ยามหวนคิดถึงชายหาดเมืองหัวหิน วันคืนเก่าๆ ย้อนกลับคืนมาได้ในทันใด กลายเป็นที่มาของเทศกาลพาเหรดรถโบราณแห่งเมืองหัวหิน หนึ่งในกิจกรรมคู่ปฏิทินการท่องเที่ยวที่หลายคนตั้งตาคอย เพื่อร่วมอนุรักษ์รถโบราณที่นับวันจะยิ่งหาชมได้ยาก เป็นการให้ความรู้ด้านวิวัฒนาการและมรดกด้านรถยนต์ของประเทศไทย ในบรรยากาศสุดคลาสสิก ณ ร.ร. โซฟิเทลเซ็นทาราแกรนด์รีสอร์ทและวิลลา หัวหิน หรือ ร.ร. รถไฟหัวหิน สถานที่พักตากอากาศในลักษณะของโรงแรมแห่งแรก
กิจกรรมเทศกาลพาเหรดรถโบราณ ครั้งที่ 7 ที่ผ่านมา นับเป็นการร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 100 ปี เมืองหัวหินอย่างยิ่งใหญ่ เริ่มด้วยการปล่อยรถโบราณและรถคลาสสิกกว่า 50 คัน เคลื่อนตัวออกจาก โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ในช่วงเช้า มุ่งหน้าสู่ บ้านขนมนันทวัน จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยัง นาน่ารีสอร์ทแอนด์สปา แวะชมวิวเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเยี่ยมชม เพชรวารินทร์รีสอร์ท เพื่อจิบชายามบ่าย ก่อนจะเคลื่อนขบวนต่อไปยังโรงแรมรถไฟ เพื่ออวดโฉมรถโบราณที่เจ้าของรถแม้จะรักและหวงขนาดไหน งานนี้ต่างเต็มที่ เพื่อร่วมทำบุญ โดยนำรายได้ทั้งหมดจากกิจกรรมการกุศลตลอด 3 วันเต็ม ร่วมสมทบทุน มูลนิธิชัยพัฒนา
ส่วนขบบวนรถโบราณที่เจ้าของยินดีให้นักท่องเที่ยวได้นั่งกินลมชมเมืองหัวหินในปีนี้ ต่างก็มาพร้อมเรื่องราวที่น่าสนใจในเสน่ห์แห่งรถเก่า นำทีมโดย ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ที่แจกแจงถึง “รถโบราณ” ว่าแท้จริงแล้วรถที่คนรุ่นใหม่เห็นว่าเป็นรถเก่า รถโบราณนั้น แบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ “รถโบราณ” หรือ Vintage Car คือรถที่ผลิตขึ้นก่อนปี 1940 ส่วนรถที่ผลิตขึ้นในช่วงปี 1940-1955 เรียก “รถหลังสงคราม” หรือ Post War Car สุดท้าย เป็นรถที่ผลิตขึ้นในช่วงปี 1956-ปัจจุบัน (ถอยหลังไป 25 ปี) จะเรียกรถกลุ่มนี้ว่า “รถคลาสสิก” หรือ Classic Car
“เสน่ห์ของรถเก่าขึ้นอยู่กับการให้คุณค่ามากกว่า บางคนมองว่าเป็นของเก่า อาจดูไร้ค่า แต่สำหรับผม ที่มีใจรัก ใจชอบ และตาถึง ซึ่งบางครั้งคนอื่นอาจไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทุ่มเทกับรถเก่ามากขนาดนี้ จนกว่าจะทำมันออกมาได้สำเร็จ อย่างรถ BMW 503 COUPE ที่ผลิตขึ้นในช่วง 1956-1959 ก็มีกว่า 400 คัน เท่านั้น ถึงตอนนี้ก็พบว่าในเอเชียมีอยู่แค่ 2 คัน ในบ้านเรามี 1 คัน ก็ถือเป็นสมบัติของชาติไปด้วย ซึ่งจริงๆ การจะเข้ามาสู่แวดวงคนรักรถโบราณนั้นไม่ยาก เรื่องเงินไม่ใช่อันดับแรก ขอให้มีใจรัก เก็บสะสมข้อมูลเกี่ยวกับรถรุ่นต่างๆ มาแลกเปลี่ยนกัน หรืออาจเริ่มจากการเป็นเจ้าของรถในราคาหลักหมื่น ก็สามารถใช้งานรถโบราณที่เรารักได้อย่างภาคภูมิใจ”
พจน์ วิจิตรานนท์ ที่ขับ Mercedes-Benz 300 SL Gulwing ปี 1955 มาร่วมงานนี้พร้อมน้องแทน ลูกชาย และเพื่อนต่างรุ่นอย่าง ชูเดช เตชะไพบูลย์ ก็แฮปปี้ไม่แพ้กัน ที่ได้ออกกำลังรถเก่าสุดหวง แถมยังได้ร่วมทำบุญส่งท้ายปีไปในตัว
“รถโบราณ โอกาสที่จะได้ขับไม่เหมือนรถรุ่นใหม่ทั่วไป การได้ขับรถโบราณมารวมตัวกันในสถานที่สวยๆ อย่าง โรงแรมรถไฟ ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันอย่างดี เสน่ห์ของรถโบราณอีกอย่างคือ ที่เห็นภายนอกสวย ดูคลาสสิก แต่การจะขับมันไปบนถนนไม่ใช่เรื่องง่าย ขับไปซ่อมไปก็มี เหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา”
ส่วนรถเบนซ์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นรถแฮนด์เมด C 111 รุ่นพิเศษ ของ กฤษดา อินอิว ก็เป็นขวัญใจของคนชอบรถเก่ารุ่นเล็กจนต้องขอสัมผัสรถคันนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน พร้อมกันนี้เจ้าของรถรุ่นเก๋ายังฝากถึงคนรุ่นใหม่ด้วยว่า “เสน่ห์ของรถเก่า นอกจากจะอยู่ที่รูปทรงและงานดีไซน์ ที่บ่งบอกถึงความล้ำยุคเหนือกาลเวลาแล้ว นวัตกรรมรถโบราณเหล่านี้ ยังเป็นตำนานระดับชาติ เป็นสมบัติของชาติ ที่คนรุ่นหลังควรจะช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่ต่อไป”
