xs
xsm
sm
md
lg

Review : Samsung Galaxy Tab 3 10.1 จอใหญ่ใจอินเทล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




การออกแบบที่ซ้ำซากของซัมซุงดูจะเป็นเรื่องที่ถูกมองข้ามจากทีมบริหาร เพราะช่วงหลังมีเพียงขนาดตัวเครื่องหรือสเปกภายในเท่านั้นที่ปรับเปลี่ยน Galaxy Tab 3 10.1 ก็เช่นเดียวกัน รูปร่างหน้าตาที่ดูเหมือนกันไปหมดในแต่ละรุ่น แน่นอนว่าความตั้งใจของซัมซุงคือการทำให้ลูกค้าจดจำรูปร่างของสินค้าได้ แต่กระนั้นความแตกต่างที่ลูกค้าอยากได้ก็น่าจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ซัมซุงควรพิจารณา แม้ว่าภายในเครื่องจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพโดยเลือกใช้ชิปจากอินเทลเป็นหัวใจสำคัญ แต่ตำแหน่งของปุ่มที่อยู่ห่างเกินไปเมื่อขยายขนาดขึ้นก็ทำให้ความสะดวกในการใช้ลดน้อยลง และเรื่องดังกล่าวก็น่าจะส่งผลเสียต่อสินค้าซัมซุงเองในระยะยาวก็เป็นได้

การออกแบบและสเปก



Galaxy Tab 3 10.1 ได้รับการออกแบบให้เหมือนกันหมดทั้ง 3 ขนาด (ขนาด 10.1, 8, 7 นิ้ว) แต่ที่จริงก็น่าจะบอกว่าเหมือนกันหมดทั้งกาแล็กซี่ โดยมีปุ่มโฮมอยู่ตรงกลางด้านล่าง ลำโพงตาข่ายโลหะอยู่ด้านบนแบบแนวยาว และถ้าเป็นรุ่นที่มีกล้องก็จะถูกวางอยู่ด้านขวาหรือซ้าย พร้อมไฟแสดงสถานะถัดไปจากกล้องเท่านั้น เนื้อวัสดุทำจากพลาสติกและโลหะแบบอลูมิเนียมในบางส่วน ซึ่งนับว่าเป็นดีไซน์มาตรฐานของซัมซุงยุคนี้ก็ว่าได้ ดังนั้นจึงไม่ขอวิจารณ์ว่าดีหรือไม่เพราะอาจจะไม่แตกต่างจากเครื่องซัมซุงรุ่นก่อนหน้าที่หลายๆคนมีถืออยู่ในมือ ณ ตอนนี้ก็เป็นได้



ด้านหน้า - มองจากด้านบนจะเห็นโลโก้ของซัมซุงวางอยู่คู่กับกล้องขนาด 3 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแสดงสถานะแบบ LED ถัดลงมาเป็นจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้วความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ด้านล่างจะเห็น 3 ปุ่มหลักของมาตรฐานซัมซุงซึ่งก็คือปุ่มย้อนกลับทางด้านขวา ปุ่มโฮมสีขาวขนาดใหญ่ตรงกลาง และปุ่มเมนูทางด้านซ้าย โดยปุ่มทั้งหมดมีไฟเรืองแสงสีขาวช่วยให้มองเห็นในที่มีแสงน้อย



ด้านหลัง - มีกล้องขนาด 3 ล้านพิกเซลวางอยู่ตำแหน่งตรงกลางค่อนไปทางด้านบน ถัดลงมาด้านล่างมีโลโก้ซัมซุงสีเทามองเห็นเด่นชัด ขณะที่ด้านล่างสุดมีสัญลักษณ์คุณภาพช่วยให้ไม่ดูโล่งจนเกินไป



ด้านซ้าย - มีช่องลำโพงแบบตาข่ายอยู่เยื้องไปทางด้านบน พร้อมช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 ม.ม. ด้านขวา - มีเพียงช่องลำโพงตาข่ายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ขอบโดยรอบทำจากอลูมิเนียมเพื่อความทนทาน



ด้านบน - ช่องปล่อยสัญญาณอินฟาเรด (IR) ถัดออกมามีช่องใส่ไมโครเอสดีพร้อมฝาปิดมิดชิดสวยงาม ถัดมาอีกมีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียงแบบปุ่มยาว ช่วยลดจำนวนปุ่มได้เป็นอย่างดี และสุดท้ายเป็นปุ่มเปิด - ปิดเครื่องพร้อมไฟแอลอีดีแสดงสถานะ โดยปุ่มทั้งหมดที่กล่าวมาเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมในการทำเพื่อให้เข้ากับขอบด้านข้างของเครื่องนั่นเอง



ด้านล่าง - มีเพียงช่องต่อสายชาร์จและสาย Data Link เท่านั้น



Galaxy Tab 3 10.1 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Atom Z2560 Dual-Core 1.6 GHz หน่วยประมวลผลภาพแบบ PowerVR SGX 544MP2 ช่วยให้การแสดงผลภาพลื่นไหล ทำงานบนแรมขนาด 1 GB พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูล 16 GB (รุ่นที่นำมาทดสอบ) โดยเมื่อติดตั้งระบบพื้นฐานแล้วจะเหลือพื้นที่ให้ใช้งานโดยประมาณ 11.8 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบไมโครเอสดีการ์ดได้สูงสุด 32 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2.2 (Jelly Bean) รุ่นที่นำมาทดสอบไม่รองรับการใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ขณะที่รุ่นวางจำหน่ายคาดว่าจะสามารถรองรับเครือข่าย 3G บนย่านความถี่ 850, 900, 1900 และ 2100 MHz ความเร็วสูงสุด HSDPA 7.2 Mbps พร้อมรองรับ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n ความถี่แบบดูอัล 2.4 + 5GHz มีบลูทูธและจีพีเอสสำหรับแอปพลิเคชันนำทางและระบุพิกัดที่อยู่

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ



Galaxy Tab 3 10.1 ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า 10 นิ้ว นับว่าเป็นจุดเด่นทางการแสดงผลที่ไม่ต้องเพ่งสายตามาก พื้นที่การใช้งานบนจอมีมาให้อย่างเหลือเฟือ หรือแม้กระทั่งการใช้งานด้านมัลติมีเดียเพื่อชมภาพยนตร์ผ่านอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ถือว่าสามารถตอบโจทย์ได้อย่างไม่ขัดเขิน ความละเอียดของหน้าจอที่แสดงผลได้แบบ 1280 x 800 พิกเซล แม้ว่าจะไม่ใช่ที่สุดของความละเอียดแต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการแสดงผลที่คมชัดสำหรับหน้าจอ 10 นิ้วอย่างลงตัว



ระบบเสียงของ Galaxy Tab 3 10.1 ถือว่าเป็นความลงตัวที่ไม่มากจนเกินไป สามารถปรับแต่งเสียงผ่านระบบ SoundAlive ได้บ้างในระหว่างที่ฟังเพลง การรับชมภาพยนตร์ผ่าน Tab 3 10.1 ยังมีระบบเสียง Dolby Surround รองรับกิจกรรมเพื่อความบันเทิง ซึ่งก็ถือว่าคุณภาพเสียงที่ได้ไม่แย่กนเกินไป สามารถใช้งานจริงได้ หากแต่การชมให้ได้อรรถรสอย่างแท้จริงแนะนำว่าหาหูฟังคุณภาพดีๆมาต่อพ่วงจะช่วยเพิ่มประสบการรับชมภาพยนตร์ผ่านอุปกรณ์ชิ้นนี้ที่ดีเป็นอย่างมาก



Smart Remote เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจ และสะท้อนความใส่ใจในการพยายามแนะนำอุปกรณ์ที่สามารถใช้พ่วงกันได้แม้ว่าจะต่างยี่ห้อกัน แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งความสามารถที่อุปกรณ์ส่วนตัวจะสามารถไปควบคุมอุปกรณ์อื่นๆได้ ก็ถือว่าเป็นความสะดวกอีกอย่างที่แม้ว่าจะไม่ได้ประโยชน์ทางตรงแต่ก็เป็นทางอ้อมที่น่าสนใจ



Wi-Fi 2 Channel สามารถช่วยเร่งความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วขึ้น 2 เท่า (143 Mbps) บนย่านความถี่ 2.4GHz / 5GHz ชาแนล ซึ่งแป็นการรวม 2 ย่านความถี่ออกมาเป็นความถี่เดียว แต่การใช้งานเทคโนโลยีนี้อาจจะสร้างปัญหาให้อุปกรณ์รอบข้างที่มีการใช้งานไวไฟได้



Smart Stay การปรับเปลี่ยนหน้าจอตามองศาการมอง โดยเมื่อละสายตาจากจอภาพ หน้าจอจะเข้าสู่โหมดการพักหน้าจอทันที ช่วยให้พลังงานของแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น แน่นอนว่านี่เป็นลูกเล่นที่อาจจะไม่ยิ่งใหญ่แต่ก็เป็นลูกเล่นที่เพิ่มสีสันให้เครื่องได้ไม่น้อย



Touch Wiz UI เป็นรูปแบบอินเตอร์เฟสที่คุ้นเคยของสาวกซัมซุงเป็นอย่างดี หากแต่การนำมาใส่ไว้ที่หน้าจอขนาดใหญ่ อาจจะทำให้เหลือพื้นที่ว่างอยู่เยอะพอสมควร เช่นเมื่อลองเลื่อนแถบเมนูลัดลงมาจากด้านบน จะเห็นได้ว่าแถบเมนูมีขนาดที่ไม่ได้กินพื้นที่ทั้งหมด แต่ยังเหลือพื้นที่บางส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน หรือการเปิดแอปฯบางตัวยิ่งทำให้เห็นชดเจนว่าพื้นที่เหลือสำหรับหน้าจอ 10.1 นิ้วยังมีเหลือว่าง



ในส่วนของคีย์บอร์ดถือว่าใช้งานได้ง่ายมาก เนื่องจากขนาดหน้าจอที่ใหญ่มากเป็นพิเศษ คีย์บอร์ดที่แสดงผลให้เห็นจึงกดได้เหมาะมือ (สำหรับคนนิ้วใหญ่) แน่นอนว่าเมื่อกดได้ถนัดมือก็ลดทอนเวลาแก้คำผิดก่อนโพสต์ได้เยอะที่เดียว การรองรับภาษาไทยและอังกฤษสามารถทำได้ดี ไม่มีอาการแสดงผลกระโดดอย่างที่คิด โดยอาจจะเป็นเพราะหน่วยประมวลผลแบบอินเทล ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม x86 ที่เราคุ้นเคยอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์



กล้องหลักที่มีมาให้ 3.2 ล้านพิกเซล และไม่มีแฟลชอาจจะทำให้การถ่ายภาพไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ แต่ก็อย่างที่รู้ว่าการหยิบเครื่องหน้าจอขนาด 10.1 นิ้วยกขึ้นมาถ่ายรูป อาจจะกลายเป็นที่ขำขันกับผู้พบเห็นก็เป็นได้ เรื่องนี้อาจจะทำให้ซัมซุงไม่เน้นการใช้งานกล้องก็เป็นได้ แต่กระนั้นกล้องหน้าที่ใช้สำหรับการทำวิดีโอคอลก็มาให้กว่า 1.3 ล้านพิกเซลซึ่งก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี



แบตเตอรี่ที่ให้มากว่า 6,800 mAh ไม่ต้องบรรยายเลยว่าจะครอบคลุมการใช้งานทั้งวันได้อย่างสบาย หากแต่ความจุที่มากขึ้นช่วงเวลาการชาร์จไฟก็ต้องนานขึ้นตามไปด้วย สิ่งนี้อาจจะต้องระวังในส่วนของการชาร์จเพราะอาจจะกลายเป็นว่าเมื่อชาร์จได้ยังไม่ทันเต็มก็มีความจำเป็นต้องถอดออกเสียก่อนเพื่อเดินทางออกข้างนอก สุดท้ายการใช้งานก็จะใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเพราะชาร์จไฟไม่เต็มนั่นเอง



การใช้งานด้านแผนที่บนหน้าจอที่ใหญ่ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจส่วนตัว แม้ว่าจะมีความไม่สะดวกหากต้องการที่จับกระจกเพื่อใช้งานระบบนำทาง แต่การการมีหน้าจอใหญ่ก็ช่วยให้เห็นเส้นทางใกล้เคียงและซูมดูได้เต็มตามากยิ่งขึ้น โดยรวมของการใช้งานแผนที่นับว่าความประทับใจอยู่พอสมควร



ผลการทดสอบด้วยโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 6,431 คะแนน และ 20,260 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน



ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 1,713 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 646 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้ 59.8 fps Nenamark2 59.9 fps ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ปานกลาง



ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark Performance Test Mobile ได้คะแนน System 3,280 คะแนน CPU 9,210 คะแนน Disk 13,301 คะแนน Memory 3,650 คะแนน 2D Graphics 2,735 คะแนน และ 3D Graphics 1,491 คะแนน



การทดสอบโปรแกรม 3DMARK รายละเอียดตามลำดับ Ice Stormได้ 6,189 คะแนน Graphic ได้ 5,897 คะแนน Physics ได้ 7,486 คะแนน

จุดขาย

- หน้าจอใหญ่ขนาด 10.1 นิ้ว
- แบตเตอรี่ความจุเยอะ 6,800 mAh
- หน้าจอปรับเปลี่ยนตามองศาการมอง
- หน่วยประมวลผลจากตระกูลอินเทล รุ่น Intel Atom Z2560 Dual-Core 1.6GHz

ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่

- การทดสอบซีพียูสามารถตอบสนองการใช้งานได้ดี ลื่นมือเป็นอย่างดี
- เครื่องที่นำมาทดสอบไม่รองรับซิม แต่เครื่องที่ขายรองรับซิมการ์ด จึงไม่แน่ใจว่าการจับสัญญาณมือถือเป็นอย่างไรบ้าง
- คุณภาพของกล้องที่น้อยเกินไป แม้ว่าจะไม่เน้นเนื่องจากขนาดของเครื่องที่ใหญ่ แต่ก็น่าจะติดเข้ามาให้มากกว่า ด้วยราคาระดับนี้

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

สำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องหน้าจอใหญ่ขนาดนี้อาจจะต้องการเวลาที่มากสำหรับเล่นเครื่องดังกล่าว หากแต่เพื่อการพกพาแล้ว Galaxy Tab 3 10.1 อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควรเนื่องจากขนาดที่ใหญ่เกินไป และการยืนยันที่จะใช้ความละเอียดหน้าจอเพียงเท่านี้กับหน้าจอขนาดใหญ่ จุดเด่นของหน้าจอที่ใหญ่จึงลดลงนั่นเพราะว่าไม่สามารถรองรับการเปิดไฟล์แบบ Full HD ได้นั่นเอง

ขนาดของแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุด แต่จากฟีเจอร์การใช้งานที่โดดเด่นอาจจะส่งผลให้แบตเตอรี่ถูกใช้งานอย่างหนัก ซึ่งจากการทดสอบการใช้งานลักษณะดังกล่าวก็สามารถผ่านพ้นวันมาได้อย่างสบายๆ ถือว่าสอบผ่านได้สำหรับการใช้งานด้านความบันเทิง

และด้วยระดับราคา 14,900 บาท ที่ถือว่าเป็นระดับราคาที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน อาจจะทำให้การตัดสินใจซื้อเครื่อง Tab 3 10.1 มีคู่แข่งเข้ามาหลายรุ่น แต่ท้ายที่สุดแล้วสำหรับผู้ที่ชอบการมองจอที่ใหญ่สะใจก็น่าจะสนใจเครื่องรุ่นนี้ และใช้งานมันได้เต็มประสิทธิภาพ สำหรับการใช้ด้านความบันเทิงและการอ่านความรู้ต่างๆทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์

Company Related Link :
Samsung










กำลังโหลดความคิดเห็น