าปกติแล้วเกลี่ยหางตาให้ยาวและเฉียงออกไป กระจายสีสันอายแชโดว์ให้เลยรอยพับตาขึ้นไปเล็กน้อย จากนั้นหยิบสีน้ำตาลอมแดงแต้มลงบนขอบสีน้ำตาล แต่งแต้มลงเหนือสีแรกและเกลี่ยที่หางตาให้ยาวชี้ขึ้นไปทางแนวขมับจนจรดหางคิ้ว โชว์ความเปรี้ยวมั่นด้วยอายไลเนอร์สีดำแบบดินสอหรือแบบลิควิดก็ได้ โดยเขียนชิดขอบตาบนและล่างให้ยาวเกินหัวตาออกมาเล็กน้อย ติดขนตาปลอมโดยเน้นติดไปทางหางตา เติมความร้อนแรงด้วยลิปไลเนอร์ลงที่ขอบปาก ทาลิปสติกสีแดงอมพู และลิปกลอสทับ ย่างกรายด้วยความมั่นใจกับกลิ่นหอมที่ฉีดบริเวณหัวใจ และหลังมือ ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยสีสันและความร้อนแรงตามจังหวะการเต้นของหัวใจ
4. Mystery Maya Moonlight Cactus เปลี่ยนความซ่อนเร้น เป็นแรงดึงดูด
ภายใต้บุคลิกที่นิ่ง สง่างาม พลังลึกลับจาก “สีน้ำเงิน” กระตุ้นให้น่าค้นหา การแต่งดวงตา เข้มเป็นวิธีหนึ่งในการสื่อสารด้วยสายตา ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีดำเข้มเขียนขอบตาบนและล่าง ให้เส้นหนาและยาวเกินขอบตาจริงเล็กน้อย จากนั้นใช้พู่กันแบนเกลี่ยให้เส้นดินสอดูเลือนรางบางเบา แตะอายแชโดว์สีดำกดทับทั่วเปลือกตา ใช้พู่กันเกลี่ยให้สีดูฟุ้งกระจายในแนวสโมคกี้อายส์ ลงอายส์ แชโดว์สีเทาอมเขียวแตะกึ่งกลางตา เติมชิมเมอร์สีฟ้าอ่อนของเฟซพาวเดอร์ที่หัวตาและโหนกคิ้วเพื่อสร้างมิติ ดัดและปัดขนตาให้ดวงตาแสดงพลังลึกลับที่น่าค้นหา พรมความหอมตามจุดซ่อนเร้น เช่น ข้อพับแขน ข้อพับขา แล้วสวมทับด้วยเสื้อผ้าที่มิดชิด หรืออาจจะฉีดน้ำหอมบริเวณหลังต้นคน แล้วปล่อยผมยาวลงมาปิด
5.Joy Maya Blooming Blaze โลกหมุนได้ ด้วยความสดใสของรอยยิ้ม
เปล่งประกายความสนุกสนานอย่างเป็นธรรมชาติด้วย “สีเขียวและสีส้ม” ใช้สีเขียวอ่อนระบายทั่วเปลือกตาบนให้ฟุ้งกระจาย ตามด้วยอายไลเนอร์สีน้ำตาลอ่อนเน้นขอบตาบนและล่างให้ดูได้รูปขึ้น หรืออาจใช้สีส้มไล้ทั่วเปลือกตาบน และใช้สีเขียวทางที่หัวตาไล่มาถึงช่วงกึ่งกลางตาก็ได้ เพิ่มความสดใสด้วยขนตางอนยาว โดยดัดขนตาเบาๆ 3 จังหวะ เริ่มจากชิดโคนขนตา กึ่งกลางขนตา และบริเวณปลายขนตา จากนั้นใช้มาสคาร่าปัดขนตาก่อนติดขนตาปลอม แก้มสวยด้วยสีพีซปัดเบาๆ ทั่วกึ่งกลางแก้มให้เกิดความวาวสดใส เติมความสดใสด้วยกลิ่นหอมสดชื่นในทุกช่วงเวลาที่เคลื่อนไหว โดยฉีดพรมเบาๆ ให้ทั่วร่างกายและปลายผม เพราะทุกครั้งที่สะบัดปลายผมหรือขยับร่างกาย กลิ่นหอมสดชื่นจะกระจายให้กับคนที่อยู่รอบๆ เปล่งประกายความสดใสด้วยรอยยิ้มที่แสดงความเป็นมิตร ทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย มีชีวิตชีวา
ถ้าอยากเรียนรู้เกี่ยวกับ “มายา” ศาสตร์สร้างสเน่ห์ของหญิงสาว จาก โอเรียลทอล พริ้นเซส เพิ่มเติมได้ที่ Maya Academia ใน www.orientalprincess.com/mayaacademia
