xs
xsm
sm
md
lg

Review : Nokia Lumia 1020 การกลับมาของเพียววิวคาเมร่า 41 ล้านพิกเซล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




เมื่อปีก่อนโนเกียเคยพัฒนาสมาร์ทโฟนที่รันบน Symbian Belle กับ Nokia 808 PureView ที่มาพร้อมกล้องความละเอียด 41 ล้านพิกเซลและเทคโนโลยี Lossless Zoom ซึ่งสร้างเสียงฮือฮาให้กับวงการถ่ายภาพได้อย่างมาก

มาวันนี้เทคโนโลยีเหล่านั้นถูกรีบู๊ตและแจ้งเกิดใหม่อีกครั้งกับ Lumia 1020 ที่รันบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 อย่างเต็มรูปแบบพร้อมดีไซน์ใหม่หมดดูลงตัวกว่า 808 PureView อย่างมาก

การออกแบบและสเปก



สำหรับดีไซน์ของ Lumia 1020 จะเป็นแบบ monoblock ใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนตผลิตทั้งหมด โดยหน้าจอเป็นกระจก Corning Gorilla Glass 3 ขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด WXGA 1,280x768 พิกเซล อัตราส่วน 15:9 334ppi มาพร้อมเทคโนโลยี ClearBlack ให้สีดำเป็นดำสนิท AMOLED และ PureMotion HD+ ที่ช่วยให้ภาพที่แสดงบนหน้าจอมี Refresh Rate 60Hz รวมถึงมีระบบ Sunlight readability enhancements ที่ช่วยบู๊ตความสว่างหน้าจออัตโนมัติเมื่อต้องใช้งานในที่มีแสงอาทิตย์จัด

ด้านระบบสัมผัสจะเป็น Super sensitive touch มีความไวต่อการสัมผัสหน้าจอที่สูง สามารถตั้งต่าความไวในการสัมผัสหน้าจอได้ และเมื่อใส่ถุงมือก็ยังสามารถสัมผัสหน้าจอได้อย่างลื่นไหน

ในส่วนน้ำหนักของ Lumia 1020 อยู่ที่ 158 กรัม หนา 10.4 มิลลิเมตร



มาที่ด้านหลังจะเป็นที่อยู่ของกล้องถ่ายภาพความละเอียด 41 ล้านพิกเซลบนเซ็นเซอร์ BSI PureView ขนาด 1/1.5 นิ้ว ประกบเลนส์ Carl Zeiss f/2.2 ออโต้โฟกัส ระยะเลนส์เป็นไวด์ 26 มิลลิเมตร สามารถโฟกัสวัตถุได้ใกล้สุด 15 เซนติเมตร พร้อมไฟแฟลช Xenon flash ยิงได้ไกล 4 เมตร และไฟช่วยหาโฟกัส พร้อมระบบซูม High resolution zoom 3x ที่ใช้เทคนิคการครอปภาพจากความละเอียดสูงสุดผ่านเทคโนโลยีของโนเกียทำให้ภาพซูมที่ได้เหมือนซูมจากเลนส์ Optical ในกล้องคอมแพกต์ทั่วไป อีกทั้งตัวกล้องยังมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว Optical image stabilization ในแบบฮาร์ดแวร์จริงไม่ใช่ซอฟท์แวร์เหมือนคู่แข่ง ซึ่งสามารถป้องกันภาพสั่นไหวที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำสุด 1/4 วินาที

สำหรับค่าความไวแสง (ISO) ผู้ใช้สามารถปรับได้ตั้งแต่ 100-3,200 ส่วนวิดีโอสามารถบันทึกภาพที่ความละเอียดสูงสุด 1,920x1,080 พิกเซล 30 เฟรมต่อวินาทีพร้อมความสามารถในการซูมภาพในโหมดวิดีโอ 6 เท่า


ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 1,280x960 พิกเซลพร้อม f/2.4 ส่วนการบันทึกวิดีโอโดยกล้องหน้าสามารถทำได้ที่ความละเอียด 720p เท่านั้น



และถ้าสังเกตบริเวณด้านหลังสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีขั้วไฟ 2 ขั้วสำหรับใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้เช่น กริปพร้อมแบตเตอรีทำให้จับกระชับมือขึ้นหรือจะเชื่อมต่อกับ Nokia Wireless Charging Cover ที่โนเกียแยกออกมาขายเป็นเคสประกบหลัง Lumia 1020




ในส่วนพอร์ตเชื่อมต่อรอบตัวเครื่อง เริ่มจากด้านล่างจะเป็นพอร์ต MicroUSB พร้อมลำโพงขยายเสียง ส่วนด้านบนตรงกลางเป็นช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดไปทางขวาเป็นช่องใส่ MicroSIM



ส่วนปุ่มกดต่างๆ จะติดตั้งอยู่ด้านขวาของตัวเครื่องทั้งหมด เริ่มจากซ้ายสุดของภาพคือปุ่มชัตเตอร์ ถัดมาตรงกลางเป็นปุ่มเปิด-ปิด-Lock หน้าจอ เครื่องและปุ่มสุดท้ายคือปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง



มาดูในส่วนของสเปกเครื่อง สำหรับรุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบติดตั้ง Windows Phone 8 + Lumia Amber ตัวล่าสุด ซีพียูที่ใช้เป็น Qualcomm Snapdragon S4 Dual Core 1.5GHz ทำให้ระบบเครือข่ายโทรศัพท์ 3G สามารถรับคลื่นความถี่ในไทยได้ทั้งหมด ส่วน 4G LTE รองรับแบรนด์ 1,3,7,8,20 (รับ 4G LTE ของทรูมูฟเอช) RAM ให้มา 2GB หน่วยเก็บข้อมูลภายใน 32GB พร้อม Cloud Storage : SkyDrive เพิ่มอีก 7GB เมื่อเปิดใช้งานภายในเครื่อง

ในส่วนระบบเชื่อมต่อต่างๆ Lumia 1020 มาพร้อม NFC, WiFi, DLNA, Bluetooth 3.0 และเซ็นเซอร์ในตัวเครื่องแบบจัดเต็มตั้งแต่ Ambient light sensor, Accelerometer, Barometer, Gyroscope, Proximity sensor และ Magnetometer



ส่วนแบตเตอรีให้มา 2,000 mAh ซึ่งจากการทดสอบเปิด Battery Saver และใช้งานสามารถทำได้ประมาณ 8 ชั่วโมงเท่านั้น และยิ่งใช้งานกล้องถ่ายภาพหนักๆ แบตเตอรีหมดตั้งแต่เพียงครึ่งวันเช้าอย่างรวดเร็ว



สุดท้ายก่อนเข้าสู่เรื่องฟีเจอร์เด่น สำหรับคนที่ยังฝังใจว่า Windows Phone ไม่มีภาษาไทย ขอให้คิดเสียใหม่ครับว่าตั้งแต่การมาของ Windows Phone 8 ภาษาไทยถูกเพิ่มเข้ามาอย่างสมบูรณ์แบบแล้วครับ

UI และฟีเจอร์เด่น





ตั้งแต่ Nokia Lumia 920 925 ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ลูกเล่นต่างๆ เช่น Here Maps Cinemagraph และอื่นๆ จะเหมือนกันแทบทั้งหมดเพราะฉะนั้นในส่วนนี้ทีมงานจะไม่ขอเจาะลึกรายละเอียดใดๆ นัก แต่จะเน้นไปในส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาใน Lumia 1020




เริ่มจากส่วนของ Nokia Pro Camera ที่ถูกเพิ่มเข้ามาและเป็นซอฟต์แวร์กล้องหลักสำหรับการถ่ายภาพจาก Lumia 1020 โดยหน้าตาของ Pro Camera  จะดูเรียบง่าย ค่าเริ่มต้นที่ให้มาคืออัตโนมัติทั้งหมด ซึ่งเมื่อผู้ใช้กดถ่ายภาพแล้วระบบถึงจะวิเคราะห์ภาพและปรับซีนโหมด แสง สี ความสว่างผ่านหน่วยประมวลผลภาพให้พร้อมแสดงผลลัพท์ที่ได้ออกมาในส่วนของพรีวิวภาพ



ส่วนการตั้งค่าภาพถ่าย โนเกียจัดการเมนูใหม่หมดให้เหลือตัวเลือกแค่ 2 ตัวเลือกเพราะกันผู้ใช้สับสน โดยผู้ใช้สามารถเลือกขนาดภาพได้เพียง 5 ล้านพิกเซลเดี่ยวๆ สำหรับถ่ายไปโพสต์ลงเครือข่ายสังคม หรือจะเลือกแบบ 5 ล้านพิกเซล + 38 (4:3) หรือ 34 (16:9) ล้านพิกเซล สำหรับนำภาพขนาดใหญ่ไปใช้ในการทำ Lossless Zoom ผ่านซอฟต์แวร์ Creative Studio หรือ Crop ภาพจากระบบ โดยตัวเลือกหลังจะใช้เนื้อที่เก็บข้อมูลประมาณ 16-18MB ต่อหนึ่งรูปในแบบ JPEG File เท่านั้น



และสำหรับขาแมนวลอยากได้ภาพตามใจต้องการ Lumia 1020 ก็อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถปรับค่ากล้องได้แบบกล้องดิจิตอลทั่วไปตั้งแต่ค่า White Balance, โฟกัส, ISO, ชดเชยแสงและความเร็วชัตเตอร์ที่สามารถปรับได้ช้าสุด 4 วินาที ถึงขนาดสร้างแสงไฟเป็นทางยาวสวยงามได้ดังเช่นบทความที่ทีมงานได้ไปร่วมทดสอบกับทริปที่โนเกียประเทศไทยจัดขึ้นในบทความ คุ้มค่าหรือไม่!!! ทำไมต้องซื้อ Nokia Lumia 1020



มาถึงแอปฯ เด่นของโนเกียกับ Creative Studio ที่สามารถปรับแต่งภาพได้ละเอียดมากตั้งแต่ปรับเฉดสี ใส่เอ็ฟเฟ็กต์สีสันต่างๆ ทำ tilt shift ปรับ clarity รวมถึงครอปภาพจาก lossless file ใหญ่สุดได้ด้วย


WP_20130920_15_01_17_Pro

ยกตัวอย่างภาพด้านบนคือภาพที่ถ่ายบนความละเอียด 34 ล้านพิกเซล (16:9) จากนั้นจึงครอปผ่าน Creative Studio พร้อมปรับสีและแสงเล็กน้อยก็ได้ผลลัพท์เป็นภาพที่สองที่ความละเอียด 1,483 x 750 หรือประมาณ 1 ล้านพิกเซล (ลองกดภาพซูมดูกันได้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร)



ฟีเจอร์เด่นสุดท้ายกับ Nokia Smart Camera ที่มาจาก Lumia 925 ก็ติดตามมาด้วยใน Lumia 1020

สำหรับใครที่อยากชมรายละเอียดของแอปฯ จากโนเกียที่ให้มาพร้อมกับระบบเครื่อง Lumia 1020 สามารถเข้าไปรับชมได้จากบทความเก่า Review : Nokia Lumia 925 โดดเด่นในที่แสงน้อย เพราะแอปฯ ส่วนใหญ่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมเท่าใดนัก ยกเว้นอัปเดตให้รองรับความละเอียด Lossless Files 41 ล้านพิกเซลได้เท่านั้นเอง



สุดท้ายลองทดสอบประสิทธิภาพดูบ้างด้วยแอปฯ AnTuTu สามารถทำคะแนนไปได้ 10,862 คะแนน ส่วน MultiBench 2 จะเห็นว่ากราฟคะแนนอยู่ในเกณฑ์พุ่งสูง และถ้าสังเกตกราฟสีแดงให้ดี จะพบว่าชื่อเครื่องที่ทีมงานได้รับมาทดสอบกลายเป็นรหัสเฟริมแวร์เนื่องจาก Lumia 1020 ในมือทีมงานเป็นรุ่นทดสอบนั่นเอง

ทดสอบกล้องถ่ายภาพ

WP_20130919_20_53_06_Pro
WP_20130923_19_15_48_Pro
WP_20130923_18_08_20_Pro
WP_20130923_18_00_20_Pro
WP_20130920_15_23_16_Pro
WP_20130922_09_33_08_Pro
WP_20130922_09_39_55_Pro
WP_20130922_12_36_11_Pro
WP_20130922_13_01_13_Pro
WP_20130922_13_25_24_Pro__highres
WP_20130922_13_36_35_Pro

หลังจากดูภาพทดสอบมาหลายภาพ ผมขอสรุปหลังจากคลุกคลีอยู่กับ Nokia Lumia 1020 เป็นเวลาร่วมสองอาทิตย์ อย่างแรกต้องยอมรับครับว่า Lumia 1020 ให้คุณภาพไฟล์ที่ดี ความคมชัด มีมิติจากเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ รวมถึงขนาดภาพ 41 ล้านพิกเซลที่นำไปต่อยอดได้จริง ช่วยให้ Lumia 1020 เป็นกล้องที่ดีที่สุดในกลุ่มวินโดวส์โฟน ณ ปัจจุบันนี้

แต่ถ้าถามว่าจะยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในวงการสมาร์ทโฟนได้ไหม ส่วนนี้ทีมงานขอเรียนตามตรงว่า ณ ปัจจุบันยังไม่ได้ แน่นอนว่า Lumia 1020 ให้ไฟล์ภาพที่ดีกว่าคู่แข่งทุกเจ้าที่ทีมงานได้เคยสัมผัส แต่ติดอยู่ที่ซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพที่ทำหน้าที่ยังไม่ดี โดยเฉพาะ White Balance จะออกอมเหลืองเกือบทุกรูป และอีกประเด็นที่สำคัญก็คือกล้องทำงานช้าและหน่วงพอสมควร ยิ่งบันทึกภาพที่ความละเอียดระดับ 38 ล้านพิกเซล กล้องยิ่งทำงานช้าและเวลาเตรียมตัวเพื่อถ่ายภาพต่อไปก็ช้าลงด้วย



ส่วนวิดีโอจากที่เคยประทับใจตอนทดสอบ Lumia 920 ที่ชูเรื่อง OIS อย่างหนักและทำหน้าที่ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ กลับมาใน Lumia 1020 ความประทับใจเรื่อง OIS กลับเฉยๆ และดูเหมือนคุณภาพไฟล์วิดีโอก็เหมือนๆ เดิมไม่มีสิ่งใดน่าตื่นเต้นยกเว้น Rich Sound Recording ที่ทำได้แจ่มแจ๋วสุดยอด รวมถึงระบบซูมภาพในโหมดวิดีโอที่ถึงไม่สมูทแต่ทำได้คมชัดจากขนาดพิกเซลที่มากมาย

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่านี่คือ Lumia 1020 ที่เฟริมแวร์ยังเป็นรุ่นทดสอบอยู่ เอาเข้าจริงรุ่นวางขายในเดือนหน้าออกมาอาจมีอะไรดีขึ้นกว่านี้ก็ได้

WP_20130923_18_26_19_Pro

สุดท้ายถึงแม้จะมีเสียงบ่นเรื่องซอฟต์แวร์ใน Lumia 1020 อยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่โนเกียสร้าง 1020 มาไม่ให้เหมือนชาวบ้านชาวและกลายเป็นจุดขายหลักดึงดูดนักถ่ายภาพก็คือ "ความสามารถในการปรับค่ากล้องแบบแมนวล" ดังเช่นภาพนี้ ทีมงานปรับความเร็วชัตเตอร์ลงไปเหลือ 1/10 วินาที ISO ปรับลงเหลือ 320 นอกนั้นออโต้ ผลลัพท์ที่ได้น่าประทับใจครับ Noise น้อยลง แสงสีดีขึ้นกว่าแบบปรับอัตโนมัติทั้งหมด ยอดเยี่ยมในแบบแมนวลจริงๆ ส่วนอัตโนมัติขอให้ปรับปรุงด่วนครับโนเกีย

จุดขาย

- งานประกอบ วัสดุทำได้ดี แข็งแรง ออกแบบสวยงาม จับกระชับมือ
- หน้าจอสู้แสงอาทิตย์ได้
- กล้อง 41 ล้านพิกเซลใช้ต่อยอดเรื่องซูมภาพได้ดีเหมือนรุ่น 808 PureView
- แมนวลโหมดในซอฟต์แวร์่ Nokia Pro Cam
- วิดีโอบันทึกเสียงแบบ Rich Sound ที่ทำได้ยอดเยี่ยมมาก
- อุปกรณ์เสริมมีให้เลือกมากมาย

ข้อสังเกต

- ซอฟต์แวร์กล้องยังต้องปรับปรุงอีกมาก โดยเฉพาะเรื่องความรวดเร็วในการประมวลผลภาพที่ช้ามาก
- แบตเตอรี 2,000mAh หมดเร็วมาก ยิ่งใช้กล้องถ่ายภาพหนักๆ แบตสามารถหมดลงได้ภายในเวลาเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น
- เครื่องร้อนมากระหว่างใช้งานกล้องถ่ายภาพ

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

ด้วยราคาระดับ 24,990 บาทคงต้องเป็นแฟนเดนตายของโนเกียหรือชื่นชอบความแนวของวินโดวส์ โฟน 8 เท่านั้นถึงจะยอมควักเงินจ่ายแบบไม่ต้องคิดอะไร เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว Lumia 1020 มีดีแค่กล้องที่มาพร้อมฟีเจอร์และสเปกหรูหราเท่านั้น นอกนั้นจะคล้ายกับ Lumia 925 รุ่นที่เคยรีวิวไปก่อนหน้าทั้งหมด

แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไป คนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพจะหลงรัก Lumia 1020 ได้ไม่ยาก แต่ถ้าจะให้ตัดสินใจซื้อก็ขอให้มองถึงเรื่องการนำไปใช้งานเป็นหลักครับว่าตอบสนองความต้องการได้หรือไม่ ถ้าไม่จงมองหารุ่นอื่น แต่ถ้าคิดว่าชอบถ่ายภาพ ไปไหนมาไหนภาพถ่ายคือลมหายใจ สมาร์ทโฟนในมือไม่เน้นเล่นแอปฯ ไม่ชอบตามกระแสสมาร์ทโฟน ขอแค่มีโซเชียลแอปฯ ไว้โพสต์รูปอวดชาวบ้านและเปิดเว็บได้ ก็ลองดู Lumia 1020 ได้ครับ ไม่เสียหายอะไรเลย...

Company Related Link :
Nokia

CyberBiz Social



Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket






กำลังโหลดความคิดเห็น