Fitbit Luxe คือความพยายามครั้งล่าสุดของ Fitbit ในการแจ้งเกิดฟิตเนสแทรคเกอร์สายแฟชั่นที่มีสไตล์เหมือนจิวเวลรี่หรู สำหรับรอบนี้ Fitbit Luxe มาในรูปอุปกรณ์สี่เหลี่ยมสีดำเงางามหุ้มโลหะแวววาวมีน้ำหนัก แถมยังร่วมมือกับแบรนด์จิวเวลรี่ gorjana ออกอุปกรณ์เสริมรุ่นพิเศษที่ตั้งใจให้ Fitbit Luxe เป็นเหมือนสร้อยข้อมือ แต่ที่สุดแล้วก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนเป็นเครื่องประดับหรูที่แท้จริง
จุดแข็งของ Fitbit Luxe จึงไปอยู่ที่ความครบเครื่องเรื่องฟิตเนสแทรคเกอร์ ระบบติดตามทุกอย่างตั้งแต่บันทึกจำนวนก้าว การนอนหลับ และการออกกำลังกาย ไปจนถึงฟีเจอร์เด่นอย่างระบบจัดการความเครียดล้วนโดนใจคนรักสุขภาพ ที่สำคัญคือขนาดที่เล็กและเพรียวบางทำให้ Luxe ให้สัมผัสสวมใส่สบายดี ถือเป็นหนึ่งในสินค้า Fitbit ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
แม้จะไม่มี GPS ในตัวซึ่งทำให้การติดตามการวิ่งอาจไม่สมบูรณ์แบบนัก แต่ Luxe จัดเต็มระบบไบโอเมตริกซ์ไว้ในตัว โดยเฉพาะระบบตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่น่าประทับใจ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ชอบออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ขณะเดียวกันก็เหมาะมากสำหรับเสริมแรงจูงใจในชีวิตประจำวัน ช่วยสร้างนิสัยที่ดีต่อสุขภาพแบบจับต้องได้
ข้อดี
- ดีไซน์เพรียวบาง เบา สวมใส่สบาย
- ระบบตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจน่าประทับใจ
- หน้าจอ AMOLED สี สว่างสดใส
ข้อสังเกต
- หน้าจอเล็ก อ่านได้ยาก
- ระบบวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) ต้องอัปเดทเฟิร์มแวร์
- Fitbit Premium ให้ลองใช้ฟรีหกเดือน
ผลิตเหมือนเครื่องประดับ
Fitbit Luxe มาพร้อมกับหน้าจอสีระบบสัมผัส มีการใช้เทคนิคลักษณะเดียวกับการผลิตเครื่องประดับอย่างการฉีดขึ้นรูปโลหะเพื่อพัฒนาเป็นตัวเรือนสเตนเลสสตีล ภายในอัดแน่นด้วยเซ็นเซอร์ขั้นสูงทั้งที่ Luxe มีความกว้างเท่านิ้วชี้ของผู้ใหญ่ ความยาว 1.43 นิ้ว และความหนา 0.4 นิ้วใกล้เคียงกับ Apple Watch SE
Luxe เหมาะสำหรับคนข้อมือเล็ก ตัวเรือนสแตนเลสโค้งเล็กน้อยตามขอบ ตัวสายรัดสามารถเปลี่ยนได้ตามชอบ ในกล่องจะมีสายซิลิโคนสำรองเตรียมไว้ให้ด้วย
จากการใช้งาน ความเพรียวของ Luxe ทำให้การทำกิจกรรมต่างๆไม่ติดขัดจนต้องขยับหรือจับแทรคเกอร์ให้เปลี่ยนมุมไป อย่างไรก็ตาม หน้าจอขนาดเล็กของ Luxe ทำให้อ่านยากพอควรสำหรับใครที่สายตาไม่ดี โดยแผงหน้าจอ AMOLED คมชัดสีสดใสใน Luxe มีขนาด 0.76 นิ้ว ความละเอียด 124 x 206 ซึ่งจะฝังอยู่กลางกรอบหนาที่ซ่อนเซ็นเซอร์ทั้งหมดของ Luxe ไว้
เซ็นเซอร์เพียบ
เช่นเดียวกับสมาร์ทวอทช์ Charge 4 และ Sense แทรคเกอร์อย่าง Luxe ไม่มีปุ่มที่ตัวเรือน วิธีเดียวที่สามารถตอบโต้กับ Luxe คือผ่านหน้าจอสัมผัส โดยต้องใช้แรงกดเพื่อตรวจจับ รวมถึงการปัดและแตะบนหน้าจอได้เหมือนกับสมาร์ทวอทช์ทั่วไป
เมื่อปัดขึ้น หน้าจอหลักจะแสดงความคืบหน้ารายวันและเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลือ สำหรับการลากลง หน้าจอจะแสดงการตั้งค่าและเปิดใช้งานโหมดต่างๆ เช่น ห้ามรบกวน โหมดนอนหลับ หรือโหมดป้องกันน้ำไม่ให้กระทบจนหน้าจอเขยือน ขณะที่การปัดไปด้านข้างจะทำให้แสดงการแจ้งเตือน และการติดตามการออกกำลังกาย การผ่อนคลาย (การหายใจตามคำแนะนำ) นาฬิกาปลุก และตัวจับเวลา
หากต้องการปรับแต่งเพิ่มเติม จะต้องไปที่แอป Fitbit บนโทรศัพท์ ตามค่าเริ่มต้น Luxe จะมีกีฬาพื้นฐานเช่น เดิน (Walk), วิ่ง (Run), จักรยาน (Bike), ว่ายน้ำ (Swim), เดินบนลู่ (Treadmill) และ Workout ซึ่งจะรวมแทบทุกการออกกำลัง
เมื่อออกกำลังกาย Luxe จะแสดงแคลอรีที่เผาผลาญ เวลาที่ใช้ อัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราก้าวหรือไมล์ที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่แสดงมีขนาดเล็กมากจนอาจมองเห็นได้ไม่รวดเร็วบนหน้าจอขนาดเล็กจิ๋ว แม้จะสามารถเลื่อนขึ้นลงเพื่อดูข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้
ขณะออกกำลังกาย Fitbit Luxe จะแสดงโซนคาร์ดิโอ ไว้ด้านล่างอัตราการเต้นของหัวใจ โดยแสดงข้อมูลการเผาผลาญไขมันและช่วงพีคของการออกกำลัง เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก ถึงแม้จะแสดงเป็นข้อความขนาดเล็กและมองเห็นได้ยากมากขณะวิ่ง
หากวิ่ง เดิน ว่ายน้ำ หรือออกกำลังเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที Luxe จะตรวจจับและบันทึกกิจกรรมให้โดยอัตโนมัติ สามารถเปลี่ยนข้อกำหนดเวลาขั้นต่ำให้เร็วขึ้นหรือช้าลงได้ผ่านแอป น่าเสียดายที่ไม่มี GPS ในตัว และจะต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เพื่อทำแผนที่การวิ่งกลางแจ้งแทน
ไม่แน่ Luxe อาจจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบอ่านหน้าจอ และต้องการรับข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือรอบเดียว ซึ่งแม้หน้าจอขนาดเล็กจะทำให้ Luxe มีธรรมชาติของฟิตเนสแทรคเกอร์ แต่ก็ยังมีฟีเจอร์ที่ทำให้ไม่พลาดการติดต่อ โดยหากรับการแจ้งเตือนแล้ว ผู้ใช้จะสามารถส่งคำตอบหรืออีโมจิที่ตั้งไว้ล่วงหน้าได้อย่างรวดเร็วจากข้อมือ ขณะที่ตัวอุปกรณ์จะส่งเสียงเตือนได้ทั้งกรณีที่ไม่ได้ใช้งานนานเกินไป หรือส่งเสียงฉลองให้ในกรณีที่ทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
หากสวมเมื่อนอนหลับ Luxe ทำให้ระบบติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อตรวจจับว่าผู้ใช้อยู่ในโซนการนอนหลับแบบใด และหลังจากผ่านไป 3 คืน อุปกรณ์จะบอกถึงข้อมูลเพิ่มเติมอีก เช่น อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก และอุณหภูมิของผิวหนัง
Luxe ยังนำเสนอฟีเจอร์อื่นผ่านบริการ Fitbit Premium ซึ่งให้ใช้ฟรี 6 เดือน (ราคาเริ่มเดือนละ 300 บาท) บริการนี้ทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม เช่น กิจกรรม อัตราการเต้นของหัวใจ และแนวโน้มการนอนหลับ รวมถึงการรับรายงานสุขภาพทั้งแบบรายเดือนและรายปี รายละเอียดเกี่ยวกับการนอนหลับและความเครียดอย่างละเอียด รวมถึงวิดีโอสอนการออกกำลังกายตามคำแนะนำ โปรแกรมการฝึกสติ และโภชนาการ เหมาะกับผู้ที่ต้องการทราบแนวโน้มด้านสุขภาพในระยะยาว
Fitbit Luxe ถือเป็นฟิตเนสแทรคเกอร์เพื่อสุขภาพรุ่นแรก ที่มีฟีเจอร์การบริหารความเครียด เหมาะมากกับสังคมปััจุบันที่ประชาชนโลกเกินหนึ่งในสาม มีสภาวะความเครียดมากตั้งแต่ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ ฟีเจอร์ Stress Management Score บน Fitbit Luxe จะประเมินระดับความเครียดของร่างกายแบบรายวันผ่าน Fitbit Premium ซึ่งจะตรวจการตอบสนองของระบบประสาทอัตโนมัติได้ด้วย
ใช้นานกว่า 5 วัน
Fitbit Luxe ถูกโปรโมทว่าใช้งานได้นาน 5 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง จากการทดลองสวม Luxe เพื่อติดตามการออกกำลังกายแบบวันเว้นวัน และไม่ได้สวมเข้านอนทุกคืน พบว่าอุปกรณ์สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ก่อนที่จะแบตเตอรี่หมด ซึ่งหากมีการเชื่อมต่อกับ GPS ในโทรศัพท์บ่อยครั้ง เชื่อว่ารันไทม์ของ Luxe จะสั้นลงกว่านี้
สรุป
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดเกี่ยวกับ Fitbit Luxe ไม่ใช่สไตล์แฟชั่นเครื่องประดับ แต่เป็นขนาดที่สวมใส่สบาย และยังเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่สามารถทำอะไรได้มากมายสมราคาเปิดตัว 4,990 บาท เหตุผลคือเพราะ Luxe เป็นอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายที่ทำมาอย่างดีและมีความสามารถซึ่งสามารถติดตามได้ทุกอย่าง ดังนั้นหากใครกำลังมองหาสายรัดข้อมือใส่ง่ายที่เล็กกว่า Luxe ก็ถือเป็นทางเลือกที่เข้าขั้นสมบูรณ์แบบ.