การหันมาให้ความสนใจในตลาดสุขภาพของหัวเว่ย (HUAWEI) ด้วยการพัฒนาสมาร์ทวอทช์หลากหลายรุ่น ออกมารับกับการใช้งานของผู้บริโภคกำลังก้าวเข้าสู่จุดของการเป็นผู้นำนวัตกรรมแล้วจากสมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุด HUAWEI Watch D ที่รองรับการวัดความดันโลหิตได้
ที่ผ่านมา หัวเว่ยนำเสนอสมาร์ทวอทช์ และสมาร์ทแบนด์ออกมาหลากหลายรุ่น ทั้งในระดับเริ่มต้นอย่างการวัดก้าวเดิน วัดการนอน จนถึงสปอร์ตสมาร์ทวอทช์ที่รองรับการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ และล่าสุดคือ HUAWEI Watch D สมาร์ทวอทช์ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
จุดเด่นของ HUAWEI Watch D นั้นจะอยู่ที่การวัดค่าด้านสุขภาพที่ให้มาครบถ้วนมากที่สุด เริ่มจากพื้นฐานอย่างการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดค่าออกซิเจนในเลือด วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จนถึงการวัดความดันโลหิตในเครื่องเดียว ที่สำคัญคือผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ใช้งานในไทยได้เรียบร้อย
ข้อดี
สมาร์ทวอทช์หน้าจอใหญ่ แบตฯ อึด ใช้งานได้ต่อเนื่อง
การวัดข้อมูลด้านสุขภาพครบทั้งความดัน คลื่นไฟฟ้า อัตราการเต้นของหัวใจ
รองรับการใส่วัดกิจกรรมในชีวิตประจำวันทั้งการเดิน ออกกำลัง นอน
ข้อสังเกต
ต้องเพิ่มความระมัดระวังในส่วนของถุงปั๊มลมเพื่อวัดความดัน
สายนาฬิกาต้องเป็นรุ่นเฉพาะ ทำให้ไม่หลากหลาย
สมาร์ทวอทช์วัดความดันโลหิต
ความสามารถในการวัดข้อมูลด้านสุขภาพของ HUAWEI Watch D นับว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ให้ได้ครบมากที่สุดในตลาดเวลานี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลายๆ แบรนด์เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่มีแบรนด์ไหนที่พัฒนาให้สามารถวัดความดันโลหิตได้ออกมา
แน่นอนว่าเดิมข้อจำกัดของการผลิตนาฬิกาที่ตรวจวัดความดันโลหิตได้นั้นจำเป็นต้องมีการใส่ถุงลม และปั๊มลมเข้าไป เพื่อให้สามารถทำแรงดันบริเวณข้อมือเพื่อวัดความดันโลหิต และที่สำคัญคือต้องออกแบบมาให้เหมาะกับการใส่ใช้งานทั่วไปด้วย
ทำให้ HUAWEI Watch D ซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้สามารถทำแรงดันได้ถึง 40kPa วัดความดันโลหิตได้สูงสุด 230mmHg เทียบเท่ากับเครื่องวัดความดันโลหิตทั่วไปในท้องตลาด ทำให้กลายเป็นอุปกรณ์ติดตัวที่สามารถสวมใส่ไปได้ทุกที่
รูปแบบการทำงานของการวัดความดันโลหิตคือหลังจากที่กดปุ่มวัดความดัน ตัวสมาร์ทวอทช์จะทำการปั๊มลมเข้าไปยังถุงลมที่ถูกออกแบบมาพิเศษ ร่วมกับสายนาฬิกาที่แนะนำให้ปรับระดับให้สวมใส่พอดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้การตรวจวัดความดันโลหิตแม่นยำมากขึ้น
ในการวัดจะต้องยกแขนข้างที่ใส่สมาร์ทวอทช์ขึ้นมาบริเวณกลางหน้าอกให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจ ซึ่งที่หน้าจอจะมีแสดงผลคำแนะนำให้ทำตามได้ง่ายๆ หลังจากนั้นก็จะได้ค่าความดันโลหิตออกมา
อีกความสามารถที่เพิ่งเปิดให้ใช้งานกันก็คือการวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้า (ECG) หลังจากที่ผ่านการรับรองจาก อย. ที่ช่วยให้สามารถเก็บบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อนำไปประกอบการวินิจฉัยเบื้องต้นจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
เมื่อรวมกับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การวัดค่าออกซิเจนในเลือด รวมถึงอุณหภูมิผิวหนัง และความเครียด ทำให้ HUAWEI Watch D นับว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ตอบโจทย์สุขภาพอย่างน่าสนใจ
ใครจะเหมาะกับ HUAWEI Watch D
ด้วยการที่เปิดราคาจำหน่ายมาอยู่ที่ 14,990 บาท หลายคนอาจจะมองว่าเป็นระดับราคาที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์ในท้องตลาดที่มีระดับราคาหลากหลาย แต่ถ้ามองในแง่ของสุขภาพ กับการที่รองรับการวัดความดันโลหิต ทำให้เครื่องรุ่นนี้โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ
นอกจากนี้ ด้วยการที่ HUAWEI Watch D ถูกพัฒนามาให้รองรับการใช้งานทั้งบน iOS และ Android จึงไม่มีข้อจำกัดในการใช้งาน เพราะสามารถใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนที่มีอยู่เดิมได้
ส่วนสำคัญที่สุดก็คือความเหมาะสมในการใช้งาน แน่นอนว่าเมื่อมีความสามารถทางสุขภาพเพิ่มเติมเข้ามา กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะมากที่สุดน่าจะอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องมีการเฝ้าระวังปัญหาเรื่องของสุขภาพ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวเนื่องกับความดันโลหิตทั้งหลาย
กลับกันถ้าซื้อมาเพื่อนำไปใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วๆ ไปก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจ และเหมาะกับการใช้งานมากกว่า แม้แต่ Watch Fiit หรือ Watch GT ซีรีส์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ที่จะมีความสดใส และแฟชั่นมากกว่า
ดังนั้น ถ้าเป็นคนที่ใส่ใจในสุขภาพ และอยากได้อุปกรณ์ติดตัวที่มารองรับการบันทึกข้อมูลสุขภาพ HUAWEI Watch D นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าต้องการเน้นความเป็นสมาร์ทวอทช์ เน้นออกกำลังกายที่หลากหลายกว่าแนะนำให้ไป Watch GT ซีรีส์จะตอบโจทย์ได้มากกว่า
การออกแบบ และการใช้งาน
สำหรับ HUAWEI Watch D นั้นถูกออกแบบมาให้เน้นที่การใช้งานเป็นหลัก ทำให้มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.64 นิ้ว ทรงสี่เหลี่ยม โดยมีปุ่มให้สั่งงานทางด้านขวาเพิ่มเติมคือปุ่ม Home และ Health ที่จะกดเพื่อย้อนกลับหน้าหลัก และกดเพื่อวัดความดันโลหิตเป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับการใช้งานได้
น้ำหนักของตัวเรือนแบบไม่รวมสายรัดจะอยู่ที่ราว 40.9 กรัม โดยภายในนอกเหนือจากการใส่เซ็นเซอร์ตรวจวัดต่างๆ และแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกว่า 7 วันแล้ว ยังรองรับการระบุพิกัด GPS ด้วย ทำให้สามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น
ในส่วนของสายรัดข้อมือที่ให้มาจะมีทั้งสายรัด และถุงมือ ไซส์ M และ ไซส์ L พร้อมผ้าถุงลมที่เป็นอะไหล่เพิ่มเติมไว้ให้แล้ว โดยก่อนสวมใส่แนะนำให้ใช้เทปวัดข้อมือเพื่อวัดขนาดก่อนสวมใส่ โดยจะมีตัวเลขที่ระบุขนาดบอก ก่อนปรับสายรัดให้ตรงตามค่าที่แสดงให้เห็น
ส่วนการใช้งาน HUAWEI Watch D นั้นมากับฟีเจอร์มาตรฐานของสมาร์ทวอทช์ครบถ้วนทั้งการแจ้งเตือนข้อความต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาได้ ควบคุมเพลง ไปจนถึงควบคุมกล้องถ่ายภาพ
โดยในการใช้งานจะต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอป HUAWEI Health ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเข้าไปดาวน์โหลดหน้าปัดนาฬิกา และตั้งค่าต่างๆ เพิ่มเติมได้ รวมถึงเข้าไปดูรายละเอียดกิจกรรม การออกกำลังกาย การนอนต่างๆ ได้จากภายในแอป
ทั้งนี้ HUAWEI Watch D จะเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน-7 กรกฎาคม ในราคา 14,990 บาท โดยผู้ที่สั่งจองล่วงหน้าจะได้รับเครื่องชั่งน้ำหนัก HUAWEI Scale 3 มูลค่า 799 บาทฟรี ผ่าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ
