xs
xsm
sm
md
lg

Review: Samsung Galaxy Grand Duos / Galaxy S III Mini จะเลือกมือถือจอใหญ่ หรือมือถือจอเล็ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แสงไฟอินดอร์ -Grand Duos


ขึ้นชื่อว่า ซัมซุง เป็นที่รู้กันว่านี่คือเจ้าพ่อของการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นเล็ก รุ่นกลาง หรือกระทั่งรุ่นใหญ่ ซึ่งล่าสุดซัมซุงได้ดำเนินการตามแนวทางที่ตัวเองถนัดด้วยการนำผลิตภัณฑ์ตัวท็อปอย่าง Galaxy S III เป็นตัวตั้งต้น แล้วคลอดสมาร์ทโฟนที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกัน ต่างกันเพียงแค่ขนาดเครื่องเท่านั้น ภายใต้ชื่อรุ่น Galaxy Grand Duos และ Galaxy S III Mini

โดยทั้ง 2 รุ่น ซัมซุง ต้องเป้าที่จะจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมือถือหน้าตาแบบ S III แต่ใส่รายละเอียดตรงที่ให้รุ่น Grand เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่ตลาดกำลังต้องการ กับ S III Mini ที่ย่อส่วนลงมา เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ไม่อยากใช้มือถือจอใหญ่

รอบตัวเครื่องพร้อมสเปก





ด้านหน้า - ขนาดหน้าจอเครื่อง 5 นิ้ว มุมขวาจะมีคำว่า Duos เพื่อบ่งบอกว่า นี่คือสมาร์ทโฟน 2 ซิม ด้านล่างมีปุ่ม Capacitive ขนาบข้างปุ่ม Home โดยทางซ้ายเป็นปุ่ม menu ส่วนทางขวาเป็นปุ่ม Back ซึ่งว่ากันตามตรงแล้ว มันค่อนข้างผิดธรรมชาติอยู่ ปุ่ม Back ควรที่จะอยู่ซ้ายสุดมากกว่า



ด้านซ้าย - ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง



ด้านขวา - ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง



ด้านบน - แจ็คหูฟังขนาดมาตรฐาน



ด้านล่าง - พอร์ทไมโครยูเอสบี



ด้านหลัง - ด้านหลังกล้อง 8 ล้านพิกเซล มีแฟลช และลำโพง



แง่ของสเปก Grand Duos มาพร้อมขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด 480x800 พิกเซล ชิปประมวลผลเป็นดูอัลคอร์ 1.2GHz หน่วยความจำสำรอง 1GB หน่วยความจำเครื่อง 8GB แบตเตอรี 2100 mAh และใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1.2



ข้ามมาดู Galaxy S III Mini กันบ้าง ตัวเครื่องถือว่าเล็กสมชื่อ พกพาง่าย แต่ความสามารถโดยรวม Galaxy S III คงต้องบอกว่า ไม่เล็กนะครับ เพียบพร้อมไปด้วยฟีเจอร์จาก S III ผู้พี่ ทั้ง Smart Stay, Pop Up Play ขาดแต่เพียง Multi Window





ด้านหน้า - ขนาดหน้าจอจะหดเหลือ 4 นิ้ว กล้องหน้าจะอยู่ด้านซ้าย (ความละเอียด VGA) พร้อมเซ็นเซอร์ ด้านล่างทางซ้ายเป็นปุ่ม Menu ขวาเป็นปุ่ม Back ตรงกลางเป็นปุ่ม Home



ด้านซ้าย - ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง



ด้านขวา - ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง



ด้านบน - แจ็คหูฟัง ข้างๆ จะเป็นช่องสำหรับแกะฝาหลัง



ด้านล่าง - พอร์ทไมโครยูเอสบี





ด้านหลัง - เป็นกล้อง 5 ล้านพิกเซล มีแฟลชอยู่ด้านล่าง ทางซ้ายเป็นลำโพง



ด้านสเปกเครื่อง Galaxy S III Mini มาพร้อมขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ความละเอียด 480x800 พิกเซล หน่วยความจำภายใน 8GB หน่วยความจำสำรอง 1GB ชิปประมวลผลเป็นดูอัลคอร์ (NovaThor) 1GHz แบตเตอรี 1500 mAh และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1.2 (คาดว่าคงอัปเกรดเป็น Jelly Bean 4.2 ไม่ได้)

สังเกตให้ดี แม้ว่าความละเอียดหน้าจอ ระหว่าง Grand Duos และ S III Mini จะเท่ากัน แต่ถ้าดูตามความละเอียดนิ้วต่อพิกเซล แล้วลองดูที่หน้าจอของทั้ง 2 รุ่นจะพบว่า S III Mini จะคมชัดกว่านิดหน่อย (S III Mini 233ppi Grand Duos 187ppi)

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ



อย่างที่เกริ่นเอาไว้ข้างต้น Galaxy Grand และ S III Mini ถือกำเนิดภายใต้คอนเซปต์ของสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปอย่าง Galaxy S III และเพื่อให้ Grand Duos และ S III Mini ขายได้ง่าย จึงมีการนำฟีเจอร์ของ Galaxy S III ใส่เข้ามาเต็มสตรีม ทั้ง Multi-Window, Pop Up Play และ Smart Stay



เพียงแต่ว่า S III Mini จะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ Multi Window ได้เนื่องจากขนาดหน้าจอมีขนาดที่เล็ก

ส่วน Pop Up Play และ Smart Stay ใช้ได้ทั้ง 2 รุ่น



นอกเหนือจากนี้ ซัมซุงลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ใช้หน้าใหม่ ที่ไม่เคยใช้แอนดรอยด์มาก่อน ด้วยการใส่ Home Screen Mode เลือกว่าจะเป็นแบบ Easy Mode หรือจะเป็นแบบ Basic Mode เพื่อให้ผู้ใช้หน้าใหม่ สามารถเข้าใจหลักการ และวิธีการใช้ตัวเครื่องได้ง่าย และสะดวกขึ้น



หน้า App Drawer ไม่มีอะไรมาก มีแท็บให้่เลือกใช้งานอยู่หลักๆ 3 แท็บ ประกอบไปด้วย Apps ที่รวมแอปพลิเคชันทั้งหมด วิดเจ็ท ส่วนด้านขวาสุดที่มีลูกศรปักหัวลงนั้น เป็นแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดมา และหากกดเมนูก็จะมีให้ปรับแต่งตั้งค่าตามสะดวก



ด้านการฟังเพลง เสียงที่ฟังผ่านทั้ง 2 รุ่น ถือว่าโอเคในระดับหนึ่งเลยทีเดียว จุดนี้ซัมซุงค่อนข้างเอาใจใส่ดีพอควร ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางๆ แต่ยังแถม Equalizer ปรับแต่งเสียงเพลงให้ ถือว่าดี และเมื่อฟังผ่านหูฟัง จะมีหน้าวิดเจ็ทโผล่ขึ้นมาในหน้าโฮมสกรีน







การถ่ายภาพ Galaxy Grand ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว โอเคล่ะว่า คงไม่อาจเทียบกับ S III หรือ Galaxy Note ได้







ส่วน S III Mini จะดรอปกว่า Grand Duos อยู่สักหน่อย



ด้านการใช้งาน 2 ซิม เท่าที่ได้สัมผัสมา ถือว่าใช้งานได้ง่าย เมื่อผู้ใช้ใส่ซิมทั้ง 2 ซิมสู่สล็อต เมื่อเปิดเครื่องใต้แถบ notification จะมีให้ผู้ใช้เลือกได้เลยว่า จะใช้งานซิมใดเป็นซิมหลัก ขณะเดียวกันเมื่อเข้าสู่ SIM Manager ก็จะมีให้ตั้งค่าว่า ต้องการให้ซิมใดสำหรับใช้ดาต้า แล้วซิมใดใช้งานในแง่ของวอยซ์ ซึ่งต้องขอย้ำอีกครั้งว่า รุ่น 2 ซิม มีเฉพาะในรุ่น Grand Duos



นอกจากนี้ Grand Duos และ S III Mini ยังมีข้อแตกต่างอีกเล็กน้อย นั่นก็คือ S III Mini จะไม่มีระบบ Auto Brightness ดังนั้นผู้ใช้จะต้องปรับแสงด้วยตัวเอง

ต่อไปจะเป็นการทดสอบผ่าน Benchmark สังเกตจะพบได้ว่า Grand Duos ดูจะแรงกว่า



Grand Duos

Quadrant Benchmark - 3921
AnTuTu - 6438
Vellamo - HTML5 1529, Metal 413



Galaxy S III Mini

Quadrant Benchmark - 2449
AnTuTu - 5923
Vellamo - HTML5 1238, Metal 264

จุดเด่น

- หน้าตาดีเหมือน Galaxy S III 1 ใน 2 สมาร์ทโฟนตัวท็อปของซัมซุงยามนี้

- ใช้ฟีเจอร์ของ S III รุ่นท็อปได้อย่างแนบเนียน

- ราคาเครื่องไม่แพง

- Galaxy Grand น่าจะโดนใจผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้งาน 2 ซิมอยู่แล้ว

- ออกมาให้ผู้บริโภคเป็นฝ่ายเลือกว่า อยากจะได้มือถือจอใหญ่ หรือมือถือจอเล็ก

ข้อสังเกต

- วัสดุประกอบงานธรรมดา

- ดีไซน์ซ้ำซาก จำเจ ไม่มีจุดเด่นของตัวเอง

- อย่าคาดหวังเรื่องของสเปก เนื่องจากว่า ทั้ง Grand Duos และ S III Mini ล้วนถูกดรอปสเปกลงมาทั้งคู่

- โมเดลหน้าตาแบบ S III นี้ จะตกรุ่นทันทีที่ซัมซุงส่ง Galaxy S IV ลงสู่ตลาด

ฟันธง! ความคุ้มค่าและเม็ดเงินที่เสียไป

การวางจำหน่าย Galaxy S III Mini และ Grand Duos ของซัมซุงในยามนี้ ถือเป็นการทำตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากว่า ตอนนี้กลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน เริ่มถูกแบ่งแตกแขนงออกไปเป็นหลายประเภท ดังเช่น กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ๆ และกลุ่มที่รักใคร่จะใช้สมาร์ทโฟนจอเล็ก

จากที่กล่าวมาทั้งหมดซัมซุงกำลังกุมความได้เปรียบตรงนั้นอย่างหมดจด สิ่งนี้เป็นการบอกผู้บริโภคตรงๆ เลยว่า ถ้าคุณอยากได้สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ หนา ล่ำ สามารถใช้งานระบบ 2 ซิมได้ แถมท้ายด้วยฟีเจอร์แบบ Galaxy S III การเลือก Grand Duos ดูจะเป็นคำตอบที่น่าสนใจ

ในขณะเดียวกัน ถ้าไม่ชอบ Grand Duos ตรงที่ว่าหน้าจอมันใหญ่ไป ผู้บริโภคก็จะมีตัวเลือกอย่าง S III Mini ที่หน้าจอกะทัดรัด เบา ที่สำคัญหน้าตาก็ยังเหมือน S III รุ่นท็อป เหมือนอย่างที่ Grand Duos เป็น

เรียกง่ายๆ ว่า ปล่อยให้ผู้บริโภคตัดสินใจไปเองเลยว่า อยากได้แบบไหน

อย่างไรก็ตามถ้าลองวิเคราะห์มองดูดีๆ แล้ว Galaxy Duos Grand อาจจะดูคุ้มค่ากว่า เพราะด้วยราคาค่าตัวเครื่อง ที่แตกต่างกันเพียงแค่ 1 พันบาท (Grand Duos- 11,900 บาท ส่วน S III Mini 10,900 บาท) แต่ Grand Duos หน้าจอใหญ่กว่า และใช้ฟีเจอร์ Multi Window ได้ ซึ่ง S III Mini ทำไม่ได้ ส่วนที่ S III Mini ได้เปรียบเห็นทีจะเป็นเรื่องความละเอียดของหน้าจอ

ถึงแม้ว่าทั้ง 2 รุ่น จะน่าสนใจเพียงใด แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เรื่องของการอัปเกรดโอเอส โดยปกติแล้ว ถ้าเป็นรุ่นไฮเอนด์แน่นอนว่าได้ชัวร์

แต่ถ้าเป็นรุ่นกลางๆ ค่อนล่างแบบ Grand Duos และ S III Mini โอกาสที่จะได้รับสิทธิ์ดังกล่าว มีน้อยมาก หรือจะเรียกว่าซื้ออะไรก็ใช้ได้ตามที่ซื้อเท่านั้น

ตัวเลือกอื่นในท้องตลาด

LG Optimus L9

Sony Xperia SL

Sharp SH837W

Motorola RAZR Maxx

CyberBiz Social



Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket
(ภาพจาก Grand Duos)


แสงปกติ -Grand Duos
กล้องหน้าผ่าน Grand Duous
แสงไฟในบ้าน -S III Mini


แสงปกติกลางวัน -S III Mini
กำลังโหลดความคิดเห็น