หลังจากมีการเปลี่ยนตัวดึง Jonathan Ive มาเป็นผู้ดูแลโครงการระบบปฏบัติการไอโอเอสสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของแอปเปิล ทำให้หน้าตาไอโอเอสเดิมๆ ที่ถูกใช้มาอย่างยาวนานหลายปีต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่หมด
"ด้วยหลักการและแนวคิดของ Ive ที่ชื่นชอบการออกแบบที่เรียบง่าย เน้นใช้เส้นสายให้ดูหรูหราขึ้นแบบ Minimalist (มินิมัลลิสต์) ดังจะเห็นได้จากคอมพิวเตอร์ MacBook หลายๆ รุ่น ที่ไอฟ์เป็นผู้ออกแบบ"
iOS 7 จึงกลายการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญของแอปเปิลกับหน้าตาใหม่หมดรวมไปถึงระบบการใช้งานบางส่วนที่มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมจนผู้ใช้เดิมอาจต้องใช้เวลาสร้างความคุ้นชินก่อนใช้งาน และในวันนี้ทีมงานไซเบอร์บิซจะพาไปเจาะลึก iOS 7 ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพื่อเป็นไกด์ลายน์ให้สาวกค่ายผลไม้เมื่อ iOS 7 ปล่อยให้ดาวน์โหลดจริงใช้ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม
ภาพแสดงสถานะแบตเตอรีแบบใหม่ในหน้า Lock screenเมื่อเสียบสายชาร์จ
ฟอนต์ไทยใหม่ ไร้หัว ทำให้อ่านยากขึ้นหรือไม่?
เริ่มจากหน้าแรก Lock Screen และ Home Screen จะเห็นว่าแอปเปิลเปลี่ยนดีไซน์ไอโอเอสให้เป็นแบบแบนเรียบ (Flat Design) โดยเฉพาะภาษาไทยที่มีการเปลี่ยนฟอนต์ใหม่ไร้หัว และตัดปุ่ม slide to unlock ออกให้เหลือแต่ตัวอักษร ซึ่งผู้ใช้สามารถปลดล็อคหน้าจอได้ด้วยการนำนิ้วปาดจากซ้ายไปขวาที่บริเวณใดก็ได้ของหน้าจอ Lock Screen
ในส่วนเสาสัญญาณก็มีการปรับเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นบล็อกสี่เหลี่ยมเป็นวงกลมจุดไข่ปลา 5 จุด ซึ่งแอปเปิลบอกว่าทำให้สังเกตขีดสัญญาณโทรศัพท์ได้ง่ายกว่าแบบเป็นบล็อกสี่เหลี่ยม รวมถึงสถานะแบตเตอรีก็มีการขยายให้ใหญ่ และถ้าเสียบสายชาร์จทิ้งไว้จะมีไอคอนสายฟ้ากระพริบบอกสถานะของเครื่องว่ากำลังชาร์จไฟอยู่
นอกจากนั้นในหน้า Lock Screen ผู้อ่านยังสามารถเรียก Notification Center ด้วยการปาดนิ้วจากด้านบนขอบจอลงมา ส่วนถ้าปาดนิ้วจากขอบจอด้านล่างขึ้นไปจะเป็นการเรียก Control Center
ไอคอนนาฬิกาใน iOS 7 Beta 1 สามารถเคลื่อนไหวเพื่อบอกเวลาสไตล์นาฬิกา Analog แบบเรียลไทม์ได้
มาดูในหน้า Home Screen จะมีการเปลี่ยนแปลงไอคอนของแอปฯ ใหม่โดยตัดเรื่องแสงเงา ความสมจริงออก เป็นไอคอนแบนๆ เน้นสีสันมากขึ้น
ในส่วน Search iPhone จากเดิมใช้วิธีนำนิ้วปาดจากซ้ายไปขวาในหน้า Home Screen แต่ใน iOS 7 จะใช้วิธีปาดลงเมื่ออยู่ในหน้า Home Screen และเมื่อพิมพ์คำค้นหาจะปรากฏผลลัพธ์ในการค้นหาทันที
ด้านคีย์บอร์ดสำหรับ iOS 7 Beta 1 จะมีการปรับดีไซน์ใหม่เล็กน้อย โดยเปลี่ยน Background ให้เป็นโปร่งใสแบบเลเยอร์ซ้อนเลเยอร์จากเดิม Background คีย์บอร์ดจะเป็นสีเท่าทึบ และภาษาไทยส่วนของวรรณยุกต์จะเพิ่มจุดไข่ปลาคั่นไว้ให้สังเกตง่ายขึ้น
Apps Group การรจัดกลุ่มแอปฯ ใน iOS 7 จะถูกปรับเปลี่ยนให้สามารถใส่แอปฯ ในหนึ่งกลุ่มได้มากขึ้น
Notification Center and Control Center กับการปรับเปลี่ยนใหม่ เริ่มจาก Notification Center จะแบ่งการแจ้งเตือนเป็น 3 รูปแบบ เริ่มจาก today คือการแจ้งเตือนในส่วนการนัดหมาย สภาพอากาศ เป็นต้น ส่วน all จะเป็นการแจ้งเตือนจากแอปฯ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, Instragram และสุดท้าย missed คือส่วนเก็บการแจ้งเตือนที่ผู้ใช้ไม่ได้อ่าน เช่น มีการแจ้งเตือนมาในหน้า Lock Screen แต่ผู้ใช้ไม่ได้กดดู การแจ้งเตือนนั้นจะถูกเก็บไว้ในส่วนของ missed
ส่วน Control Center (นำนิ้วปาดจากล่างจอขึ้นบน) จะเป็นเมนูลัดสำหรับเปิดปิด Airplane Mode, WiFi, Bluetooth, do not disturb (ห้ามรบกวน) และล็อคการหมุนของหน้าจอ
นอกจากนั้นยังสามารถปรับแสงสว่างหน้าจอ มัลติมีเดียและสามารถกดเข้าแอปฯ ด่วน 4 แอปฯ ที่แอปเปิลเลือกไว้ให้ ได้แก่ ไฟฉาย นาฬิกาปลุก เครื่องคิดเลข และกล้องถ่ายภาพ
Multitasking แบบใหม่ เดิมทีระบบ Multitasking (เรียกใช้โดยกดปุ่มโฮม 2 ครั้งติดกัน) จะเป็นรูปไอคอนแสดงเพียงอย่างเดียว แต่ใน iOS 7 Multitasking จะสามารถแสดงภาพหน้าต่างแอปฯ ที่ใช้งานคู่กับไอคอนแอปฯ และวิธีการปิดแอปฯ ที่รันอยู่ก็ทำได้ง่ายกว่าเก่าเพียงกดตรงแอปฯ ที่ต้องการปิดจากนั้นก็ปาดนิ้วขึ้นไป แอปฯ จะปิดตัวลง
อีกทั้ง Multitasking แบบใหม่ ยังสามารถใช้ในแนวนอนได้ด้วย
Weather App แอปเปิลยังคงเรียกใช้บริการตรวจสอบสภาพอากาศจาก Yahoo เหมือนเดิม แต่จะมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาของแอปฯ ให้สามารถแสดงสภาพอากาศแบบภาพเคลื่อนไหวที่สวยงามขึ้น (ดูตัวอย่างได้จากคลิปวิดีโอด้านล่าง)
Camera and Photo Filter หน้าตาของแอปฯ ถ่ายภาพบน iOS 7 Beta 1 มีการปรับเปลี่ยนใหม่ โดยการเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพสามารถทำได้โดยใช้นิ้วปาดจากขวาไปซ้าย ไล่ตั้งแต่ Video, Photo, Square (ถ่ายภาพแบบ 1:1 ตาม Instagram สไตล์) และ Pano (พาโนรามา) ส่วนการถ่ายแบบ HDR ก็มีการปรับตำแหน่งปุ่มให้ง่ายขึ้น ด้วยการวางปุ่ม HDR ไว้เหนือปุ่มชัตเตอร์จากเดิมต้องกดเข้าไปใน Options ก่อนถึงจะเปิดใช้งานได้
และสำหรับผู้ใช้ ไอโฟน 5 ไอพอด ทัชตัวใหม่ จะสามารถใช้งานฟีเจอร์ Real-Time Effect Filter สำหรับใช้ตกแต่งภาพถ่าย เช่น เอฟเฟ็กต์ Noir, Process, Fade เป็นต้น
ภาพตัวอย่าง Photo Filter ที่ 1
ภาพตัวอย่าง Photo Filter ที่ 2
AirDrop on iOS เทคโนโลยี AirDrop คือเทคโนโลยีรับ-ส่งไฟล์ผ่านระบบไร้สาย (WiFi, Bluetooth) ระหว่าง iOS Device กับ iOS Device โดยไม่ต้องพึ่งพาสัญญาณอินเตอร์เน็ตและ Cloud Storage ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ไอโอเอสดีไวซ์สามารถส่งไฟล์ภาพหาเพื่อนได้ง่ายขึ้น
Photo Streams กับรูปแบบการแสดงผลแบบใหม่คล้าย Flickr
Gallery ในส่วนของอัลบั้มภาพจะมีการเพิ่มส่วนรับชมภาพแบบใหม่ในชื่อ Moments ที่มีหลักการทำงานคือ ระบบจะจัดหมวดหมู่ภาพให้อัตโนมัติ โดยอ้างอิงจากสถานที่ๆ ถ่าย ไปถึงวันเวลาที่ถ่าย โดยรูปที่ถ่ายจากสถานที่เดียวกันจะรวมอยู่ด้วยกันพร้อมไล่วันที่ เวลาถ่ายให้สะดวกต่อการเรียกชมภาพ
Block Contact เป็นออปชันพิเศษในสมุดรายชื่อ โดยผู้ใช้ iOS 7 สามารถบล็อกเบอร์โทรศัพท์ไปถึง FaceTime และข้อความ ที่เราไม่ต้องการสนทนาได้
Music ในส่วนแอปฯ ฟังเพลงจะมีการทำงานคล้ายกับรูปแบบเดิม แต่ในแนวนอนรูปแบบการใช้งานจะเปลี่ยนไป กล่าวคือ จะเปลี่ยนรูปแบบแสดงผลจากปกอัลบั้มขนาดใหญ่ให้เหลือเป็นขนาดเล็กและจัดเลย์เอาท์เป็นตารางหมากรุกแทน โดยถ้าผู้ใช้อยากฟังเพลงจากอัลบั้มไหน ก็สามารถกดที่ปกอัลบั้มนั้นได้
อีกทั้งในเรื่องของระบบการทำงานก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้สามารถฟังเพลงที่ซื้อมาอย่างถูกลิขสิทธิ์จากไอจูนแบบสตรีมมิ่งออนไลน์ผ่านระบบ iCloud โดยไม่ต้องกดดาวน์โหลดออกมาให้เปลืองพื้นที่โทรศัพท์
AppStore ในส่วนแอปสโตร์สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามานอกจากหน้าตาที่ปรับเปลี่ยนไปตาม iOS 7 แล้วก็คือออปชัน Near Me ที่เป็นออปชันรวมแอปฯ ยอดนิยมตามแต่ละพื้นที่ (จากพิกัด GPS) ที่เดินทางไป
เท่ากับว่าในอนาคตออปชัน Near Me ในแอปสโตร์จะช่วยให้ผู้ใช้ที่เดินทางไปต่างประเทศสามารถค้นหาแอปฯ ช่วยเหลือในการเดินทางของแต่ละประเทศได้ง่ายขึ้นกว่า Search ด้วยตัวเอง เพราะ Near Me จะเลือกเฉพาะแอปฯ ที่มี Rating โหวตสูงๆ มานำเสนอผู้ใช้เท่านั้น
นอกจากนั้น AppStore ตัวใหม่สามารถอัปเดตแอปฯ แบบอัตโนมัติได้ด้วย
New Compass เข็มทิศดิจิตอลเหมือนเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ iOS มองข้ามและแอปเปิลไม่เคยอัปเดตออปชันเพิ่มเติมให้เข็มทิศดิจิตอลมานานมาก แต่ใน iOS 7 Beta 1 แอปเปิลได้เพิ่มออปชันใหม่ให้เข็มทิศดิจิตอลเข้าไป 1 ออปชันก็คือ ระบบตรวจวัดความลาดเอียงของพื้น
ซึ่งรูปแบบการใช้งานจะเป็นวงกลมสีขาว 2 วงพร้อมองศาความลาดเอียงอยู่ตรงกลาง โดยวิธีใช้ก็เพียงนำไอโฟนไปวางที่วัตถุที่ต้องการวัดความลาดเอียง ถ้าวัตถุอยู่ในแนวระนาบตรงไม่ลาดเอียง วงกลมทั้ง 2 จะซ้อนกันและสีพื้นหลังจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว
Safari ซาฟารีใน iOS 7 Beta 1 ถูกปรับปรุงด้านหน้าตาเน้นการแสดงผลแบบเต็มจอทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยส่วนของ Address Bar และเมนูด้านล่าง จะถูกซ่อนเมื่อผู้ใช้ทำการเลื่อนหน้าเพจขึ้นไป และจะปรากฏอีกครั้งเมื่อผู้ใช้เลื่อนหน้าเพจลงมา
นอกจากนั้นในส่วนของแท็บก็ถูกปรับให้แสดงผลในรูปแบบ 3 มิติ และไม่จำกัดจำนวนแท็บเหมือนในไอโอเอสรุ่นเก่า รวมถึงช่อง Search จะถูกรวมไว้กับ Address Bar เหมือน Google Chrome และ Firefox แล้ว
Siri ในส่วนของสิริทางแอปเปิลได้มีการปรับเสียงพูดสิริใหม่ให้เป็นธรรมชาติ เหมือนมนุษย์มากยิ่งขึ้น (แต่ใน Beta 1 ยังเป็นเสียงเดิมอยู่) พร้อมหน้ากราฟิกใหม่กับเส้นเสียงที่ขยับตามเสียงพูดที่เราสั่งสิริออกไป รวมไปถึงความสามารถในการแก้ไขคำสั่ง (Tap to edit) ได้เองด้วยการพิมพ์ ถ้าสิริฟังคำสั่งเสียงของเราผิดหรือเพี้ยนออกไป
คลิปวิดีโอโชว์หน้า UI แบบใหม่ใน iOS 7
All-New User Interface Animation เรื่องสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้ และเป็นเรื่องสุดท้ายที่ผู้สนใจ iOS 7 ต้องรับชมอย่างไม่ควรหลีกเลี่ยง เพราะนี่คือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้ iOS มีความน่าสนใจมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Dynamic Wallpaper ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเมื่อผู้ใช้เอียงตัวเครื่องภาพพื้นหลังจะเคลื่อนไหวตาม หรือแม้แต่เอฟเฟ็กต์ในหน้าโฮมสกรีนที่เปลี่ยนไปอย่างหรูหราดังคลิปวิดีโอด้านบน
นอกจากนั้นยังสามารถใช้ภาพพาโนรามามาตั้งเป็นภาพพื้นหลัง และสามารถหมุน เอียงเครื่องเพื่อให้ภาพไหลจากซ้ายมาขวา ขวามาซ้ายสำหรับรับชมภาพมุมกว้างได้ทั้งหมด
วิจารณ์หลังทดลองใช้งาน
เนื่องจาก iOS 7 ตัวที่ทีมงานได้รับมาทดสอบเป็น Beta 1 สำหรับนักพัฒนาที่ยังไม่สมบูรณ์นัก ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรีที่สูบเป็นเครื่องปั้มน้ำหรือแม้แต่ตัวเครื่องที่ร้อนระอุตลอดเวลาเมื่อเปิดหน้าจอใช้งาน ปัญหาเหล่านี้ทีมงานคงไม่ขอวิจารณ์เพราะเข้าใจอยู่แล้วว่า Beta คือเวอร์ชันทดสอบ
แต่สิ่งหนึ่งที่ทีมงานได้สัมผัสและรู้สึกได้ตลอด 1 วันเต็มที่ได้ทดลองใช้งาน iOS 7 (Beta 1) ก็คือเรื่องการใช้งานและรูปแบบมินิมัลลิสต์ที่ยอมรับว่าแอปเปิลกล้าที่จะเปลี่ยน ถึงแม้จะไม่ใช่การปรับเปลี่ยนที่แปลกใหม่ แหวกแนวนัก แต่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เติมเต็มจุดด้อยของ iOS ไปเกือบทั้งหมด
อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเรื่องประสบการณ์การใช้งาน ใน iOS 7 Beta 1 ทีมงานรู้สึกว่าเลย์เอาท์ UI ใหม่ค่อนข้างจะตอบสนองต่อการใช้งานมือเดียวได้ดีกว่า iOS เวอร์ชันก่อนๆ โดยเฉพาะ Multitasking แบบใหม่ที่ขอการันตีว่าใช้มือเดียวสามารถเปิด ปิด สลับแอปฯ ได้สะดวกกว่าเดิมมาก
และมีเรื่องที่น่าเสียดายเหลือเกินที่เวอร์ชัน Beta 1 ไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ถอดด้ามอย่าง iCloud Keychain หรือฟีเจอร์ที่ช่วยผู้ใช้จดจำและจัดการรหัสผ่าน รหัสบัตรเครดิตผ่านระบบ iCloud และใช้งานร่วมกับ OS X Mavericks ได้ ซึ่งใน Settings บน iOS 7 Beta 1 มีตัวเลือกดังกล่าวอยู่ (แถมในตัวเลือกยังสามารถตั้งรหัสรักษาความปลอดภัยตอนเรียกใช้ Keychain ได้ด้วย) แต่เมื่อจะทดลองใช้งานจริงผ่านซาฟารีก็ไม่สามารถใช้งานได้ จึงขอติดผู้อ่านไว้ก่อนครับ
นอกจากนั้นในส่วนระบบและส่วนประกอบอื่นๆ ทีมงานยังไม่ขอวิจารณ์ เพราะข้อผิดพลาดที่พบเห็นตลอดการทดสอบยังมากอยู่ รอให้ตัวเต็มปล่อยให้ดาวน์โหลดก่อนแล้ววันนั้นเราจะกลับมาวิจารณ์อีกครั้ง
**ไอโฟน 5 ขึ้นไป กับไอพอด ทัช เจน 5 ขึ้นไป จะสามารถใช้ฟีเจอร์บน iOS 7 ได้ครบทุกฟีเจอร์ ส่วนไอโฟน 4, 4S iPad 2, iPad Mini, iPad Gen 3, iPad Gen 4 จะใช้งานได้บางฟีเจอร์เท่านั้น
Company Related Link :
Apple iOS
CyberBiz Social