ถ้าจำกันได้ก่อนหน้านี้ Jabra เคยส่งหูฟังบลูทูธวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังมา (Jabra Sport Pulse Wireless) ให้ทีมงานทดสอบกัน และถือเป็นอีกนวัตกรรมที่น่าสนใจในตลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงขณะออกกำลังกาย จนมาล่าสุด Jabra ก็ก้าวไปอีกขั้นด้วยการแนะนำเทรนเนอร์ส่วนตัวมาให้ผู้ใช้งาน
Jabra Sport Coach Wireless ถูกชูจุดเด่นในแง่ของการมีโค้ชมาแนะนำการออกกำลังกายให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด บนความสามารถเดิมของ Jabra คือการเป็นหูฟังบลูทูธแบบ In-ear ที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ฟังเพลงขณะออกกำลังกายได้ทันที
การออกแบบและสเปก
ในแง่ของการออกแบบ Jabra Sprot Coach ไม่แตกต่างจากรุ่น Sport Pulse เพียงแต่จะมีสีสรรให้เลือกมากยิ่งขึ้น 3 สี คือ สีเหลือง สีเฟ้า และสีแดง ในขณะที่ตัวหูฟังก็จะเป็นหูฟังแบบบลูทูธที่มีสายเชื่อมระหว่างหูซ้าย-ขวา ไว้คล้องกับคอเพื่อให้สะดวกในการสวมใส่ใช้งาน ด้วยน้ำหนักประมาณ 16 กรัม
ภายในกล่องที่ให้มานอกจากที่มีที่ยึดใบหูให้เลือกถึง 3 แบบแล้ว ก็จะมีจุกหูฟังมาให้เลือก 4 ขนาด เพื่อให้เหมาะกับขนาดของรูหู เพื่อให้การสวมใส่ทำได้อย่างสะดวกสบายที่สุด เพราะในการใส่ออกกำลังกายต้องมีการเคลื่อนไหว ดังนั้นจึงควรเลือกสวมใส่ให้ถูกขนาด
ยังมีซองใส่หูฟัง เพื่อให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ พร้อมกับสายชาร์จยูเอสบีขนาดสั้น ที่ใช้ชาร์จกับหูฟังบริเวณหูขวา ด้วยการดึงยางที่ครอบตัวหูฟังออก ก็จะพบกับช่องเสียบสายชาร์จ โดยมีไฟสัญลักษณ์อยู่ฝั่งนี้ด้วย ระยะของสายจะอยู่ที่ราว 60 เซนติเมตร
ถัดลงมาจากหูข้างขวา ก็จะมีปุ่มควบคุมที่ใช้สั่งงานเล่นเพลง เพิ่ม-ลดเสียงได้ และยังสามารถใช้สำหรับการพูดคุยโทรศัพท์ หรือสั่งงานด้วยเสียงผ่านหูฟังได้ เพราะมีไมค์รับเสียงอยู่ในจุดนี้ด้วย ส่วนหูฟังฝั่งซ้ายจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อส่งข้อมูลไปยังแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนอีกทีหนึ่ง
สำหรับการเชื่อมต่อของ Jabra Sport Coach Wireless จะรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ 4.0 ระยะการใช้งานจากสมาร์ทโฟนประมาณ 10 เมตร พร้อมกับสามารถใช้ระบบ NFC ในการเชื่อมต่อได้ด้วย โดยสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งหมด 8 ดีไวซ์ และใช้งานพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์
ส่วนแบตเตอรีที่ให้มาสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องราว 5.5 ชั่วโมง และสแตนบายใช้งานได้ราว 10 วัน สามารถกันน้ำได้บนมาตรฐาน IP55 คือสามารถโดนน้ำได้ แต่ไม่สามารถนำลงไปใช้งานในน้ำได้ การเชื่อมต่อ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ในแง่ของการใช้งานผู้ใช้จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Jabra Sport Life มาติดตั้งไว้บนสมาร์ทโฟน และทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจึงสามารถเข้าถึงความสามารถต่างๆของ Jabra Sport Coach Wireless ได้ เพราะถ้าไม่ลงแอปฯ ก็จะเป็นเพียงหูฟังบลูทูธธรรมดาเท่านั้น
วิธีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผู้ใช้จำเป็นต้องกดเปิดหูฟัง (ปุ่มกลาง) ค้างจนไฟขึ้นกระพริบสีน้ำเงิน เพื่อเข้าสู่โหมดรับการเชื่อมต่อ (Pair) หลังจากนั้นก็กดที่สมาร์ทโฟนเพื่อทำการเชื่อมต่อกับหูฟังได้ทันที นอกจากนี้ไฟสถานะยังใช้แสดงการเปิด (ไฟเขียว) และปิด (ไฟแดง) อีกด้วย
โดยรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมที่สุดกับ Jabra Sport Coach คือการออกกำลังกายแบบ Cross Traning ที่มีรูปแบบการออกกำลังกายร่วมกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย เพื่อช่วยลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายซ้ำๆในจุดเดิม แต่ก็สามารถใช้ร่วมกับการออกกำลังกายรูปแบบอื่นได้เช่นเดียวกัน
ความสามารถหลักของ Coach คือช่วยผู้ใช้ในการวางแผน วิเคราะห์ และออกแบบโปรแกรมออกกำลังกายตามความเหมาะสมมากกว่า 40 รูปแบบ อย่างเช่น การยกเวต ซิทอัป วิ่ง หรือกีฬาอื่นๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาดูข้อมูลต่างๆบนสมาร์ทโฟน เพราะตัว Coach จะคอยบอกข้อมูลที่สำคัญให้ตลอดเวลา
รวมถึงมีเสียงเทรนเนอร์คอยบอกระยะเวลาในการออกกำลังกายแต่ละท่วงท่าเพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับและบรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้ นอกจากนั้น ผู้ใช้งานสามารถควบคุมโปรแกรมการออกกำลังกายให้เปลี่ยนท่าเมื่อทำครบตามจำนวน จากตัวหูฟังได้โดยตรง โดยไม่ต้องจับตัวโทรศัพท์เลย
วิธีการใช้งานจะเริ่มจากการเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา เลือกโปรแกรมการออกกำลังกายที่ต้องการ อย่างเช่น Cross Traning ถัดมาค่อยเลือกรูปแบบการออกกำลังอย่าง Cardio จากนั้นตัวแอปก็จะมีให้เลือกว่าจะใช้เครื่องเล่นเพลงของสมาร์ทโฟนเอง หรือใช้ของทางจาบร้าให้เลือก พร้อมกับหน้าจอการแสดงผลต่างๆ
นอกจากนี้ ภายในแอปยังมีการทำฟิตเนสเทสโดยเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของร่างกาย (Cooper test) เพื่อที่จะดูว่าหลังจากออกกำลังกายแล้วมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นหรือไม่ รวมถึงประเภทการออกกำลังกายรูปแบบอื่นอย่างวิ่ง ขี่จักรยาน ปีนเขา เล่นสกี เสก็ต วิ่งบนลู่วิ่ง
เมื่อเริ่มออกกำลังแล้ว ตัวแอปก็จะคอยส่งเสียงบอกข้อมูลต่างๆ รวมถึงท่าการออกกำลังกายไปให้ผู้ใช้ เพื่อที่จะได้ทราบว่าออกท่านี้ไปกี่วินาทีแล้ว ควรถึงเวลาเปลี่ยนท่าหรือยัง รวมถึงถ้านำไปใช้ในการออกกำลังกายประเภทอื่นอย่างวิ่ง ขี่จักรยาน ตัวแอปก็จะทำการเก็บข้อมูลต่างๆเหล่านี้ไว้แสดงผลให้ดูในภายหลัง
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือตัว Jabra Sport Coach สามารถนำไปใช้งานกับแอปพลิเคชันออกกำลังกายยอดนิยมอื่นๆอย่าง endomondo Runkeeper MapmyFitness Strava และ Runtastic ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
จุดขาย
- หูฟังบลูทูธสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ
- ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันในการแนะนำการออกกำลังกาย
- เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ด้วย NFC ได้ทันที
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- รุ่นนี้ไม่ได้มาพร้อมที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ค่อนข้างสำคัญในปัจจุบัน
- พลังเสียงยังไม่สามารถสู้กับผู้ผลิตหูฟังชั้นนำได้
- แบตเตอรีที่ใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง อาจไม่พอกับการใช้ในชีวิตประจำวัน
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
Jabra Sport Coach จะเหมาะกับผู้ที่กำลังเริ่มต้นออกกำลังกาย แต่มีความรู้พื้นฐานพอสมควร และต้องการหาหูฟังไร้สายมาใช้งานควบคู่ไปด้วย พร้อมกับประโยชน์เสริมคือการมีผู้ช่วยส่วนตัวมาคอยแนะนำในการออกกำลังกาย เพื่อให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
แต่ถ้าเป็นผู้ที่ออกกำลังกายหนักๆอยู่แล้ว ก็จะมีอุปกรณ์ชนิดอื่นที่มีความสามารถหลากหลายกว่านี้ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับออกกำลังกายเฉพาะทางในแต่ละประเภทกีฬา ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานของผู้บริโภคมากกว่าว่าสนใจในอุปกรณ์ชนิดนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตามด้วยราคาเปิดตัวที่ 5,490 บาท ผู้ใช้หลายคนที่มีหูฟังอยู่แล้ว อาจจะลังเลเปลี่ยนไปหาอุปกรณ์ที่เป็นฟิตเนสแทร็กเกอร์ชนิดอื่นแทนก็ได้ เพราะด้วยระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องเพียง 5.5 ชั่วโมงอาจจะน้อยไปสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย
Company Related Links :
Jabra
————————————————————————————
อีกหนึ่งช่องทางติดตามไซเบอร์บิซ ออนไลน์ ผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE คลิกเพิ่มเพื่อนที่ปุ่ม Add Friends ด้านล่างจากสมาร์ทโฟนหรือเข้าไลน์ค้นหาไอดี @opu3945f
————————————————————————————
