xs
xsm
sm
md
lg

Review : Nokia XL Dual Sim สมบูรณ์สุดใน X Platform

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




หลังจากทีมงานไซเบอร์บิซได้รีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัด Nokia X (อยู่ตรงกลางระหว่างรุ่น Asha และ Lumia) ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Nokia X Platform (พัฒนาบนพื้นฐานแอนดรอยด์จากกูเกิล) กับราคา 3,990 บาทไปแล้ว มาวันนี้ก็ถึงคิวของสมาร์ทโฟนตระกูล X รุ่นท็อปสุดจากโนเกียกับ ”Nokia XL Dual Sim” ที่ยังคงจุดขายด้านราคาประหยัดไม่เกิน 6 พันบาทกับขนาดหน้าจอใหญ่ไซต์ XL และสเปกเครื่องที่จัดมาได้สมราคาแบบไม่ต้องอายแบรนด์อื่นอย่างที่เคยเป็นมา

การออกแบบ




สำหรับ Nokia XL Dual Sim จะกล่าวว่ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป(อย่างแปลกประหลาดในตลาดสมาร์ทโฟนยุคใหม่)จากรุ่น X ทั้งหมดก็ไม่ผิด โดยจุดแตกต่างหลักจาก Nokia X ที่เห็นได้ชัดเจนสุดก็คือ หน้าจอ LCD แบบสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 5 นิ้วบนความละเอียด 800x480 พิกเซล แต่ลดความละเอียด ppi ลงเหลือ 187ppi เพราะหน้าจอใหญ่ขึ้น พร้อมกล้องหน้าเลนส์มุมกว้างความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (1,600x1,200 พิกเซล) ที่รูรับแสงขนาด f/2.8 และสามารถถ่ายวิดีโอผ่านกล้องหน้าที่ความละเอียด 720p ได้

ด้านปุ่มคำสั่งที่ติดตั้งด้านใต้ของหน้าจอสำหรับใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ จะมีเฉพาะปุ่ม (<) ย้อนกลับเหมือน Nokia X โดยวิธีการกดเพื่อออกจากแอปพลิเคชันให้กดปุ่มดังกล่าวค้างไว้สักครู่




ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องจะเป็นโมโนบล็อก หนา 10.9 มิลลิเมตร (หนากว่า Nokia X แต่ออกแบบได้ลงตัวกว่า จับกระชับมือกว่า) น้ำหนัก 190 กรัม วัสดุฝาเครื่องด้านหลังจะเป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate) สามารถถอดแยกจากตัวเครื่องได้ (เปลี่ยนสีฝาหลังได้ 6 สี เขียว ดำ ขาว ฟ้า เหลืองและส้ม) พร้อมกล้องหลังที่อัปสเปกจาก Nokia X ไปค่อนข้างมากจากกล้องฟิกซ์โฟกัสเป็นกล้องออโต้โฟกัส ความละเอียดภาพสูงสุด 5 ล้านพิกเซล (รองรับ Digital Zoom 4 เท่า สามารถถ่ายวิดีโอ 480p ที่ความเร็วเฟรม 30 เฟรมต่อวินาที) พร้อมเลนส์รูรับแสงกว้าง f/2.8 มีไฟแฟลชแบบ LED ติดตั้งมาให้หนึ่งดวง

และเมื่อแกะฝาหลังออกด้านในจะเป็นส่วนของแบตเตอรีถอดเปลี่ยนได้ขนาด 2,000mAh พร้อมช่องใส่ไมโครซิมการ์ดโทรศัพท์สองช่อง (Dual Sim) โดย ช่องแรกสำหรับใช้งาน 3G/2G EDGE (รุ่นที่ขายตอนนี้รับเฉพาะ 3G ความถี่ 900/2,100MHz ความเร็ว 3G ส่วนดาวน์โหลดที่รับได้สูงสุดคือ 7.2Mbps อัปโหลดสูงสุด 5.76Mbps) ส่วนช่องที่สองรองรับเฉพาะ 2G พร้อมช่องใส่การ์ด MicroSD เพิ่มความจุได้สูงสุด 32GB




มาถึงช่องเชื่อมต่อและปุ่มกดรอบตัวเครื่อง เริ่มจากด้านบนจะเป็นช่องเชื่อมต่อ Smalltalk และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างจะเป็นช่อง MicroUSB สำหรับเชื่อมต่อกับสายชาร์จไฟบ้านและซิงค์ข้อมูล



สุดท้ายด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงและปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง/ล็อคหน้าจอ

สเปก



ส่วนสเปกขุมพลังภายในจะขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon S4 Dual-Core ความเร็ว 1 GHz แรมให้มา 768MB ระบบปฏิบัติการ Nokia X 1.1 (ฺBased on Android) มีพื้นที่ภายในมาให้ใช้งาน 4GB (เหลือใช้งานจริงประมาณ 2.3GB) รองรับ MicroSD ความจุสูงสุด 32GB มี FM ภายในมาให้ (ต้องเสียบหูฟังก่อนถึงใช้งานได้) รองรับการแสดงผลเมนูภาษาไทย

ด้านระบบเชื่อมต่อต่างๆ รองรับ Bluetooth 3.0, WiFi 802.11 b/g/n สามารถทำเป็น Hotspot กระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi ได้สูงสุด 8 อุปกรณ์ พร้อมเซ็นเซอร์วัดระดับแสง, Accelerometer และ เซ็นเซอร์วัดระยะห่าง

UI และฟีเจอร์เด่น



ระบบปฏิบัติการ Nokia X 1.1 จะมีหน้าตาและฟีเจอร์เหมือนกันทุกรุ่น เพียงแต่ในรุ่นนี้ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นถึง 5 นิ้ว ทำให้การแสดงผลดูเต็มตามากขึ้น ในขณะที่ความหนาแน่นของพิกเซลในหน้าจอที่ลดลงทำให้ภาพไม่ค่อยคมชัด การรับชมเว็บไซต์แบบหน้าปกติยังไม่ได้ซูมเข้ามาให้ภาพที่แตกอ่านตัวหนังสือไม่รู้เรื่อง

ในส่วนรายละเอียดส่วนแอปพลิเคชันผู้อ่านสามารถกดอ่านได้จาก Review : Nokia X ความหวังใหม่ของอดีตผู้นำ เพราะไม่มีส่วนที่แตกต่างกันเลย


หน้าตาของแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมากับ Nokia X และ XL ส่วนใหญ่จะมีพื้นฐานมาจาก Android และโนเกียได้ทำการแก้ไขให้เข้ากับความเป็นตัวเองมากที่สุด แต่จะมีแอปพลิเคชันจำพวก Here Maps, Nokia Mix Radio และ Store สำหรับเป็นแหล่งรวมแอปฯ ที่เป็นของโนเกียเอง


หน้าตาคีย์บอร์ดภาษาไทยและภาษาอังกฤษทั้งแนวตั้ง-แนวนอน



และอีกจุดเด่นหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับระบบปฏิบัติการ Nokia X และรีวิวครั้งก่อนได้กล่าวไปแล้วแต่ก็อยากนำเสนอให้ผู้อ่านทราบอีกครั้งก็คือ ความสามารถในการติดตั้งแอปฯ จากแอนดรอยด์ที่เป็นไฟล์นามสกุล apk ได้ โดยมีเงื่อนไขคือไฟล์ apk ที่ติดตั้งจะต้องไม่มีการเรียกใช้ Google Service และการติดตั้งรูปแบบนี้ผู้ใช้ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจทำให้ระบบเสียหายเอง เพราะโนเกียตั้งใจอยากให้ผู้ใช้ Nokia X ทุกคนได้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก Store ของตนมากกว่า



ส่วนผู้ใช้ท่านใดที่อยากตกแต่งหน้าจอด้วย Widget สไตล์แอนดรอยด์ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ทดสอบประสิทธิภาพ




มาถึงส่วนทดสอบประสิทธิภาพ ด้านหน้าจอจะรองรับการสัมผัสพร้อมกัน (Multi-touch) 5 จุด ส่วนประสิทธิภาพการทำงานโดยภาพรวมถือว่าพอใช้ ไม่ถึงกับลื่นไหล เวลากดเข้าแอปพลิเคชันที่ต้องใช้หน่วยประมวลผลหนักๆ เช่น เกม อาจต้องรอสักครู่ แอปฯถึงจะเริ่มทำงาน

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องชม Nokia XL ก็คือความอึดของแบตเตอรีขนาด 2,000mAh กับการจัดสรรพลังงานมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 11-13 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (ทดสอบโดยเปิดใช้ WiFi เล่นโซเชียล เกมและฟังเพลงผ่าน Nokia MixRadio ตลอดทั้งวัน) เรียกว่าใช้งานได้หนึ่งวันสบายๆ



ส่วนการทดสอบกล้องหน้าเพราะเป็นจุดขายหลักของ XL เช่นกัน ต้องบอกว่าพอใช้ถ้าถ่ายในสภาพแสงสว่างพอดี เช่น ตอนกลางวัน แต่สำหรับตอนกลางคืนหรือผ่านแสงไฟนีออนภาพที่ถ่ายได้จากกล้องหน้าจะให้สีสันจืดชืดหรือไม่ก็มืดมิดภาพแตก Noise ขึ้นมากมาย





ส่วนกล้องหลังก็ให้คุณภาพพอใช้เป็นไปตามราคาค่าตัว XL โดยถ้าถ่ายในตอนกลางวันภาพถือว่าโอเค มีติดอาการภาพฟุ้งบ้างแต่ก็ยังคมชัด แต่เมื่อเจอสภาพแสงตอนกลางคืนนอกจาก f/2.8 ที่ให้มาจะไม่ช่วยอะไรแล้วภาพยังมี Noise ที่มากและสีสันจืดเหมือนกล้องหน้าเลย



ส่วนไฟแฟลชที่ใส่ให้มาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเพราะเป็นเครื่องทดสอบที่ยังไม่สมบูรณ์ ภาพที่ได้จึงติดสีเขียวเหมือนมีใครเอาฟิลเตอร์มาใส่หน้ากล้องแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะถอดเคสหลังออก รีสตาร์ทเครื่องหรือแม้แต่ Factory Reset แล้ว เมื่อถ่ายภาพเปิดไฟแฟลช ภาพที่ได้ทุกภาพจะติดสีเขียวอย่างไม่น่าให้อภัย

งานนี้คงต้องฝากโนเกียช่วยแก้ไขก่อนออกขายจริงด้วยนะครับ หรือถ้าเป็นเฉพาะเครื่องที่ผมทดสอบคนเดียวก็ช่วยส่งเมล์มาชี้แจงด้วยครับ

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?

ข้อดี

- งานประกอบดีเยี่ยม สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรีได้
- หน้าจอใหญ่ จับกระชับมือ
- จัดการพลังงานดีมาก การใช้งานลื่นไหลสมราคา
- GPS จับสัญญาณเร็วมาก

ข้อสังเกต

- มีเฉพาะรุ่นรองรับ 3G 900/2,100MHz ในช่วงแรก

โดยภาพรวมแล้ว ถ้าตัดปัญหาเรื่องไฟแฟลชติดสีเขียวออกไป ผมก็มองว่าด้วยราคาค่าตัวไม่ถึง 6 พันบาท Nokia XL Dual Sim ถือว่าน่าใช้สุดของตระกูล X ในปัจจุบันแล้ว เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ ประสิทธิภาพความเสถียรที่ทำออกมาได้ดี ผู้อ่านที่มีงบประมาณจำกัดและกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งานโซเชียล เล่นเว็บ ไม่เน้นเล่นเกมหรืออยากหามาติดรถไว้ใช้แผนที่เทพอย่าง Here Map หรือฟังเพลงผ่านบลูทูธเข้ากับวิทยุรถยนต์ Nokia XL Dual Sim ตอบโจทย์ได้ทั้งหมดแถมแบตเตอรีก็อึดด้วยการจัดสรรพลังงานที่ดีสอดคล้องกับแบตเตอรีที่ให้มาถึง 2,000mAh วัสดุประกอบดี และเป็นสมาร์ทโฟนราคา 5-6 พันบาทที่ออกแบบระบบปฏิบัติการมาได้เสถียรติดอันดับต้นๆ ฟีเจอร์ที่ขาดหายและควรมีใน Nokia X ก็ถูกใส่มาในรุ่น XL ทั้งหมดแล้ว

ใครกำลังสนใจ Nokia X อยู่ในตอนนี้ลองกัดฟันเพิ่มเงินมองรุ่น XL สักนิด รับรองว่าจะถูกใจกว่าแน่นอน..

Company Related Link :
Nokia

CyberBiz Social



โหมดกล้องถ่ายภาพมาพร้อม Face Detection





กำลังโหลดความคิดเห็น