xs
xsm
sm
md
lg

Review : HUAWEI Watch D2 นาฬิกาวัดความดันโลหิต นำข้อมูลไปใช้ทางการแพทย์ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



HUAWEI Watch D2 นับเป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีฟีเจอร์โดดเด่นเฉพาะตัว และมีการต่อยอดได้น่าประทับใจจากรุ่นก่อนหน้า ที่ปรับปรุงดีไซน์ให้ตัวเรือนมีความทันสมัยมากขึ้น บางลง ช่วยให้สามารถใส่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ให้เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย

ขณะเดียวกัน ก็ปรับปรุงประสิทธิภาพในการวัดข้อมูลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการวัดความดันโลหิตแบบอัตโนมัติ เมื่อรวมกับการตรวจวัดข้อมูลทั่วไปอย่างอัตราการเต้นของหัวใจ วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด ความเครียด อุณหภูมิผิวหนัง การออกกำลังกาย ทำให้ Watch D2 กลายเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนสุขภาพที่ครบครันมากที่สุด

ข้อดี
- รองรับการวัดความดันโลหิต เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์
- ดีไซน์ใหม่ที่สวยงามมากขึ้น
- หน้าจอ AMOLED แสดงผลได้คมชัด
- รองรับการใช้งานทั้ง iOS และ Android


ข้อสังเกต
- สายนาฬิกาไม่สามารถถอดสายวัดความดันได้
- เมื่อเปิดใช้งาน ABPM (การวัดความดันอัตโนมัติ) จะต้องชาร์จทุกวัน
- ไม่สามารถใส่ว่ายน้ำได้


การออกแบบ


ตัวเรือนของ HUAWEI Watch D2 มีการออกแบบที่บางและเบากว่ารุ่นก่อนหน้า ทำให้ดคล้ายกับ Apple Watch หรือนาฬิกาในตระกูล Watch Fit ของ HUAWEI มากขึ้น มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.82 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดและสีสันที่คมชัด รองรับการใช้งานกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี


ขนาดของตัวเรือนที่บอกว่าเล็กลงคือลงมาเหลือ 48 x 38 x 13.3 มิลลิเมตร โดยในกล่องจะมีสายยางฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ขนาด M และ L ให้ใช้งาน คือ 130-160 มม. และ 161-210 มม. ซึ่งจะมาพร้อมกับสายวัดขนาด เพื่อให้เราสามารถสวมใส่ได้พอดี เพราะต้องมีการใช้เพื่อวัดความดัน




หน้าจอที่ให้มาเป็นระบบสัมผัส ให้การเรียนรู้ในการควบคุมได้ไม่ยาก มีปุ่มเม็ดมะยมแบบหมุนได้ และปุ่มฟังก์ชัน ที่ไว้กดเข้าโหมดออกกำลัง และใช้เป็นเซ็นเซอร์ในการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วย


ตัว HUAWEI Watch D2 กันน้ำในระดับ IP68 คือสามารถใส่เพื่อกันฝุ่น และน้ำในชีวิตประจำวันได้ แต่ไม่ได้ออกแบบมาให้ใส่ว่ายน้ำ หรืออาบน้ำ ดังนั้นถ้าสวมใส่ในชีวิจประจำวัน เวลาอาบน้ำ อาจจะเป็นช่วงที่ถอดนาฬิกาออกมาชาร์จคู่กับแท่นชาร์จไร้สายแทน


อุปกรณ์วัดความดันโลหิตทางการแพทย์


จุดโดดเด่นหลักๆ ของ HUAWEI Watch D2 คือการที่ได้รับรองเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับการวัดความดันโลหิต ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่อุปกรณ์สวมใส่ไอทีมักจะไม่ได้ผ่านมาตรฐานนี้ ทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตรวจ และวินิจฉัยโรคได้ แต่ในรุ่นนี้ผ่านการรับรองเรียบร้อยแล้ว


แปลว่า ค่าการวัดความดันโลหิตจากนาฬิกา HUAWEI Watch D2 สามารถนำไปใช้แพทย์ใช้ในการอ้างอิงสำหรับการวินิจฉัยโรคได้ ซึ่งถ้านำข้อมูลไปใช้ร่วมกับค่าสุขภาพอื่นๆ ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ออกซิเจนในเลือด และอุณหภูมิผิวหนัง จะมีโอกาสทำให้การตรวจรักษาทำได้ครอบคลุม และแม่นยำมากขึ้น


สำหรับเทคโนโลยีที่ HUAWEI Watch D2 นำมาใช้ในการวัดความดันโลหิต คือการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับ ร่วมกับสายปั๊มลม ที่มีการออกแบบใหม่ให้ปั๊มลมออกมาด้านข้างแทน ซึ่งช่วยให้ออกแบบตัวเรือนนาฬิกาได้บางลง และกลายเป็นสายวัดความดันที่มีขนาดเล็กที่สุดในตอนนี้ด้วย


เมื่อกดเริ่มวัดความดันถุงลงที่อยู่บริเวณสายรัดข้อมือจะเริ่มพองขึ้น เพื่อวัดความดันโลหิต ก่อนแสดงผลออกมาเป็นค่าความดันโลหิตตัวบน และตัวล่างที่เรารู้จักกัน หรือค่าความดันในหลอดเลือดขณะหัวใจบีบตัว และคลายตัวนั่นเอง ซึ่งค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมจะตัวบนจะอยู่ที่ไม่เกิน 120 และตัวล่างไม่เกิน 80 มิลลิเมตรปรอท


แน่นอนว่า ถ้าเป็นแค่อุปกรณ์วัดความดันโลหิตเฉยๆ Watch D2 อาจยังไม่น่าสนใจ เพราะสุดท้ายก็จะไม่ต่างกับอุปกรณ์วัดความดันอื่นๆ ที่มีอยู่ในบ้าน แต่ความพิเศษของ Watch D2 คือมีระบบวัดความดันโลหิตอัตโนมัติตามช่วงเวลาที่กำหนด (ABPM)


แปลว่า เมื่อผู้ใช้งานสวมใส่ และเปิดโหมด ABPM นาฬิกา จะคอยแจ้งเตือนและวัดความดันในช่วงเวลาที่กำหนดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ได้ค่าเฉลี่ยของความดันโลหิตทั้งกลางวัน กลางคืน เพื่อนำข้อมูลไปประเมินความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ด้วย

ท่าที่เหมาะสมในการใส่นาฬิกาวัดความดัน
เหตุผลที่การวัดความดันตลอด 24 ชั่วโมงมีความจำเป็น เนื่องจากในไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ช่วงเวลากลางวันระดับความดันเฉลี่ยอาจจะอยู่ในช่วงที่กำหนด แต่มีการสังเกตว่าถ้าในช่วงเวลาพักผ่อน หรือตอนนอน ความดันโลหิตที่วัดได้มีค่าสูงกว่าปกติ จะมีโอกาสที่เกิดโรคได้มากกว่า จึงทำให้การวัดความดันระหว่างนอนหลับมีความจำเป็นมากขึ้น

ไม่นับรวมกับผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวัง และควบคุมความดันโลหิต ด้วยการกินยาอยู่เสมอ ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเฝ้าวัดความดันโลหิตได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องคอยพกอุปกรณ์วัดความดันที่มีขนาดใหญ่ติดตัวไปด้วย


อย่างไรก็ตาม ในการเปิดใช้งานโหมด ABPM จะทำให้ระยะเวลาใช้งานสมาร์ทวอทช์ ที่เมื่อใช้งานในโหมดทั่วไปจะอยู่ได้ราว 6-7 วัน ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำ ลดลงมาเหลือราว 1-2 วัน เพราะต้องมีการวัดความดันต่อเนื่อง ดังนั้น ถ้าเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องเฝ้าระวังก็แนะนำให้เปิดโหมด ABPM ใช้งาน

ความสามารถสมาร์ทวอทช์ครบ


ไม่ใช่แค่ในเรื่องของการเป็นอุปกรณ์วัดความดันทางการแพทย์เท่านั้น แต่ในภาพรวมของ HUAWEI Watch D2 ที่วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท ยังได้ความสามารถในการตรวจวัดสุขภาพ ที่ HUAWEI เรียกว่า TrueSense มาครบครัน ทั้งการตรวจจับการใช้ชีวิตประจำวัน การออกกำลังกาย การนอน

เมื่อรวมกับการตรวจจับค่าออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ ระดับความเครียด อุณหภูมิผิวหนัง จะทำให้เห็นถึงแนวโน้มสุขภาพ และทำให้ผู้ใช้เริ่มมีการปรับแนวทางในการใช้ชีวิตเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย


ส่วนเรื่องการเป็นสมาร์ทวอทช์ ทั้งการรับการแจ้งเตือนเป็นภาษาไทย สามารถรับโทรศัพท์จากนาฬิกา และพูดคุยได้ทันที (เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ) ยังไม่นับรวมกับการที่รองรับการเชื่อมต่อทั้ง iOS และ Android ทำให้ HUAWEI Watch D2 กลายเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ครบเครื่องรุ่นหนึ่งในตลาดเวลานี้


สรุป


แน่นอนว่า ถ้าใครที่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของความดันโลหิต HUAWEI Watch D2 จะเป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาช่วย และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแน่นอน เพราะเมื่อมีการปรับปรุงดีไซน์ให้ทันสมัยมากขึ้น ไม่แตกต่างกับการใส่นาฬิกา จึงทำให้สวมใส่ใช้งานได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา

อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับราคา 13,990 บาท ถ้าเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่ยังไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพที่ต้องเฝ้าระวัง ในท้องตลาดยังมีอุปกรณ์รุ่นอื่นๆ ที่ให้ฟีเจอร์ใกล้เคียงกัน และสามารถสวมใส่ว่ายน้ำได้ ทำให้ไม่ต้องระมัดระวังในการใช้งานเท่ารุ่นนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น