xs
xsm
sm
md
lg

คือน้ำตา คือชัยชนะ คือ ‘เฟเดอเรอร์’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทันทีที่ โรบิน โซเดอร์ลิง "แจ๊คผู้ฆ่า นาดาล" ยิงโฟร์แฮนด์ติดเน็ต วินาทีนั้น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสมือ 2 ของโลก ทิ้งตัวลงบนพื้นสนามฟิลลิป ชาตริเยร์ แห่ง โรลังด์ การ์รอส พร้อมหลั่งน้ำตาแห่งชัยชนะและ ความปีติยินดีเป็นสัญญาณว่าการรอคอยอันยาวนานของหนุ่มจากเมืองบาเซิล สวิสเซอร์แลนด์ ได้สิ้นสุดลงแล้วหลังคว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพน สมัยแรกจากการผ่านเข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 4 นอกจากนี้ยังทำสถิติเป็นแชมป์แกรนด์สแลม 14 สมัยเทียบเท่า พีต แซมพราส ตำนานชาวอเมริกัน

ตลอด 7 แมตช์ใน โรลังด์ การ์รอส 2009 เฟเดอเรอร์ วัย 27 ปีหวุดหวิดจะปราชัยหลายต่อหลายครั้งไล่ตั้งแต่รอบที่ 4 ถูก ทอมมี ฮาส จากเยอรมนีนำไปถึง 2 เซตก่อนพลิกกลับมาชนะได้ใน 5 เซตจนถึงรอบตัดเชือกที่ถูก ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร จากอาร์เจนตินาขึ้นนำ 2-1 เซตแต่ยังคงรักษาฉายา ‘เฟด-เอ็กซ์’ พลิกเกมจนผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศกับ โรบิน โซเดอร์ลิง ม้ามืดจากสวีเดนที่ในรอบ 4 ของทัวร์นาเมนต์พลิกล็อกโค่น ราฟาเอล นาดาล "คู่แค้นฟ้าลิขิต" ของแร็กเก็ตเทพชาวสวิสฯมาได้

การคว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพน 2009 ของเฟเดอเรอร์ได้ทำให้เขากลายเป็นนักเทนนิสรายที่ 6 ในประวัติศาสตร์สักหลาดโลกที่ได้ครองสแลมครบทั้ง 4 รายการต่อจาก เฟรด เพอร์รี , ดอน บัดจ์ ,รอย อีเมอร์สัน ,รอด เลเวอร์ และ อังเดร อากัสซี ชณะเดียวกันยังเป็นนักเทนนิสคนที่ 2 ต่อจาก อากัสซี ที่สามารถพิชิตแชมป์ทุกพื้นผิวเนื่องจาก ยูเอส โอเพน และ ออสเตรเลียน โอเพน เพิ่งเปลี่ยนจากคอร์ตหญ้ามาใช้ฮาร์ดคอร์ตในปี 1978 (เปลี่ยนเป็นคอร์ตดินก่อน 3 ปี) และ 1988 ตามลำดับ

ความดีใจของเฟเดอเรอร์ ที่หลั่งออกมาเป็นน้ำตาก่อนเดินไปจับมือกับ โซเดอร์ลิง จากนั้นพอถึงจังหวะรับถ้วยแชมป์ "กูป เดอ มุสเกอแตร์" จากมือของ อากัสซี อดีตมือ 1 โลก 237 สัปดาห์ เฟด-เอ็กซ์ ถึงกับกลั้นสะอื้นไม่อยู่ ยอดนักเทนนิสที่กำลังจะกลายเป็นคุณพ่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ยอมรับว่าเกิดจากความรู้สึกปลดปล่อยหลังต้องแบกรับความความกดดันตลอด 2 สัปดาห์

"ผมยอมรับว่าอารมณ์ในการลงเล่นแกรนด์สแลมไม่ต่างจากความรู้สึกของเด็กเวลานั่งรถไฟเหาะ ที่ต้องแบกรับความกดดันมหาศาลจากสถานการณ์วิกฤตที่ต้องเอาตัวรอดให้ได้ บางครั้งต้องเจอลมแรง ฝนตก พบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง อย่างในเกมสุดท้ายกับ โซเดอร์ลิง ยอมรับว่าใจจริงผมอยากจะเสิร์ฟ 4 ลูกแล้วแช่งให้เขาตีออกไปทั้งหมด ผมแทบจะคุมสติตนเองเพื่อตีโต้ท้ายคอร์ตไม่ได้ นั่นคือเหตุผลที่ทำไมหลังจากปิดเกมและ แมตช์ได้ผมจึงรู้สึกปลดปล่อยสุดขีดจนน้ำตาไหลออกมา"

ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อน เฟเดอเรอร์ ร้องไห้ในสนามเทนนิส ออล อิงแลนด์ เมื่อสามารถเอาชนะ มาร์ก ฟิลิปปูสซิส จากออสเตรเลียคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน มาครองเป็นสมัยแรก จากนั้นก็หลั่งน้ำตาต่อเนื่องทุกชัยชนะใน สนามแกรนด์สแลมรวมทั้งหมด 14 รายการ ทว่านอกเหนือจากน้ำตาแห่งความปลดปล่อยและดีใจที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับชัยชนะแล้ว "เฟดเอ็กซ์" ยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าน้ำตาในรอบชิงชนะเลิศ วิมเบิลดัน 2008 และ ออสเตรเลียน โอเพน เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเกิดจาก “ความผิดหวัง” ที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับ นาดาล

โดย รอด เลเวอร์ ตำนานชาวออสเตรเลียวัย 70 ปีซึ่งเคยมีประสบการณ์สัมผัสน้ำตา เฟเดอเรอร์ มาหลายครั้ง กล่าวย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 สมัย เฟดเอ็กซ์ คว้าแชมป์ ออสเตรเลียน โอเพน เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันว่า "ผมจับมือแล้วยื่นโทรฟีไปให้ โรเจอร์ ทันใดนั้นเขาก็ร้องไห้ออกมาและเริ่มพูดอะไรไม่ออก หลังจากนั้นเมื่อเราทั้งสองคนเดินเขาไปใต้อัฒจันทร์ เขาก็เข้ามากอดผมแล้วกล่าวคำขอโทษที่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาให้เกียรติผมเป็นอย่างมาก ผมเชื่อว่า โรเจอร์ ร้องไห้ให้กับความสำเร็จของตนเองที่สามารถมาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้บนเเผ่นดิน ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบ้านของผม”

ด้าน คริส เอเวิร์ต อดีตแชมป์แกรนด์สแลมหญิงเดี่ยวถึง 18 สมัยยอมรับเธอต้องแอบร้องไห้ตามทุกครั้งที่ เฟเดอเรอร์ ร้องไห้แม้ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวโดยกล่าวว่า "ฉันสัมผัสได้ถึงความปรารถนาในชัยชนะและความสำเร็จของ โรเจอร์ เพราะฉะนั้นเวลาเขาพ่ายแพ้จึงรู้สึกเห็นใจสุดขีดและน้ำตาก็ไหลออกมาเอง ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร”

ทั้งนี้ตำนานหลายต่อหลายคนไม่ว่าจะเป็น จอห์น ลอยด์ ,พีต แซมพราส ,อังเดร อากัสซี และ รอด เลเวอร์ ต่างยอมรับในความยิ่งใหญ่ของ เฟเดอเรอร์ และเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่จะยกให้นักหวดสวิสผู้นี้เป็น G.O.A.T. (Greatest of All Time) หรือ "ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล" ขณะที่ อีวาน เลนเดิล อดีตมือ 1 โลกเชื่อว่าความยิ่งใหญ่ตลอดกาลในโลกเทนนิสมิอาจหาข้อสรุปได้เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้นักเทนนิสในปัจจุบันเดินทางได้สะดวกตลอดจนโด่งดังในหน้าสื่อมากกว่า ซึ่งไม่ว่าบทสรุปจะเป็นเช่นใด โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ได้พิสูจน์แล้วว่ามี "หัวใจ" ของแชมเปี้ยนที่จะต่อสู้ให้ถึงที่สุดจนกระทั่งน้ำตาแห่งชัยชนะนั้นหลั่งรินออกมา

กำลังโหลดความคิดเห็น