อีกหนึ่งหนุ่มน้อยจากครอบครัวตระกูลเก่าแก่ของไทย “โฟน-หม่อมหลวงอธิพรพงศ์ ชยางกูร” หนุ่มน้อยที่สืบเชื้อสายมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ที่วันนี้เมื่อสังคมและยุคสมัยได้เปลี่ยนไป และเขาต้องปรับตัวตาม ฉะนั้น เขาจึงเป็น “หม่อมหลวง” ที่เขาบอกกับเราว่า “ผมใช้ชีวิตธรรมดาติดดิน ไม่พิเศษกว่าใคร!”
หนุ่มน้อยวัย 21 ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ เขาเป็นเหลนปู่ของพระองค์เจ้าไชยานุชิต หลานปู่ของ “หม่อมเจ้าเวียงวัฒนา ชยางกูร” และลูกชายของ “หม่อมราชวงศ์พงศ์ไชยา ชยางกูร” กับคุณแม่ “ศรีรัตนา ชยางกูร ณ อยุธยา” ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ คณะมนุษย์ศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 1มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาได้ค้นหาตัวเองอยู่พักใหญ่
“ก่อนหน้านี้เรียนด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรม แต่รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เลยขอคุณพ่อคุณแม่ย้ายไปเรียนอะไรที่เราชอบ ซึ่งเมื่อมานั่งวิเคราะห์ตัวเองเรารู้สึกว่าเราชอบด้านภาษา ก่อนหน้านี้ก็เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนจิตรลดา พอปรึกษาคุณแม่แล้ว แนะนำให้เลือกเรียนเอกภาษาอังกฤษ และวิชาโทเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเราก็ว่าดีเพราะเป็นสิ่งที่เราสนใจทั้งสองด้าน”
การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยแม้จะมีคำว่า หม่อมหลวง นำหน้าอยู่ด้วย ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค เป็นเพราะการเลี้ยงดูของครอบครัวที่เรียบง่าย ทำให้เขาเข้ากับทุกคนได้ง่าย
“เทอมแรกยังไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนเท่าไหร่ แต่พอเทอมสองก็เริ่มจับกลุ่มกับเพื่อน แรกๆ เพื่อนก็ไม่รู้ว่าเราเป็นหม่อมหลวง เขาเห็นในใบรายชื่อเขาก็พยายามดูว่าเป็นใคร แต่พอเพื่อนรู้แล้ว เขาก็แซวว่าไม่เหมือนหม่อมหลวงเลย เราก็บอกว่าเราก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ เพราะเราทำตัวติดดินมาก”
ครอบครัวของโฟนนอกจากคุณพ่อและคุณแม่แล้วเขายังมีพี่ชาย (หม่อมหลวงรัตนพงษ์ ชยางกูร) อีกหนึ่งคน ที่เขาบอกว่าเขาเป็นภาคที่ตรงกันข้ามกับพี่ชายอย่างสิ้นเชิง!
“พี่ชายห่างกับผม 3 ปี เขาทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น พี่ชายเป็นคนเรียบร้อย แต่โฟนจะตรงกันข้ามกับพี่ชายเลย เป็นฝ่ายบู๊กับบุ๋น เช่น เล่นเทนนิส พี่ชายจะชอบตีแบบวางแผน แต่เราชอบใช้กำลัง พี่ชายชอบฟังเพลงสบายๆ รื่นหู แต่โฟนชอบฟังเพลงแบบทลายหู (หัวเราะ)
...ผมเป็นคนมีหลายอารมณ์ อย่างฟังเพลงก็จะเหมือนกับขึ้นรถไฟเหาะ บางเพลงก็นิ่มๆ สบายๆ แต่เพลงถัดไปกลายเป็นเพลงอารมณ์แรงๆ แต่ผมจะเป็นคนสองนิสัย คือ เวลาอยู่ที่บ้านจะเป็นคนใจร้อน อาจจะเป็นเพราะว่าเราเป็นลูกคนเล็ก ก็เลยเอาแต่ใจบ้าง แต่ถ้าคนที่รู้จักกันผิวเผินจะมองว่าโฟนใจเย็น เพราะโฟนไม่เรื่องมาก”
สำหรับความจริงกับความฝันที่เขาฉายภาพให้เราเห็นนั้น เขาบอกว่าตอนเด็กๆ อยากเป็นนักเทนนิส เพราะเล่นเทนนิสมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จนได้มีโอกาสเข้าแข่งขันเทนนิสก็รู้สึกถึงความสนุกที่ได้ต่อสู้แข่งขัน แต่อนาคตที่จะตเดินต่อไปอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่เคยฝันไว้ตอนเด็ก
“เคยเข้าแข่งขันเทนนิสแล้วชนะก็เลยมีกำลังใจซ้อมหนัก พอเรียนมหาวิทยาลัยก็เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยไปแข่งขันบ้าง แต่พักหลังไม่ค่อยมีเวลาและไลฟ์สไตล์ก็เปลี่ยนไป นอกจากการเรียนแล้วก็แฮงก์เอาต์กับเพื่อนๆ บ้าง ดูหนังฟังเพลงตามประสาวัยรุ่น แล้วก็ชอบถ่ายภาพ พี่ชายเขาซื้อกล้องมา เราก็เลยขอเล่นกับเขาบ้าง
ส่วนอนาคตผมอยากเรียนต่อปริญญาโท หรือทำงานในองค์กรเกี่ยวกับญี่ปุ่น ที่ชอบประเทศญี่ปุ่นมากเพราะว่าช่วงมัธยมปลายเคยไปเข้าค่ายแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นโครงการของโรงเรียนจิตรลดากับโรงเรียนจุนเซ็น ซึ่งเราเห็นว่าบ้านเมืองเขาสะอาดเหลือเชื่อ คนเป็นระเบียบ ไปแล้วชอบทุกอย่าง เลยฝันว่าอยากจะทำงานที่เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น”
ไม่ว่าจะเป็นหม่อมหลวงหรือคนธรรมดาทุกคนก็ล้วนแล้วแต่มีความฝันด้วยกันทั้งนั้น เช่นเดียวกับเขาที่วันหนึ่งเขาก็อยากจะทำให้ฝันเป็นจริง
Profile
ชื่อเล่น :: โฟน
อายุ :: 21 ปี
การศึกษา :: คณะมนุษย์ศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
กีฬาที่ชอบ :: เทนนิส
สเปกสาวๆ ที่ใครๆ ก็อยากรู้ :: สำหรับผู้หญิงที่มองแวบแรกแล้วปิ๊ง คือ หน้าตาสไตล์ญี่ปุ่น สูง หุ่นดี นางแบบ ช่างคุย จู้จี้ จุกจิกนิดหน่อย แม้บางครั้งอาจจะรำคาญแต่ก็ชอบครับ
Special Thanks :: THANN native tea room ชั้น3 ศูนย์การค้าเกษร โทรศัพท์ 0-2656-1399 เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายภาพ
