หลังการจากไปของYves Saint Laurent ดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกชาวฝรั่งเศสด้วยวัย 71 ปีนั้น เขาได้สั่งเสียให้นำเถ้ากระดูกไปเก็บยังสุสานในสวน Majorelle Garden เพื่อหวังจะให้ตัวเขาจะคงอยู่ในสวนดอกไม้ที่เขารัก ตราบชั่วกาลนาน
Majorelle Garden เป็นสวนพฤกษศาสตร์อยู่ในเมืองมาราเคช ประเทศโมรอกโก ซึ่งเคยตกอยู่ใต้อาณานิคมของฝรั่งเศส และเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของชาวยุโรปและชาวฝรั่งเศสที่นิยมมาท่องเที่ยว พักผ่อนและตากอากาศในฤดูร้อน สวนแห่งนี้ออกแบบโดยศิลปินชาวฝรั่งเศส Jacque Majorelle เมื่อปี 1924 ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1และ 2 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โมรอกโกตกอยู่ภายใต้อาณานิคมฝรั่งเศส
ด้วยความงดงามของสวนแห่งนี้ในยุคหนึ่งจึงเคยเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักวาดสีน้ำ แต่ในเวลาต่อมาเมื่อเกิดภาวะเรียกร้องดินแดนและอธิปไตยปลดปล่อยโมรอกโกในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ชาวยุโรปส่วนใหญ่ไม่กล้าเดินทางไปท่องเที่ยวในดินแดนแห่งนี้อีก จนเริ่มกลับเข้าไปท่องเที่ยวใหม่ในมาราเคช และสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้เปิดสู่สาธารณะในปี 1947
เมื่อYves Saint Laurent และ Pierre Berge เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศโมรอกโก และเกิดประทับใจในความสวยงามของสวนดอกไม้ที่แปลกตาทั้งจากสีของดอกไม้และสีของอาคารในสวนที่ใช้สีฟ้าโคบอลท์เช่นกัน จนในที่สุดสีฟ้าที่สดใสนี้ ก็ได้รับชื่อใหม่ว่าสีฟ้า Majorelle Blue ตามชื่อสกุลของผู้ออกแบบสวนดอกไม้แห่งนี้เพื่อเป็นเกียรติกับเขาในเวลาต่อมา
ก่อนหน้านั้นในปี1967 Yves Sait Laurent ได้เดินทางไปหลายแห่งเพื่อมองหาสุสานที่จะใช้ฝังร่างของเขา ด้วยความหลงใหลในเสน่ห์ของสวนดอกไม้แห่งนี้ ทำให้ตัดสินใจซื้อสวนแห่งนี้ไว้เมื่อปี 1980 และทุ่มเทเวลาและแรงกายแรงใจ เพื่อเนรมิตรสวนดอกไม้แห่งนี้ทำให้กลายเป็นที่กล่าวขวัญในหมู่นักนิยมสวนดอกไม้ และนักวาดภาพอย่างแพร่หลาย
YSL มีโอกาสมาเยือนสวนแห่งนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2006 เมื่อครั้งนี้เขามาใช้วันหยุดพักผ่อนที่โมรอกโก
อาคารสีฟ้าสดใสในสวนนี้ ได้กลายเป็นพิพิธภํณฑ์ศิลปะอิสลามแห่งมาราเคช โดยมีส่วนของผ้าทอพื้นเมืองของอัฟริกาเหนือ ซึ่ง YSL ได้สะสมมาตลอดชั่วชีวิตของเขา ถูกจัดแสดงอยู่ในส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ รวมถึงงานเซรามิค เครื่องเพชรและเครื่องประดับ รวมไปจนถึงภาพเขียนฝีมือของ Jacque Majorelle ก็แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เช่นกัน
นอกจากนี้แล้วในสวนแห่งนี้ ยังถูกจัดให้เป็นที่รวบรวมนกต่างๆจำนวน 15 สายพันธุ์ที่พบได้ในทวีปอัฟริกาเหนือซึ่งล้วนเป็นสัตว์สงวนมาแสดงให้ผู้เข้าชม ได้รู้จักรูปร้างหน้าตาและสีสันของนกเหล่านี้
ภายในสวนแห่งนี้ นอกจากจะมีพรรณไม้ที่ให้ดอกสีฟ้าแล้ว ยังมีสระน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อน มีทางเดินทอดไปตามแนวต้นไม้ ที่ล้วนเป็นต้นไม้เมืองร้อน เช่นต้นกล้วยชนิดต่างๆ ต้นปาล์ม ชนิดต่างๆ ต้นไผ่และต้นเฟื่องฟ้าสีสันสดใส ซึ่งเป็นที่ตื่นเต้นของชายุโรปที่ไม่ใคร่ได้เห็นพรรณไม้แปลกตาเหล่านี้
เสน่ห์ที่ชวนหลงไหลของสวน Majorelle คือการที่ผู้ออกแบบได้ขุดสระและคลองน้ำให้ลดเลี้ยวไปตามพื้นที่ ทำให้แลเห็นเงาสะท้อนของต้นไม้ต่างๆที่ให้ทั้งกลุ่มใบรูปทรงแปลกๆ รวมทั้งสีของดอกบัวสายที่หลากหลายทำให้แลดูมีชีวิตชีวาและให้ความสดชื่น สร้างความประทัยใจให้ผู้ทีได้มาเยือนแล้วอยากกลับมาอีก
และนี่เองคือเสน่ห์ของสวนแห่งนี้ ที่มีทั้งความงดงามละความสงบ จน Yves Saint Laurent ขอฝากเถ้าธุลีจากร่างของเขาให้คงอยู่ในสถานที่แห่งนี้ตราบชั่วกาลนาน
