เสียวหมี่ (Xiaomi) นับว่าออกเพาเวอร์แบงก์มาได้ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เริ่มหันมาใช้งานสมาร์ทโฟนที่รองรับการชาร์จเร็ว ไปจนถึงใช้เพื่อชาร์จอุปกรณ์พกพาอื่นๆ โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ ซึ่งประหยัดพลังงานมากขึ้น เพาเวอร์แบงก์รุ่นนี้ก็เอาอยู่
จุดเด่นของ Xiaomi 212W HyperCharge คือให้กำลังไปรวมสูงสุดที่ 212W ทำให้สามารถชาร์จได้ 3 อุปกรณ์พร้อมกัน โดยพอร์ตที่ให้กำลังไฟสูงสุดจะอยู่ที่ 140W ใช้ชาร์จ MacBook Pro 16” ได้สบายๆ โดยมากับแบตเตอรี่ขนาด 24,500 mAh (89Wh) ทำให้พกพาขึ้นเครื่องบินไปด้วยได้
ตัวเครื่องของเพาเวอร์แบงก์ ออกแบบมาให้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ทั้งรูปทรงแท่งที่ดูให้ความแข็งแรง มีการใช้ดีไซน์โปร่งใส เผยให้เห็นชิปเซ็ตที่อยู่ด้านในเพื่อสื่อถึงเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการชาร์จ และมีหน้าจอแสดงผลที่ชัดเจน บอกสถานะของการใช้งานครบถ้วน
โดยหน้าจอที่ให้มาเป็นหน้าจอสี ที่ให้ข้อมูลทั้งเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ เวลาชาร์จเข้าจะมีบอกจำนวน mAh และระยะเวลาชาร์จ ส่วนเวลาใช้งานจะแสดงสถานะ mAh ที่เหลืออยู่ และความเร็วในการชาร์จว่าได้กี่ mAh ต่อนาที เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีแสดงผลถึงโปรโตคอลในการชาร์จ ที่รองรับการชาร์จที่เป็นมาตรฐานทั้ง Power Delivery 3.1 / Quick Charge 3.0 รวมถึงเทคโนโลยีในการชาร์จของสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนอย่าง OPPO vivo HUAWEI HONOR รวมถึงของ Xiaomi เองด้วย ทำให้สามารถชาร์จเร็วกับสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลา
ในการชาร์จไฟเข้าเพาเวอร์แบงก์ ตามปกติแล้วถ้าใช้ชาร์จกับอะแดปเตอร์ 100W จะชาร์จแบตขนาด 24,500 mAh เต็มได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าอยากให้เร็วกว่านั้น Xiaomi 212W HyperCharge ยังสามารถใช้พอร์ต USB-C2 เพื่อรับกำลังไฟเข้าได้อีก 45W รวมเป็น 145W ซึ่งจะทำให้ระยะเวลาการชาร์จลดลงด้วย
ทั้งนี้ แต่ะละพอร์ตที่ให้มาจะจ่ายกำลังไฟไม่เท่ากัน อย่างพอร์ต USB-C1 จะสามารถจ่ายไฟออกได้สูงสุด 140W USB-C2 ได้ 45W และ USB-A ได้สูงสุด 120W (ใช้เวลาชาร์จสมาร์ทโฟนแบรนด์จีน ที่ใช้พอร์ต USB-A to USB-C)
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเคลมที่ 212W ที่สามารถจ่ายไฟออกได้พร้อมกันนั้น ค่อนข้างมีเงื่อนไขเฉพาะคือ USB-C1 จ่ายไฟสูงสุดที่ 65W ตามด้วย USB-C2 จ่ายไฟ 27W และ USB-A จ่ายไฟ 120W ที่ต้องใช้สายเฉพาะ Xiaomi 6A Type-C จับคู่กับสมาร์ทโฟนที่รองรับการชาร์จเร็ว 120W ด้วย
ภายในของเพาเวอร์แบงก์ Xiaomi 212W HyperCharge จะใช้การบรรจุแบตเตอรี่ขนาด 4,900 mAh รวมกัน 5 ก้อน ทำให้ได้ขนาดรวม 24,500 mAh ซึ่งเป็นความจุที่สามารถพกขึ้นไปบนเครื่องบินได้ แต่ด้วยมาตรฐานใหม่ที่การบิน จะห้ามใช้เพาเวอร์แบงก์ระหว่างเดินทางด้วย ถือว่าเป็นการพกไปใช้งานในปลายทางมากกว่า
ในส่วนของมาตรฐานความปลอดภัย Xiaomi 212W HyperCharge จะมีทั้งชิปและตัววัดอุณหภูมิมาช่วย ในเรื่องของการป้องกันอุณหภูมิ การป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร การป้องกันการรีสตาร์ท การป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกินขาเข้า การป้องกันกระแสไฟเกินขาเข้า การป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกินขาออก การป้องกันกระแสไฟเกินขาออก การป้องกันการชาร์จเกินและคายประจุเกิน และการป้องกันวัตถุแปลกปลอม ทำให้มั่นใจถึงการใช้งานได้
สรุป
กับราคาขายของ Xiaomi 212W HyperCharge Power Bank 24500 mAh ที่ 3,390 บาท หลายคนอาจจะมองว่าสูงไปหน่อย แต่ถ้าเทียบกับเทคโนโลยีที่ได้ รองรับการชาร์จเร็วที่ให้ทั้งมือถือ และโน้ตบุ๊ก นับว่าเป็นเพาเวอร์แบงก์ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ที่ใช้ในการเดินทาง หรือออกไปทำงานนอกสถานที่อยู่ไม่น้อย
โดยเฉพาะการที่รองรับการชาร์จ MacBook Pro ได้ถึง 140W แปลว่า การทำงานนอกสถานที่ในตอนนี้จะไม่ถูกจำกัดประสิทธิภาพในการใช้งานโน้ตบุ๊ก เพราะไม่มีปลั๊กให้เสียบชาร์จอีกต่อไป ช่วยยืดระยะเวลาทำงานให้นานขึ้น รวมถึงความสะดวกในการพกติดตัวไปได้ทุกที่ แลกกับน้ำหนักของเพาเวอร์แบงก์ที่หนักตามขนาดตัว
