ปกติแล้วเรามักจะได้ยินคำว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น การยึดแนวทางประกอบอาชีพหรือการดำเนินชีวิตตามบรรพบุรุษนับเป็นสิ่งคนไทยเราคุ้นชิน
แต่วันนี้เราจะไปคุณไปรู้จักกับลูกไม้ที่ปลิวหล่นไกลต้นและเติบใหญ่ได้ด้วยตนเองอย่างหนุ่มนักออกแบบมาดเซอร์ “เขมฤกษ์ เกษมสันต์ ณ อยุธยา” ลูกชายคนเดียวของ “หม่อมหลวงไกรฤกษ์ เกษมสันต์” ผู้พิพากษาอาวุโส อดีตรองประธานศาลฎีกาและอดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่เลือกก้าวเดินทางชีวิตในโลกแห่งการออกแบบได้อย่างงดงาม
เขมฤกษ์ หรือ โจ้ เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มนักออกแบบขนานแท้ ชื่นชอบในเรื่องการดีไซน์มาตั้งแต่เด็ก เขาเรียนจบจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ และทำงานด้านการดีไซน์มาโดยตลอด
เริ่มจากร่วมงานกับบริษัทการออกแบบงานแฟร์ นิทรรศการ จนข้ามมาออกแบบเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศซึ่งเป็นสิ่งที่เขาบอกว่าชอบและถนัดที่สุด ที่บริษัทแพรกติก้าและโมเดิร์นฟอร์ม ก่อนจะออกมาทำงานฟรีแลนซ์ รับออกแบบทั้งทั้งเฟอร์นิเจอร์ ออกแบบบูธ งานแฟร์ ไปจนถึงการตกแต่งบ้านและห้างร้าน โดยตั้งบริษัทของตัวเองในชื่อ วัลลาซ์ (Wallah) ซึ่งเป็นภาษาอินเดีย แปลว่า คนทำงานเฉพาะทาง
และตอนนี้เขาได้รับเลือกเขามาเป็น 1 ในดีไซเนอร์ในโครงการ ดีไซเนอร์ ซีรีย์ ประจำปีนี้ของโมเดิร์นฟอร์ม ออกแบบเฟอร์นิเจอร์คอลเลกชั่นพิเศษที่ชื่อว่า เดอะ ดีไซเนอร์ เจอร์นีย์ (The Designer Journey) ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการที่เขากลับมาร่วมงานกับโมเดิร์นฟอร์มเป็นครั้งที่ 3 แล้ว
“ครั้งแรกสมัยเป็นนักศึกษาที่ชนะเลิศรางวัลการประกวดการออกของโมเดิร์นฟอร์ม แล้วได้ไปดูงานที่เมืองโคโลนญ์ ประเทศเยอรมนี และเมื่อไม่กี่ปีที่แล้วได้เข้าทำงานกับโมเดิร์นฟอร์มออกแบบแบรนด์เฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพ”
โครงการ ดีไซเนอร์ ซีรีย์ ได้ทำต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว มีทั้งเชิญคนดังจากวงการต่างๆ มาออกแบบคอลเลกชั่นพิเศษในคอนเซ็ปต์ต่างๆ โดยในปีนี้โมเดิร์นฟอร์มครบรอบ 30 ปี จึงเชิญเอาผู้ชนะการประกวดในอดีตกลับมารวมงานกันอีกครั้ง ในชื่อ เดอะ ดีไซเนอร์ เจอร์นีย์ ที่สื่อถึงระยะทางของแต่ละคนที่เคยมีผลงานกับโมเดิร์นฟอร์มแล้วแยกย้ายกันไปเติบโตขึ้น ให้นำเอาประสบการณ์และฝีมือที่พัฒนาขึ้นแสดง โดยการให้นำเอาเฟอร์นิเจอร์ตัวที่ขายดีมาเป็นต้นแบบ
“คอนเซ็ปต์นี้เข้ากับเทรนด์ในปัจจุบันมาก เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ในประเทศยุโรป สไตล์การดีไซน์ก็จะนิยมการใช้การรี-โมเดล สินค้ายอดนิยม เอามาออกแบบเพิ่มเติม หรือ เปลี่ยนสีใหม่ ให้ดูดีขึ้น ซึ่งผลงานของผมชื่อ Mauros ที่ผมหยิบเอาโต๊ะทำงาน President K มาปรับเป็น
โดยได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงลวดลายสไตล์แขกมัวร์ หรือรูปทรงเรขาคณิตตามสถาปัตยกรรมสเปน มาเพิ่มมิติให้กับตัวโต๊ะ โดยรูปทรงของโต๊ะเกิดจากการพับไปมาตามระนาบเส้นตัดกันลองลวดลาย ออกมามีเหลี่ยมมุมที่แปลกตา พร้อมทั้งจัดวางระบบเดินสายและการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ไว้แอบไว้อย่างเรียบร้อย”
วิธีการคิดและการออกแบบที่ไม่ธรรมดาของเขมฤกษ์ ที่ต้องอาศัยการตัด แกะ เนื้อไม้ให้ออกมามีมิติ นับเป็นดีไซน์ที่ต้องใช้เทคนิคการผลิตสูง ทำให้ต้องใช้เวลานานและยากลำบากในการผลิต
“ในวิธีการคิดดีไซน์ อย่ามัวแต่ไปคิดว่ามันจะทำไม่ได้ หรือไปห่วงกังวลเรื่องการผลิตมากจนมันมาปิดกั้นการสร้างสรรค์ของเรา เพราะทุกครั้งที่เราทำอะไรยากๆ มันก็พยายาม ทำให้เกิดพัฒนา ฝ่ายการผลิตเขาก็ได้เรียนรู้ คิดค้นวิธีใหม่ๆ ด้วย ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่สำเร็จก็ถือว่าได้เรียนรู้ แต่ถ้าชิ้นไหนสำเร็จ มันก็เท่ากับว่าเราได้เพิ่มความสามารถขึ้นมาในอีกระดับหนึ่ง...
อีกสิ่งคือการศึกษาเพิ่มเติม หาความรู้ ไม่หยุดนิ่ง การทำงานดีไซน์ ทุกครั้งที่เริ่มงาน คิดจะออกแบบอะไรสักอย่าง มันต้องค้นหาข้อมูล เรียนรู้ใหม่อยู่ตลอด เพราะงานพวกนี้รายละเอียดเยอะและต้องรู้จริง ศึกษาจริง บางงานอาจจะยากมาก เหนื่อยมาก แต่ถึงโจทย์จะยากยังไงเราก็ต้องยิ้มสู้เพราะถ้าทำสำเร็จมันก็คือความภูมิใจและประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นของเรา”
ได้พูดคุยกับหนุ่มนักออกแบบพันธุ์แท้ขนาดนี้แล้ว เราจึงอดถามไม่ได้ว่าหัวใจสำคัญที่นักออกแบบควรมีคืออะไร “สำหรับนักออกแบบการศึกษาเทรนด์ ดูกระแส ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรรู้ แต่ไม่ควรจะตามเทรนด์มาก น่าจะทำให้งานออกมามีเอกลักษณ์ในสไตล์ของเรามากกว่า” เขมฤกษ์กล่าวทิ้งท้าย
Profile
ชื่อเล่น :: โจ้
อายุ :: 33 ปี
การศึกษา :: จบปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
การทำงาน :: เจ้าของบริษัท วัลลาซ์ จำกัด บริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายใน
กิจกรรมโปรด :: เล่นกีต้าร์ ตีกอล์ฟ