xs
xsm
sm
md
lg

หวนคิดถึง “ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์” ผู้ทรงคุณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์
ข่าวการจากไปอย่างสงบด้วยโรคชราของ ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ในวัย 96 ปี ทำให้ทุกคนที่ทราบข่าวทั้งตกใจและแสนจะอาลัยปูชนียบุคคลท่านนี้

ม.ล.เนื่อง อดีตข้าหลวงประจำห้องเครื่องในพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ทายาทหนึ่งเดียวผู้สืบทอดตำรับกับข้าวในวัง อาทิ สะเต๊ะลือ ทอดมันสิงคโปร์ แกงรัญจวน ข้าวตัง-เมี่ยงลาว น้ำพริกลงเรือ ฯลฯ จาก ม.จ.หญิงสะบาย นิลรัตน์ (ท่านย่า) หัวหน้าห้องเครื่องคาวในพระวิมาดาเธอฯ ม.ล.เนื่อง เชี่ยวชาญเรื่องทำเครื่องถวายทั้งคาวหวาน จนได้รับยกย่องให้เป็น
“แม่ครัว 4 แผ่นดิน” ซึ่งท่านก็ได้ถ่ายทอดสูตรอาหารชาววัง พร้อมทั้งสอดแทรกเกร็ดความรู้ต่างๆ เป็นตัวอักษรสู่หนังสือ “ตำรากับข้าวในวัง สูตร ม.ล.เนื่อง” จนกลายเป็นมรดกอันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมการกินของชาววังโบราณให้แก่คนไทยรุ่นหลังที่กินเป็นแต่อาหาร “ฟิวชั่น” ได้รับรู้ถึงความละเมียดของอาหารไทยดั้งเดิม

ม.ล.วารี-ม.ล.สมจิตต์ นิลรัตน์ น้องสาว กล่าวรำลึกถึงพี่สาวผู้จากไปว่า ม.ล.เนื่อง เข้าไปอยู่ในวังตั้งแต่วัยเด็ก แต่จะออกจากวังกลับมารับประทานข้าวด้วยกันที่บ้านเดือนละครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่ลูกสาวกลับมาบ้าน คุณพ่อ (ม.ร.ว.อั้น นิลรัตน์) จะรีบไปซื้ออาหารโปรดมาให้ลูกสาวคนนี้รับประทานเสมอ อาทิ เป็ดย่างที่เยาวยื่น หมี่กรอบที่วัดมหรรณพ์ การใช้ชีวิตในวังมาตั้งแต่เล็กๆ ทำให้ท่านได้ซึมซับเรื่องราวต่างๆ ที่อยู่ภายในรั้วในวังมามากมาย รวมทั้งวิชาการครัวและการเย็บปักถักร้อยในวัง จนถึงยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง ท่านจึงได้ออกจากวังมาอยู่กับครอบครัวและยึดอาชีพเป็นครู

มรดกล้ำค่าอีกเรื่องคือ ท่านได้ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของในรั้วในวังในชื่อ “ชีวิตในวัง” เล่ม 1-2 เมื่อตอนท่านอายุ 72 ปี ทำให้ชาวบ้านที่อยู่นอกวังได้เปิดหูเปิดตาเหมือนได้รับรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน จนทำให้หนังสือเล่มนี้ขายดีมากในยุคนั้น ต่อด้วยหนังสือ “ชีวิตนอกวัง” รวม 17 เล่ม ซึ่งบอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีตที่ควรค่าแก่การบันทึกไว้

“พี่เนื่องเป็นเหมือนพี่สาว เป็นเหมือนเพื่อน คอยให้คำตอบได้ทุกอย่าง ไม่เคยดุน้อง คอยสั่งสอนว่าอะไรดีไม่ดี คอยให้ความห่วงใยมาตลอด” นั่นคืออุปนิสัยอันดีงามของท่านที่มีเมตตาต่อทุกคน ไม่เฉพาะแต่คนในครอบครัว

ด้วยความที่ ม.ล.เนื่องมีอายุยืนยาว ทำให้ผู้หญิงร่างเล็กท่านนี้ ผ่านการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ คุณวิชัย ไวชนะ สามี และบุตรชาย 2 คนไปจนถึงคนที่รักนับถือรอบข้าง แต่ก็สามารถยืนหยัดเผชิญสถานการณ์ต่างๆ มาได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถทำคุณประโยชน์ให้สังคม แม้วัยจะล่วงมาถึงบั้นปลายชีวิต แต่ก็ยังยินดีถ่ายทอดสรรพวิชาและประสบการณ์ให้แก่อนุชนรุ่นหลังอย่างสุดความสามารถ

ม.ล.เนื่อง เสียชีวิตด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลบำราศนราดูร แม้ว่าท่านจะเป็นผู้มีชื่อเสียงและมีผู้คนเคารพนับถือมากมาย แต่งานพระราชทานเพลิงศพของท่านกลับแสนเรียบง่าย เป็นไปตามคำปรารภไว้ของเจ้าตัวก่อนเสียชีวิต คือ ให้สวดศพเพียง 3 วันและเผาเลย

นอกจากนี้คุณข้าหลวงผู้ทรงคุณต่อแผ่นดินท่านนี้ ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน “หีบทองลายองุ่น” หีบบรรดาศักดิ์พิเศษที่น้อยคนนักจะได้รับ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ พระราชทานและประทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพ แม้ที่ผ่านมาจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย โดยมิได้หวังลาภยศสรรเสริญอันใด

ภายในงานได้รับพระกรุณาจาก ม.จ. มงคลเฉลิม ยุคล พระนัดดาในพระวิมาดาเธอฯ เสด็จมาเป็นประธานในงานพระราชทานเพลิงศพ พร้อมด้วย ม.ร.ว. เฉลิมฉัตร วุฒิชัย และ ม.ร.ว. พร้อมฉัตร สวัสดิวัตน์ โอรส-ธิดา ในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร เจ้านายซึ่งเคยประทับในวังสวนสุนันทา เขตพระราชฐาน ที่ ม.ล.เนื่อง เคยใช้ชีวิตในฐานะข้าหลวง และยังมีสมาชิกใน ราชสกุลนิลรัตน์ อาทิ ม.ล.วารี-ม.ล.สมจิตต์ นิลรัตน์,นิจ เหลี่ยมอุไร (บุตรบุญธรรม), ขันธพงษ์-กระมลลมัย-สมุทรไทย ไวชนะ ผู้เป็นทายาท ฯลฯ มาร่วมงานด้วย

ด้วยยามมีชีวิตอยู่นั้น ม.ล.เนื่องจะเป็น “ขาประจำ” ของละครกรมศิลปากร ดังนั้น เมื่อท่านเสียชีวิตบรรดานักแสดงของกรมศิลปากร จึงพร้อมใจกันมาเล่นมหรสพหน้าไฟในวันพระราชทานเพลิงศพ มีทั้ง โขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สำมนักขาก่อศึก โดยการนำของ อ.สมรัตน์ ทองแท้ นักวิชาการระดับชำนาญการ และ การแสดงฉุยฉายบุเรงนอง จากเรื่องผู้ชนะสิบทิศ บทประพันธ์ ที่ ม.ล.เนื่อง ชื่นชอบ แสดงโดย ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ นาฏศิลปินอาวุโสที่โปรดปราน ซึ่งออกมาร่ายรำในชุดบุเรงนองที่สวยงาม ฝีมือการออกแบบตัดเย็บของ พีรมณฑ์ ชมธวัช เจ้าของคณะละครอาภรณ์งาม ในระหว่างพิธีการจนถึงการแสดง ในงานพระราชทานเพลิงศพครั้งนี้ ยังมีการประโคมโดยวงปี่พาทย์มอญ ตามประเพณีนิยมมาแต่โบราณที่หาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน

จากนั้น เมื่อเวลา 17.00 น. ม.จ. มงคลเฉลิม ยุคล ประธานในพิธีเสด็จขึ้นไปทรงวางข้าวตอกดอกไม้ ดอกไม้จันทน์หน้าหีบศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประทานดอกไม้จันทน์ มาในการนี้ด้วย บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอาลัยคิดถึง ซึ่งแขกที่มาร่วมงานต่างกล่าวรำลึกถึงผลงานด้านต่างๆ ทั้ง งานเขียน ตำรับกับข้าวในวัง รวมถึงอัธยาศัยไมตรีของ ม.ล.เนื่อง ที่มีต่อคนทุกวัยเรื่อยมา

ส่วนของที่ระลึกในงาน เจ้าภาพยังได้จัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ มอบให้แก่ผู้มาร่วมงานเป็น หนังสือชีวประวัติของ ม.ล.เนื่อง โดยภาพปกเป็นภาพท่านในชุดครุย เมื่อครั้งเข้ารับพระราชทาน ปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อปี 2545

ภายในเล่มประกอบด้วย คำสัมภาษณ์ถึงตำรับอาหารในวัง และ สูตรอาหาร 6 ตำรับที่ได้รับความนิยม ในเนื้อหาสอดแทรกด้วยเกร็ดความรู้เกี่ยวกับอาหารในวัง ซึ่ง ม.ล.เนื่อง ให้ข้อคิดเห็นไว้ว่า สูตรอาหารในวังที่คนเอาไปทำกันทั่วไป มักตัดของบางอย่างออก แล้วเติมสิ่งที่ตนเองชอบลงไป ก็จะทำให้ไม่อร่อยตามสูตรอาหารนั้นๆ ส่วนเรื่องที่คนชอบพูดกันว่า ชาววังกินหวานนั้น แท้ที่จริงแล้ว ชาววังจะกินรสชาติที่เสมอ กลมกล่อมกัน คือ เปรี้ยว เค็ม หวาน

หนังสืองานศพบางๆ เล่มนี้ คงพอจะบอกเล่าเรื่องราวเพียงย่อๆ ถึงสิ่งที่ ม.ล.เนื่อง ได้ฝากไว้ต่อแผ่นดินเพื่ออนุชนรุ่นหลัง


ทายาท ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์
วงปี่พาทย์มอญประโคมระหว่างพิธีการ
เครือญาติเดินเวียนเมรุ
โขนชุดสำมนักขาก่อศึก
ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ ในบทบุเรงนอง
นิจ เหลี่ยมอุไร มอบพวงมาลัยให้ศิลปิน
ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร เชิญดอกไม้จันทน์ของพระองค์โสมฯ
ม.ร.ว.เฉลิมฉัตร วุฒิชัย, ม.จ.มงคลเฉลิม ยุคล, ม.ร.ว.พร้อมฉัตร สวัสดิวัตน์
ม.ล.สมจิตต์-ม.ล.วารี นิลรัตน์
เปรมจิตต์ นิลรัตน์ ณ อยุธยา
ม.ล. พร้อมศรี พิบูลสงคราม
สัมพันธ์-รศ.ดร. คุณหญิง วินิตา ดิถียนต์, มนันยา ธนะภูมิ
อ.แสงอรุณ สำราญผล , อาทร-ผศ.สมศรี ปทุมสูตร
อ.ศรีสมร คงพันธุ์ และคณะ
กวิภัฎ วสุวานิช, นพมณี นนทลี, มนันยา ธนะภูมิ ทักทายกันและกัน
รับหนังสือที่ระลึกงานศพ
ม.จ.มงคลเฉลิม ทรงวางดอกไม้จันทน์
แขกในงานร่วมวางดอกไม้จันทน์
บรรยากาศในงานพระราชทานเพลิงศพ
กำลังโหลดความคิดเห็น