ปีที่ผ่านมา Samsung สร้างนวัตกรรมออกสู่ตลาดสมาร์ทโฟนด้วย สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแรกของโลกอย่าง Samsung Galaxy Fold ในปีนี้ก็ได้สานต่อสมาร์ทโฟนจอพับด้วย Galaxy Z Flip (อ่านว่า ซี ฟลิป) เพื่อทำให้เห็นว่าโลกของสมาร์ทโฟนจอพับได้นั้นมีความหลากหลายในการใช้งาน
ภาพแรกที่เห็นใน Galaxy Z Flip คือรูปลักษณ์ของการเป็นสมาร์ทโฟนตลับแป้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การออกแบบนี้มีเหตุผลหลัก มาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการวิดีโอคอลล์ หรือถ่ายภาพ ที่ไม่สามารถวางเครื่องไว้แบบพับจอแล้วกดถ่ายได้เลย และทำให้เครื่องมีขนาดพกพาง่ายมากขึ้น
ทั้งนี้ Galaxy Z Flip เปิดราคาวางจำหน่ายที่ 44,900 บาท โดยในประเทศไทยนำเข้ามาจำหน่าย 2 สี คือม่วง และ ดำ โดยจะเปิดให้สั่งซื้อล็อตแรก 200 เครื่องก่อนในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนวางขายจริงในช่วงเดือนมีนาคม
ขนาดหน้าจอของ Galaxy Z Flip เมื่อกางออกมาจะอยู่ที่ 6.7 นิ้ว โดยใช้เป็นจอ Dynamic AMOLED Display ในอัตราส่วน 21.9:9 ทำให้อาจจะรู้สึกว่าจอยาวกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในตลาด และที่สำคัญคือเป็นสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแรกที่นำกระจกชนิดพิเศษมาใช้งาน ให้สามารถพับ และกางออกได้
สิ่งที่ซัมซุงพัฒนาเพิ่มขึ้นมาจาก Galaxy Fold คือเรื่องข้อพับที่ใน Galaxy Z Flip ผู้ใช้จะสามารถกำหนดองศาของการกางหน้าจอได้ เพื่อให้สามารถเลือกได้ว่าจะกางให้สุดเพื่อใช้งานเป็นสมาร์ทโฟนปกติ หรือจะกางทำมุม 90 องศา เพื่อวางใช้งานบนโต๊ะก็ได้เช่นกัน
โดยเมื่อกางออกถึงองศาที่ต้องการแล้ว ถ้าปล่อยออกจอก็จะกางอยู่ตามองศาที่กำหนด ทำให้เพิ่มรูปแบบในการใช้งานได้หลากหลายขึ้น
เมื่อพับตัวเครื่องลงมาขนาดจะอยู่ที่ 87.4 x 73.6 x 15.4-17.3 มิลลิเมตร โดยจะมี Cover DIsplay ขนาด 1.1 นิ้ว ไว้ช่วยแสดงผลการแจ้งเตือนต่างๆ ซึ่งเมื่อกดเข้าไปดูข้อความ หรือการแจ้งเตือนแล้ว เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาตัวเครื่องก็จะเข้าแอปที่ต้องการทันที เพื่อให้ใช้งานได้แบบไร้รอยต่อ
เมื่อกางหน้าจอออกมา ขนาดตัวเครื่องจะอยู่ที่ 167.3 x 73.6 x 6.9 - 7.2 มิลลิเมตร น้ำหนัก 183 กรัม
ถ้าสังเกตบริเวณรอยพับของจอ ยังคงไม่ได้เรียบเนียนไปกับตัวเครื่อง ซึ่งถือเป็นปัญหาของสมาร์ทโฟนจอพับมาตั้งแต่ Galaxy Fold แล้ว แต่ในการใช้งานจริง รอยข้อต่อนี้แทบไม่ได้สร้างความรำคาญในการใช้งานเลย
ด้วยการที่ตัวเครื่องเป็นแบบฝาพับ ทำให้เวลาเปิดปิดใช้งานตัวเครื่อง จะต้องกดจากปุ่มข้างเครื่อง ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว เพราะจะใช้เทคโนโลยีอย่างการสแกนลายนิ้วมือใต้จอคงไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ต้องเปิดเครื่องขึ้นมาสแกน ก่อนใช้งาน
ตัวอย่างโหมดกล้องที่สามารถใช้งานได้แม้ยังกางเครื่องไม่สุด ทำให้ผู้ใช้สามารถวาง Galaxy Z Flip บนพื้นเรียบๆ เพื่อถ่ายภาพ หรือจะใช้ในการถ่ายเซลฟี่ หรือวิดีโอคอลล์ก็ทำได้ โดยไม่ต้องถือเครื่องไว้
Galaxy Z Flip ยังมีโหมดการใช้งานแบบแบ่งหน้าจอแบบ Multi Active WIndows ทำให้สามารถเปิดใช้งาน 2 แอปพร้อมๆ กันได้ อย่างเช่นการเปิด YouTube ที่ส่วนบนของจอ แล้วส่วนล่วงหน้าจอใช้เข้าแอปแชท หรืออีเมล ทำงานไปได้พร้อมๆ กัน
