xs
xsm
sm
md
lg

Review รีวิวสินค้าไอที สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก

x

Review : Coocaa TV 32S3U บน OS ใหม่ดู YouTube ได้ราคาไม่ถึง 6,000 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Coocaa แบรนด์สมาร์ททีวีจากจีน เป็นอีกรายที่หันมาพัฒนาระบบปฏิบัติการบนโทรทัศน์ของตนเอง ด้วยการนำ Coolita OS 1.0 มาใช้งาน ร่วมกับสมาร์ททีวีขนาดหน้าจอ 32 นิ้ว ในรุ่น 32S3U เป็นรุ่นแรก และทำราคามาน่าสนใจที่ประมาณ 5,990 บาท

จุดเด่นของ Coocaa 32S3U คือความง่ายในการใช้งานที่เปิดให้ผู้ใช้นอกจากรับชมทีวีปกติแล้ว ยังสามารถใช้งาน YouTube ได้ทันที พร้อมเพิ่มความสามารถในการ Cast หน้าจอสมาร์ทโฟนขึ้นไปปรากฏบนทีวีเพิ่มเติม


สำหรับรุ่นเริ่มต้นที่ประเดิมใช้งาน Coolita OS 1.0 อย่าง 32S3U จะมากับหน้าจอ 32 นิ้ว ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล ให้ลำโพงที่ขับพลังเสียงได้ 10W พร้อมโหมดรับชมให้เลือก 5 โหมด รวมถึงเทคโนโลยีเสียงอย่าง Doyby มาให้ด้วย

ข้อดี
สมาร์ททีวีราคาไม่ถึง 6,000 บาท ดู YouTube ได้ทันที
รองรับการเชื่อมต่อทั้ง WiFi และ LAN
สามารถ Cast หน้าจอจากสมาร์ทโฟนไปบนทีวีได้


ข้อสังเกต
Coolita OS เป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่ยังไม่มีแอปฯ ให้เลือกลงเพิ่ม
จอขนาด 32 นิ้ว ทำให้ความละเอียดที่ได้ยังไม่ใช่ Full HD
แพลตฟอร์ม CC Plus ยังไม่มีคอนเทนต์ให้รับชมมากนัก


สมาร์ททีวีเน้นใช้งานง่าย


แม้ว่า Coocaa จะเริ่มทำตลาดโทรทัศน์ในไทยมาได้ไม่ถึง 2 ปี แต่จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และความนิยมในการรับชมคอนเทนต์ออนไลน์ผ่านโทรทัศน์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Coocaa เป็นอีกแบรนด์ที่เร่งพัฒนาสินค้าให้ออกมาตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น


จากเดิมที่ Coocaa เน้นนำเสนอสมาร์ททีวีที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android มาในปีนี้ Coocaa ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองอย่าง Coolita OS 1.0 ขึ้นมา เน้นนำเสนอประสบการณ์ใช้งานที่ง่าย และสะดวกขึ้นสำหรับผู้ใช้งานทุกคน

ความง่ายของ Coolita OS คือ เพียงแค่แกะทีวีออกจากกล่อง ขันน็อตเชื่อมขาตั้ง เสียบปลั้ก แล้วทำการเชื่อมต่อกับเสาอากาศทีวีดิจิทัล (DVB-T2) ก็สามารถรับชมทีวีดิจิทัลในไทยได้แล้ว


แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือมีแอปพลิเคชัน YouTube ติดมาให้ใช้งานได้ทันที แน่นอนว่าผู้ใช้สามารถเลือกล็อกอินใช้งาน หรือไม่ก็ได้ โดยหลังจากเปิดแอปฯ ขึ้นมาก็สามารถค้นหาคอนเทนต์ที่ชื่นชอบและรับชมได้ทันที เพียงแค่เชื่อมต่อกับ WiFi หรือเสียบสาย LAN ที่หลังเครื่อง โดยแนะนำให้เชื่อมต่อกับ LAN จะได้ความสเถียรในการใช้งานมากที่สุด


นอกจาก YouTube แล้ว Coocaa 32S3U ยังรองรับการส่งภาพจากหน้าจอสมาร์ทโฟนไปยังทีวีได้ด้วย ทำให้สามารถรับชมคอนเทนต์จากแอปสตรีมมิ่งอื่นๆ ทั้ง Netflix หรือ Disney+ ก็ได้ หรือจะเลือกใช้งานเว็บเบราว์เซอร์เพื่อใช้เข้าสู่คอนเทนต์ก็ได้เช่นกัน แต่ก็จะมีความดีเลย์อยู่พอสมควร


อีกสิ่งที่ Coocaa พยายามนำเสนอคือแพลตฟอร์มในการรับชมคอนเทนต์อย่าง CC Plus เท่าที่ทดลองใช้งานพบว่าคอนเทนต์ที่มียังค่อนข้างน้อย และไม่อัปเดตอาจจะต้องรอให้ทาง Coocaa มีการนำเสนอคอนเทนต์เพิ่มเติมในอนาคตถึงจะแนะนำให้ใช้ในส่วนนี้

สเปก และพอร์ตเชื่อมต่อ


ด้วยหน้าจอของ Coocaa 32S3U ที่ให้มาเป็นขนาด 32 นิ้ว ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล ใช้จอภาพแบบ DLED (Direct View LED) ความสว่างสูงสุดที่ 200 นิต การแสดงผลสีอยู่ที่ 68% NTSC Refresh Rate 50/60 Hz


อย่างไรก็ตาม จากความละเอียดจอที่ให้มา การแสดงผลคอนเทนต์ที่ได้จะอยู่ในระดับ HD เท่านั้น แม้ว่าจะสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ระดับ Full HD หรือ 4K บน YouTube ได้ก็ตาม

ในส่วนของโหมดการรับชมมีให้เลือกปรับทั้งโหมดปกติ โหมดสีเข้ม โหมดเกม โหมดภาพยนต์ และโหมดกีฬา ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานของโทรทัศน์ทั่วไปในท้องตลาดอยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือระบบเสียงของ S323U ที่นำเทคโนโลยี Coocaa Sound EDA (Audio Enhanced Surround) มาช่วยขับเสียงให้ดีขึ้น


สำหรับช่องเสียบสายต่างๆ ที่ให้มาจะประกอบไปด้วยช่อง USB-A สายอากาศ ช่องเสียง 3.5 มม. HDMI 2 ช่อง พอร์ต Composite หรือ AV และช่องเสียบสาย LAN ถือว่าครบถ้วนสำหรับสมาร์ททีวีในปัจจุบัน

ขณะที่สเปกของตัวเครื่อง Coocaa 32S3U รุ่นนี้เลือกใช้ ARM Cortex-A32 ร่วมกับซีพียู Mali-G31 RAM 512 MB Flash Storage 4 GB ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อดูจากราคาของเครื่องแล้วสเปกที่ได้ก็จะอยู่ในระดับประมาณนี้


สุดท้ายในส่วนของรีโมทควบคุมที่ให้มาจะเป็นแบบ Full Size มีปุ่มให้เข้าถึง YouTube ได้ทันที หรือเลือกกดช่องได้ตามปกติ ยังไม่ได้รองรับการใช้งานคำสั่งเสียงต่างๆ แต่ขณะเดียวกันผู้ใช้สามารถตั้งค่าในการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมโทรทัศน์เครื่องนี้ได้ด้วยเช่นกัน


สรุป


ด้วยระดับราคาของ Coocaa 32S3U ที่อยู่ในช่วงต่ำกว่า 6,000 บาท ซึ่งมีตัวเลือกอื่นที่รองรับ Android TV ที่ทำอะไรได้มากกว่า อาจทำให้ Coocaa รุ่นนี้เป็นตัวเลือกลำดับรองลงมา ถ้าเน้นที่ฟีเจอร์การใช้งานที่ครอบคลุม

แต่ถ้ามองถึงความง่ายในการใช้งานรุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ใครหลายๆ คนที่เน้นรับชมแค่ดิจิทัลทีวี และ YouTube เป็นหลัก เพราะ Coolita OS ออกแบบมาให้ใช้งานมากๆ และเชื่อว่าใครก็ใช้งานได้


กำลังโหลดความคิดเห็น