ความจริงเจ้าอุปกรณ์ควบคุมคอมพิวเตอร์บนอากาศ (Touchless) ที่มีแนวคิดจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดล้ำอนาคตหลายเรื่องในชื่อ LEAP Motion ได้เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ทีมงานเพิ่งมีโอกาสได้ทดสอบเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
แน่นอนถึงแม้ LEAP Motion จะวางจำหน่ายไปพักใหญ่ผ่านหน้าเว็บไซต์ LEAP Motion (ไม่มีตัวแทนนำเข้ามาจำหน่ายในไทย ใครอยากได้ต้องสั่งซื้อจากเว็บไซต์เท่านั้น) แต่ด้วยความสดใหม่ของแนวความคิดและนวัตกรรมด้านการใช้งานที่ถือว่าล้ำสมัยแหวกแนวที่สุด ทีมงานไซเบอร์บิซนำโดยผม @dorapenguin ก็ขอหยิบยกเจ้า LEAP Motion มาทดสอบให้ผู้อ่านได้ชมกันอย่างละเอียด
สำหรับหน้าตา LEAP Motion จะเป็นแท่งสีเหลี่ยมผืนผ้าใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมผสมพลาสติกขนาดครึ่งหนึ่งของฝ่ามือ น้ำหนัก 40 กรัม รองรับทั้ง Mac และ Windows
โดยในส่วนการทำงาน บริเวณด้านหน้า (สีดำ) จะมีเซ็นเซอร์คล้ายแสงอินฟาเรดสีแดง 3 ตำแหน่งยิงขึ้นมาแบบ 3 มิติครอบคลุมพื้นที่ 150 องศาเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหว (Track) ของนิ้วมือผู้ใช้ทั้ง 10 นิ้วที่ความละเอียดสูงสุด 200 เฟรมต่อวินาที
ในส่วนการติดตั้งก่อนเริ่มใช้งาน ผู้ใช้ต้องเข้าไปดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จาก leapmotion.com/setup มาติดตั้งก่อน
จากนั้นจะพบกับหน้า Airspace Home ซึ่งเป็นหน้าโฮมสกรีนรวมแอปพลิเคชันที่รองรับกับ LEAP Motion ไว้พร้อมสโตร์ในการซื้อและดาวน์โหลดแอปฯ ในชื่อ Airspace Store ซึ่งในปัจจุบันแอปฯ ที่รองรับกับ LEAP Motion ยังมีไม่มาก โดยแอปฯ ส่วนใหญ่ที่เปิดให้ดาวน์โหลดและซื้อผ่านสโตร์จะเน้นไปที่เกมและแอปฯ วาดรูป เล่นดนตรีเป็นส่วนใหญ่
สำหรับการทดสอบใช้งาน ลองติดตามชมได้จากวิดีโอด้านล่างได้เลย
สรุปผลจากการทดสอบ ยอมรับอย่างแรกว่า LEAP Motion ถือเป็นอุปกรณ์กลุ่ม Controller ที่สร้างความแปลกใหม่ในตลาดมาก เพราะจริงๆ แล้ว LEAP ก็เหมือนเป็นทัชแพดมัลติทัชรวมกับจอแบบสัมผัสในรูปแบบที่ไม่ต้องกดและสัมผัสตรงๆ โดยการควบคุมการทำงานจะทำผ่านนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วของเราที่แหวกว่ายสั่งงานในอากาศอารมณ์เดียวกับเทคโนโลยีที่เห็นในภาพยนตร์ไซไฟ
แต่ถ้าถามถึงความแม่นยำ และการนำไปใช้งานจริงๆ ส่วนนี้เป็นข้อสังเกตที่ LEAP Motion ยังทำได้ไม่ดี แม้ปัจจุบันเฟริมแวร์จะมีการอัปเดตให้มีความเสถียรมากขึ้น แต่อุปกรณ์ก็ยังขาดความแม่นยำและมีข้อผิดพลาดระหว่างใช้งานจำนวนมาก เช่น การใช้วาดรูปผ่านแอปฯ เฉพาะของ Corel ที่เอาเข้าจริงๆ ยอมซื้อแพดและปากกาดิจิตอลมาใช้งานจะสะดวกกว่า เพราะกว่าจะตวัดลงเส้นได้แต่ละที ก็ดูเหมือนว่า LEAP ยังคำนวณน้ำหนักและตำแหน่งของนิ้วเราคาดเคลื่อนตลอด บางทีอยากได้เส้นบางแต่เราดึงนิ้วออกมากเกินไปก็กลายเป็นไปโดนคำสั่งอื่นวุ่นวาย เมื่อยมือมากๆ
ดีอย่างเดียวคือ LEAP ใช้เล่นเกมแนว FPS ถือปืนเดินยิงได้อารมณ์ร่วมดี และสนุกสุดตั้งแต่เริ่มทดสอบมา แต่ก็คงไม่สามารถสู้กับ Kinect ของไมโครซอฟท์ได้แน่นอน
ส่วนผู้ใช้ที่ตั้งความหวังว่า LEAP Motion จะเป็นอนาคตของเมาส์และคีย์บอร์ดแบบเดียวกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด ตรงนี้ผมไม่เถียง เพราะมีโอกาสเป็นไปได้ในอนาคต แต่ LEAP ต้องถูกพัฒนาให้ดีกว่านี้เสียก่อน เพราะปัจจุบัน LEAP ยังเป็นอุปกรณ์ที่ซื้อมาแล้วสร้างภาระให้ผู้ใช้มากกว่าจะอำนวยความสะดวก ซึ่งถ้าให้ผมคิดเป็นคะแนนเต็มสิบผมให้แค่ 3 พอครับ
แต่ถึงอย่างไร LEAP Motion ก็มีแนวทางและแนวคิดที่ดีในการเปลี่ยนแปลงโลกไซเบอร์ใบนี้ ผมเอาใจช่วยให้ LEAP Motion มีเวอร์ชันต่อไปที่ดีกว่านี้ หวังว่าวันนั้นจะมีอยู่จริงเพราะใจจริงผมอยากเขียนชมอุปกรณ์ชิ้นนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้พัฒนามาก แต่เมื่อทดสอบจริงแล้ว LEAP Motion ทำให้ผมผิดหวังโดยเฉพาะวิดีโอโฆษณาที่ดูเกินจริงไป ผมก็ไม่สามารถจะกัดฟันตีหน้ายิ้มเขียนชมได้ครับ
Company Related Link :
LEAP Motion
CyberBiz Social
