เปิดตัวกันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงจากค่ายออปโป้ซึ่งโดดเด่นด้วยกล้องหมุนได้ จากเดิมที่ต้องใช้มือจับหมุนเอง มาวันนี้ N3 ได้พัฒนาไปอีกขั้นสามารถสั่งการหมุนได้อัตโนมัติผ่าน 3 ช่องทางโดยที่มือไม่ต้องแตะที่ตัวกล้องแต่อย่างใด แถมได้รับการพัฒนากล้องร่วมกับมืออาชีพอย่าง Schneider ผู้ผลิตเลนส์รายใหญ่ของโลก ก็ทำให้เชื่อได้ว่า OPPO N3 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีกล้องสุดเทพอีกตัวในตลาดอย่างแน่นอน วันนี้ทีมงานได้มีโอกาสมาร่วมงานเปิดตัวที่ประเทศสิงคโปร์ เราลองมาดูดีกว่าว่า N3 จะมีดีอย่างไรบ้าง
เริ่มต้นที่สเปกของเครื่องกันก่อนเลย โดย OPPO N3 มาพร้อมขุมพลังจาก Qualcomm Snapdragon 801 Quad-core ความจุตัวเครื่อง 32GB พร้อมแรม 2GB ช่วยให้การทำงานลื่นไหลลงตัว บนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ทำจาก Corning Gorilla Glass 3 เพื่อความคมชัดและทนทานสูงสุด ระบบชาร์จแบตเตอรี่เป็นแบบ VOOC mini rapid charging system ระบบนี้ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลงเพื่อสะดวกแก่การพกพา และชาร์จเพียง 30 นาทีก็สามารถบรรจุพลังงานได้ถึง 75% และชาร์จเพียง 5 นาทีก็เพียงพอสำหรับการโทรศัพท์ถึง 2 ชั่วโมง
ด้านกล้องถ่ายภาพขนาด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญของ N3 นี้ สามารถหมุนอัตโนมัติได้ 206 องศา สามารถควบคุมการหมุนของเลนส์ได้ถึง 3 วิธี ด้วย O-Click การสั่งด้วยมือหรือ Gestureและการสัมผัสหรือ Touch Access ถ่ายภาพได้คมชัดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล ตัวเลนส์ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษโดยร่วมมือกับ Schneider Electric พร้อมเทคโนโลยี Pure Image หรือ PI2.0 plus ช่วยปรับแสง โฟกัส และการจับใบหน้าโดยอัตโนมัติก่อนกดชัตเตอร์ทุกครั้ง
ด้านการออกแบบต้องบอกเลยว่าครั้งแรกที่จับน้ำหนักของเครื่องรูปร่างที่ใหญ่ให้ความรู้สึกล้นมือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ใช้งานมือเดียวจะรู้สึกได้ถึงความใหญ่ของหน้าจอ แต่กระนั้นความสามารถของหน้าจอที่ให้มาถึง 5.5 ก็ช่วยให้ได้มุมมองของภาพถ่ายที่น่าสนใจมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับฟีเจอร์เซลฟี่ ที่กล้องสามารถหมุนกลับมาถ่ายได้อย่างง่ายดายก็ช่วยให้หน้าจอดูมีประโยชน์ขึ้นมาเป็นอย่างมาก
นอกจากความแตกต่างตัวกล้องแล้ว ด้านหลังของ N3 ยังออกแบบปุ่มกดที่เป็น Touch Pad สีขาวอยู่ส่วนล่างของตัวกล้อง เพื่อใช้สำหรับการควบคุมให้กล้องหมุนถ่ายปกติหรือถ่ายเซลฟี่ได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งยังเป็นปุ่มกดชัตเตอร์ไปในตัว และที่สำคัญด้วยพื้นที่การวางทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด นั่นเพราะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายเซลฟี่ แต่ไม่สามารถหานิ้วไหนมากดที่หน้าจอได้อีกต่อไป เพราะเมื่อมีปุ่มอยู่ด้านหลังการกดก็เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที
ฟีเจอร์เด่น
ระบบชาร์จไฟเร็วที่ติดตั้งอยู่ใน Find 7 ถูกพัฒนาให้มาอยู่ใน N3 นี้ด้วยเช่นกัน แต่พัฒนาให้หัวแปลงไฟมีขนาดที่เล็กลง เพื่อความคล่องตัวในการพกพา ขณะที่ประเภทของหัวแปลงยังมีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อให้เหมาะสมสำหรับทุกกิจกรรมเช่น หัวชาร์จไฟในรถยนต์เป็นต้น โดยรวมนับว่ายังมีการพัฒนาจากสิ่งที่เป็นที่ยอมรับแล้วอย่างต่อเนื่อง
กล้องหมุน 206 องศา เป็นความแปลกใหม่ที่ไม่ใช่เรื่องของการหมุน แต่แปลกที่วิธีการหมุนโดยไม่ต้องใช้มือจับเองเหมือนแต่ก่อน แต่กระนั้นการหมุนยังไม่สามารถหมุนวนได้ ยังต้องหมุนไปและหมุนกลับ ตัวกล้องที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สามารถควบคุมการหมุนของเลนส์ได้ถึง 3 วิธี ด้วย O-Click การสั่งด้วยมือหรือ Gestureและการสัมผัสหรือ Touch Access นั่นเอง โดยจากการทดสอบนั้น การหมุนอย่างช้าๆค่อนข้างทำได้ลำบากอาจจะต้องใช้ความเคยชินสักระยะหนึ่งก่อนใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
หน้าจอความละเอียด FullHD นับเป็นความละเอียดที่เหมาะสมที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นความสว่าง ค่าสี ค่าการตัดแสง ล้วนทำได้ดีทั้งสิ้น จึงมั่นใจได้ว่าหน้าจอชนิดนี้ ยังจะสามารถใช้งานไปได้อีกนาน ไม่มีตกรุ่นได้ง่ายอย่างแน่นอน
อีกทั้งยังมีเทคโนโลยียอดนิยมอย่าง Touch Access เพื่อสะดวกสบายความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการจดจำสูงขึ้น ไม่ว่ามือจะเปียกหรือใส่ถุงมือก็ยังสามารถใช้โทรศัพท์ได้ง่ายๆ เหมาะกับทุกสถานการณ์และสภาพอากาศ
Pure Image หรือ PI2.0 plus เป็นอีกหนึ่งความทันสมัยที่น่าจะกลายมาเป็นต้นแบบของกล้องสมาร์ทโฟนในอนาคต โดยความสามารถของการปรับแสงก่อนที่จะกดชัตเตอร์ ระบบนี้จะช่วยปรับแสง โฟกัส และการจับใบหน้าโดยอัตโนมัติ มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ไม่แพ้กล้อง DLSR มืออาชีพ โดยในวันเปิดตัวนั้น ออปโป้ได้นำช่างภาพมืออาชีพเข้ามาทำหน้าที่ถ่ายทอดภาพถ่ายที่แทบดูไม่ออกว่าภาพไหนถ่ายจากกล้อง DSLR
ถ่ายภาพแบบพาโนรามา อย่างทิวทัศน์เมืองเพียงคลิกครั้งเดียวก็สามารถถ่ายภาพคมชัดได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน โดยให้ภาพมีความละเอียดถึง 16ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถนำภาพถ่ายไปอัดเป็นรูปภาพขนาดใหญ่ได้และยังมีฟังก์ชั่นจับโฟกัสอัตโนมัติ เพียงเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการ กล้องจะสามารถเลื่อนโฟกัสตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ ทำให้ถ่ายภาพและวิดีโอออกมาคมชัดยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งความพิเศษก็คือเลนส์ที่ออกแบบโดยร่วมมือกับ Schneider ผู้นำด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ด้วยความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้คมชัดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล ให้คุณภาพความคมชัดที่เหนือกว่ายี่ห้ออื่นๆ
OPPO skyline notification light 2.0 เพื่อเตือนเมื่อมีข้อความหรืออีเมลเข้าเครื่อง โดยจะมีแสงจากด้านล่างตัวเครื่องที่มีลักษณะโค้งเว้า ทำให้เห็นได้ง่ายไม่ว่าจากมุมไหน สามารถรับรู้ได้ทุกครั้งที่มีข้อความใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยในกรณีที่โทรศัพท์ตกเมื่อกระทบกับพื้น ส่วนโค้งนั้นจะรับแรงกระแทกเพื่อป้องกันหน้าจอเสียหาย ทำให้โทรศัพท์ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
วิดีโอพรีวิวเครื่อง OPPO N3
Company Related Link :
OPPO
CyberBiz Social
