xs
xsm
sm
md
lg

Review : Samsung NX1000 มิเรอร์เลส APS-C น้ำหนักเบา มี WiFi

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ซัมซุงถือเป็นแบรนด์ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีที่ออกโปรดักส์มาได้ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ไล่ตั้งแต่ไมโครเวฟยันไปสมาร์ทโฟน รวมถึงกลุ่มกล้องดิจิตอลที่ปัจจุบันกำลังรุกตลาดอย่างหนักด้วยการคลอดนวัตกรรมล้ำๆ ออกมามากมาย อย่างในวันนี้ทีมงานไซเบอร์บิซก็ได่รับกล้องมิเรอร์เลสจากซัมซุงในรุ่น NX1000 มาทดสอบประสิทธิภาพอีกครั้ง หลังจากเคยทดสอบรุ่น NX100 ไปแล้วเมื่อเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน Review : SAMSUNG NX100 กล้อง Mirrorless ใช้งานคล่องตัว

การออกแบบ Samsung NX1000




ซัมซุง NX1000 ที่ทีมงานได้รับมาทดสอบจะเป็นสีชมพู (สีทั้งหมดตอนวางขายมี ชมพู ดำและขาว) โดยสเปกหลักๆ ยังคงความเป็นกล้องไร้กระจกสะท้อนเซนเซอร์ใหญ่เท่า DSLR แบบเดิม คือใช้เซ็นเซอร์ APS-C CMOS (ขนาดเซ็นเซอร์ 23.5 x 15.7มม.) ที่อัปเดตความละเอียดมาอยู่ที่ 20.3 ล้านพิกเซล



สำหรับบอดี้จะเป็นพลาสติกตามแนวคิดของซัมซุงที่ต้องการให้กล้องมีน้ำหนักเบา (น้ำหนักอยู่ที่ 222 กรัม) และเลนส์ที่แถมมากับชุดที่ผมได้มาทดสอบคือ iFunction Kit Lens 20-50 f3.5-5.6 มีระบบล็อคเลนส์เมื่อไม่ใช้งาน แต่เลนส์ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว



ในส่วนจอแสดงผลจะเป็นจอ TFT-LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 614k ด้านข้างเป็นบรรดาปุ่มปรับตั้งค่าและใช้งานต่างๆ ไล่ตั้งแต่ปุ่มเข้าหน้า Menu ปุ่ม Function ปุ่มบันทึกวิดีโอ (วงกลมตรงกลางสีแดง) วงล้อหมุนเพื่อปรับการตั้งค่ากล้องและสามารถกดสั่งเปิดและตั้งค่าระบบกล้องเพิ่มเติมได้ เช่น กดขวาปรับระบบโฟกัส กดซ้ายตั้งเวลาถ่ายและเลือกโหมดถ่ายภาพ กดลงชดเชยแสง กดบนปรับรายละเอียด Display



แฟลชที่ให้มารหัส SEF8A จะเสียบใช้งานได้บน Hot Shoe ด้านบนกล้องได้ โดยแฟลชจะรองรับระบบ Smart Flash, Auto, Auto+Red-eye reduction, Fill-in, Fill-in+Red-eye reduction, 1st Curtain, 2nd Curtain



ด้านบนของตัวกล้องจะเป็นวงล้อปรับโหมดถ่ายภาพ (SmartAuto 2.0, Program, Aperture Priority, Shutter Priority, Manual, Lens Priority, Magic, Scene, Movie) รวมถึงเป็นส่วนของสวิตซ์ปิด-เปิดกล้องที่ใช้เทคนิคเกี่ยวสวิตซ์ซ้าย-ขวา เพื่อช่วยให้การใช้กล้องมือเดียวทำได้สะดวกขึ้น และสุดท้ายก็คือปุ่ม Smart Link ที่สามารถกดเพื่อเปิดใช้งานโหมด WiFi ได้




มาที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของช่องเชื่อมต่อได้แก่ พอร์ต MicroUSB และ MicroHDMI 1.4a ส่วนแบตเตอรีของเครื่องและช่องใส่การ์ดความจำจะอยู่ด้านล่าง (รองรับการ์ด SD, SDHC, SDXC ขนาดสูงสุด 128GB) โดยแบตเตอรีจะมีขนาด 1,030mAh (ถ่ายได้ประมาณ 320 ภาพ บันทึกวิดีโอได้ประมาณ 160 นาที)

สเปก

สำหรับสเปกของกล้อง Samsung NX1000 ด้านไฟล์ภาพจะรองรับความละเอียดสูงสุด 20.3 ล้านพิกเซล อัตราส่วนภาพ 3:2 รองรับรูปแบบไฟล์ RAW (SRW) และ JPEG สามารถเลือกคุณภาพไฟล์ ได้ตั้งแต่ Super Fine, Fine และ Normal ส่วนการบันทึกวิดีโอรองรับไฟล์ H.264 (MP4) 1,920x1,080 พิกเซล 30 เฟรมต่อวินาที เสียงสเตอริโอ


RAW File จะมีขนาดประมาณ 33MB ส่วน JPEG จะอยู่ที่ 7.34MB



ในส่วนความเร็วชัตเตอร์สูงสุดอยู่ที่ 1/4,000 วินาที ระบบโฟกัสเป็น คอนทราสต์ AF สามารถโฟกัสแบบต่อเนื่อง (Continuous) แมนวล โฟกัส และ Single AF มีไฟช่วยหาออโต้โฟกัสในที่แสงน้อย และค่าความไวแสง (ISO) เริ่มตั้งแต่ 100, 200, 400, 800, 1600, 3200, 6400, 12800





มาที่ปุ่ม iFunction (iFn) บนเลนส์กล้องจะทำหน้าที่ช่วยให้การตั้งค่ากล้องทำได้รวดเร็วขึ้น อย่างเช่นเมื่ออยู่ในโหมดถ่ายภาพ Lens Priority เมื่อกดปุ่ม iFn วงแหวนโฟกัสจะสามารถปรับเอ็ฟเฟ็กต์ภาพหรือใช้แทนคำสั่งปรับแต่งภาพได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดการเข้าหน้าเมนูที่ซับซ้อนลงได้



สุดท้ายตามธรรมเนียมของกล้องซัมซุงก็คือต้องให้โหมดเอ็ฟเฟ็กต์ภาพถ่ายและ Smart Filter มาเช่นเดิม โดยผู้ใช้สามารถเลือกเข้าใช้โหมดต่างๆ ได้จากปุ่ม iFn หรือเข้าผ่าน Menu และเอ็ฟเฟ็กต์ที่ให้มาก็มีตั้งแต่ Miniature, Soft Focus, Old Film รวมไปถึงฟีเจอร์ย่อรูป หมุนรูป รีทัช ใส่ขอบดำ ใส่กรอบภาพ (เหมือนตัวอย่างข้างบน) เป็นต้น

รายละเอียดเพิ่มเติม



สองภาพบน: หน้า Display ที่แสดงบริเวณจอ LCD ด้านหลังกล้อง โดยภาพแรกคือ หน้า Display สแตนบายตอนถ่ายภาพนิ่ง ส่วนภาพที่สองคือหน้า Display สแตนบายในโหมดบันทึกวิดีโอ จะเห็นว่าโหมดถ่ายวิดีโอใน NX1000 สามารถถ่ายแบบ Full Manual ได้


นอกจากนั้นระบบยังให้ตัววัดระดับความลาดเอียงมาให้ด้วย


หน้าโชว์ Thumbnail ภาพตัวอย่างสามารถปรับมุมมองได้


ระยะเลนส์ 20-50 ที่ให้มากับชุด NX1000 ที่ทีมงานทดสอบ

จุดขาย



อย่างที่ทราบกันดีครับว่า NX1000 เป็นสมาร์ทมิเรอร์เลสคาเมร่าไปแล้ว เพราะฉะนั้นฟีเจอร์เด่นสุดคงหนีไม่พ้น Smart Link ที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อกล้องกับ WiFi เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายรวมถึง WiFi Direct/DLNA กับสมาร์ทโฟน ทำได้ง่ายขึ้นมาก



โดยวิธีเข้าใช้งานก็เพียงหมุนวงแหวนด้านบนกล้องเป็นโหมด WiFi จากนั้นจะพบหน้าจอให้เลือกรูปแบบการใช้งานไล่ตั้งแต่ MobileLink และ Remote Viewfinder จะใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ในขื่อเดียวกันจากสโตร์ทั้ง App Store และ Google Play Store มาใช้งานได้ทันที



สำหรับวิธีการเชื่อมต่อเมื่อเข้าไปที่ MobileLink หรือ Remote Viewfinder กล้องจะทำการปล่อยสัญญาณ WiFi ออกจากตัวกล้อง ผู้ใช้ก็เพียงเข้าไปในส่วน WiFi Networks ของแต่ละดีไวซ์จากนั้นก็เลือกเชื่อมต่อกับกล้อง ตามรูปประกอบด้านบนจะเห็นว่ากล้องจะปล่อย WiFi ที่มีชื่อ SSID ว่า NX1000-ED:14:E0 กดเชื่อมต่อได้้ทันที


MobileLink คือ ซอฟต์แวร์สำหรับการคัดลอกรูปจากกล้องไปสู่สมาร์ทโฟนได้โดยตรงผ่านระบบ WiFi Direct


Remote Viewfinder คือ ซอฟต์แวร์สำหรับแปลงสมาร์ทโฟนให้เป็นช่องมองภาพ EVF ผ่านระบบ WiFi Direct เช่นกัน โดยในซอฟต์แวร์ดังกล่าว ผู้ใช้สามารถกดชัตเตอร์ เลือกขนาดรูปถ่าย เปิด-ปิดไฟแฟลช และตั้งหน่วงเวลาถ่ายได้ อีกทั้งเมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้วยังสามารถจัดเก็บลงในหน่วยความจำของสมาร์ทโฟนได้ทันที


Social Sharing คือ ซอฟต์แวร์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ WiFi Internet ได้ โดยภายในจะรวมเครือข่ายสังคมยอดฮิตอย่าง Facebook, Youtube, Picasa และ Photobucket เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำรูปจากกล้องแชร์ไปยังเครือข่ายสังคมเหล่านั้นได้ทันที แถมยังรองรับการส่งอีเมล์ และในตัวกล้องยังมีซอฟต์แวร์ PC Backup สำหรับใช้สำรองไฟล์เก็บไว้ในพีซีด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพ

ก่อนจะไปรับชมส่วนทดสอบประสิทธิภาพ ผม @dorapenguin ในฐานะของผู้ทดสอบขอวิจารณ์การใช้งานเล็กน้อย (ไม่ลงเรื่องรายละเอียดไฟล์ภาพเพราะอยู่ในส่วนต่อไป) ระหว่างที่ผมทดสอบตลอดทั้งวันยอมรับอย่างหนึ่งว่าการออกแบบของ NX1000 ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะน้ำหนักที่เบาและกริปที่จับถือถนัดมือจนแทบจะลืมสายคล้องคอไปเลย อีกทั้งเรื่องระบบ Smart Link ที่ช่วยให้การแชร์ภาพทำได้สะดวกสบายแม้ผมจะใช้ไอโฟนโอนก็ไม่มีปัญหา

แต่ใช่ว่า NX1000 จะดีทั้งหมด ในแง่ของปัญหาที่พบก็ค่อนข้างจุกจิกและเป็นเหมือนความผิดพลาดของระบบที่ไม่น่าเกิด ไล่ตั้งแต่อาการกล้องค้างที่อาจเกิดขึ้นเป็นระยะ และอาการค้างบางครั้งเกิดในช่วงเลื่อนสวิตซ์ปิดเครื่อง รวมถึงการประมวลผลไฟล์ภาพที่ช้า ทำให้ผมพลาดโอกาสถ่ายภาพที่ต้องอาศัยความเร็วไปหลายภาพเหมือนกัน



ส่วนต่อไปก็คือหน้าจอลอกเมื่อโดนเหงื่อ ซึ่งถือสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นอย่างมาก และไม่ทราบว่าปัญหาเกิดจากขบวนการผลิตหรืออย่างไร ในครั้งแรกที่เกิดปัญหานี้ผมตกใจและพยายามไปค้นหาเพื่อนที่ใช้ NX1000 เหมือนกัน ก็พบว่า ปัญหาหน้าจอลอกคนอื่นก็เป็นเช่นกัน



สุดท้ายเรื่องบั๊กแชร์ภาพขึ้นเฟสบุ๊กที่เกิดอาการเหมือนในภาพด้านบน ซึ่งผมทดสอบอยู่หลายครั้ง พบว่า ปัญหานี้จะเป็นๆ หายๆ ไม่แน่นอน ก็คงต้องฝากทางซัมซุงตรวจสอบอีกครั้งครับ

นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกเล่าถึงประสบการณ์การใช้กล้อง Samsung NX1000 ตลอดหนึ่งอาทิตย์ให้ฟังแบบตรงไปตรงมาครับ เชื่อไม่เชื่ออย่างไร พิจารณาเองและไปชมส่วนของการวิจารณ์การถ่ายภาพกับ NX1000 กันต่อเลย

สามารถคลิกที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ โดย เมื่อภาพปรากฏในหน้าของ flickr ให้คลิกขวาที่ภาพและเลือกขนาดที่ต้องการรับชม

ISOTest-NX1000

ถึงแม้ด้านการใช้งานและความรู้สึกที่ได้จะไม่ค่อยถูกใจเท่าใด แต่ในเรื่องคุณภาพไฟล์ผมยอมรับว่าด้วยความใหญ่ของ APS-C Sensor นอกจากช่วยเรื่องมิติของภาพแล้ว ในส่วนสัญญาณรบกวนหรือ Noise ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน ISO 1,600 ภาพที่ได้ยังเนียนใช้ได้ ในขณะที่ ISO ตั้งแต่ 3,200 อยู่ระดับกลาง และ ISO 6,400-12,800 คงเป็นช่วงค่าความไวแสงที่มีติดไว้เผื่อฉุกเฉินแบบไม่ต้องหวังผลอะไร

SAM_7013
100details01

วันที่ออกไปทดสอบ NX1000 เป็นวันที่อากาศไม่ดี ฟ้าไม่เปิด แต่เราก็พยายามจะดันค่ารูรับแสงให้แคบๆ เพื่อทดสอบความคมชัดทุกระยะ โดยภาพนี้ตั้ง f7.1 ISO100 ความเร็วชัตเตอร์ 1/250 เมื่อซูม 100% ดูรายละเอียดพบว่าคุณภาพพอใช้

SAM_7031
100details03

ถัดมาผมพยายามปรับรูรับแสงให้แคบลงอีกคือ f13 และโชคดีที่ฟ้าเปิดเล็กน้อย จึงสามารถเก็บภาพนี้ได้ที่ค่า ISO 200 ความเร็วชัตเตอร์ 1/80 แต่เมื่อซูมดูรายละเอียด 100% พบว่าภาพไม่คมเท่าใดนัก แต่ถ้ามองแบบภาพรวมก็ถือว่าภาพคมชัดพอสมควร

ส่วนสีสันและความเที่ยงตรงจากจอด้านหลังกล้องรุ่นนี้ถือว่าใช้ได้ ไม่ละเอียดเท่าใดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และให้สีสันติดอมฟ้า เย็นๆ เล็ก

SAM_7020
ISO800100details02

ลองดัน ISO ไปที่ 800 ด้วยสภาพแสงที่น้อยลงกว่า 2 ภาพแรก ในส่วนของสัญญาณรบกวน เมื่อซูม 100% พบว่า Noise ไม่มากนัก แต่ถือว่ายังไม่เนียนเท่าใด ส่วนความคมชัดถือว่าใช่ได้

100details04
SAM_5049

สุดท้ายก่อนไปการทดสอบต่อไป ขอจบที่สภาพแสงปกติที่ค่า ISO100 f8 ความเร็วชัตเตอร์ 1/250 วินาที พบว่าภาพที่ได้คมชัดทั้งมุมมองโดยรวมและภาพแบบซูม 100% แถมมิติภาพที่ได้จากเซนเซอร์ APS-C ก็ช่วยให้ภาพดูเด่นขึ้นมาก

SAM_5065
SAM_5083
SAM_5095
SAM_7038

ขยับมาที่การถ่ายมาโครด้วยโหมดสำเร็จรูปแบบอัตโนมัติ พบว่าในด้านมิติภาพถือว่าสอบผ่าน สีสันที่ได้รู้สึกว่า NX1000 จะรีดเค้นสีได้ดีเป็นธรรมชาติ แต่อาจจะติดอันเดอร์เล็กน้อย เพราะว่าหน้าจอ LCD ด้านหลังให้ภาพที่สว่างเกินจริงไปนิด ผมเลยต้องมาเพิ่มความสว่างในซอฟต์แวร์ SAMSUNG RAW Converter ก่อนนำภาพมาให้ชมกัน

SAM_5063

ภาพนี้ผมตั้งใจจะทดสอบเรื่องระบบออโต้โฟกัสและความเร็วของชัตเตอร์พบว่า ออโต้โฟกัสจับวัตถุได้แม่นยำดีแต่อาจช้าเล็กน้อย และเลนส์ Kit 20-50 ที่ให้มาโฟกัสค่อนข้างเสียงดังเล็กน้อย

SAM_7023
SAM_5046
Nostalgic-Toy-Cam-Preset
SAM_7118
SAM_7120
ทดสอบใช้ Samrt Filter, Magic Frame และเอ็ฟเฟ็กต์ภาพหลากหลายรูปแบบ



สุดท้ายทดสอบการบันทึกวิดีโอ FullHD 1080p พบว่าคุณภาพวิดีโอปานกลาง ไม่คมชัดเท่าที่ควร โดยเฉพาะในที่แสงน้อยที่ระหว่างทีมงานทดสอบได้เผชิญกับระบบออโต้โฟกัสช้าและหวืดวาดตลอดเวลา จนต้องปรับเป็น Manual ซึ่งเมื่อปรับเป็นโฟกัสมือทางซัมซุงก็ได้ให้ตัวช่วยวัดระยะชัดมาด้วย โดยจะเป็นบาร์กราฟพุ่งขึ้นลง โดยถ้าโฟกัสวัตถุชัดแล้ว บาร์กราฟจะพุ่งสูงขึ้น ส่วนไหนที่หลุดโฟกัสบาร์กราฟจะต่ำ

สามารถติดตามรับชมภาพทั้งหมดได้โดย>คลิกที่นี่<

สรุปผล/บทวิจารณ์เรื่องคุณภาพ

ในส่วนของเรื่องการถ่ายภาพและคุณภาพไฟล์ส่วนนี้ต้องขอชมซัมซุงก่อนครับว่า NX1000 มีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนไปพอสมควร ทั้งเรื่องการปรับแต่ง คุณภาพไฟล์ที่ดีขึ้น Burst Shot ที่ 15-30fps ถ่ายพาโนรามาได้ รวมถึงสัญญาณรบกวนที่ค่าความไวแสงสูงมีการปรับปรุงดีขึ้น โดยเฉพาะการใส่ SmartLink มาให้พร้อมกับประสบการณ์การใช้งานผ่าน WiFi ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้มากขึ้น

และสิ่งที่ผู้ทดสอบชื่นชอบมากกับ NX1000 ก็คือบอดี้ที่ออกแบบมาได้เบาและกริปจับถนัดมือมากกว่ารุ่นก่อนและหลายแบรนด์

แต่ถึงอย่างไร NX1000 ก็ยังมีข้อสังเกตมากมาย (ในยุคที่มิเรอร์เลสกำลังผลิบาน) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพวิดีโอ 1080p ที่ไม่คมชัดแถมโฟกัสหวืดวาดมากในที่แสงน้อย และในเรื่องข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่างที่กล่าวไปข้างต้นที่สร้างความผิดหวังกับผู้ทดสอบได้พอสมควร

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?

แต่เมื่อมาดูที่ราคาเปิดตัวที่ 21,990 บาทพร้อมเลนส์ 20-50 มม. ก็ทราบได้ทันทีว่าสามารถชนกับรุ่นพี่ที่อยู่ในตลาดมิเรอร์เลสได้หลายรุ่นจนต้องยอมรับว่าซัมซุงใจถึงมากที่ตั้งราคามาแบบนี้

แน่นอนว่า NX1000 มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็น WiFi, Smart Filter, Magic Frame และลูกเล่นที่อัดแน่นมาเน้นตกแต่งภาพสนุก แถมยังแนบซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับผู้ใช้ที่อยากได้ความสะดวกสบาย พกพาสะดวกและตามเทรนด์ โดยเฉพาะผู้หญิง, วัยรุ่นหรือคนที่ชอบแชร์ภาพไปเฟสบุ๊กและไม่ได้ใส่ใจเรื่องคุณภาพเชิงลึกมากนัก NX1000 สามารถตอบสนองสิ่งเหล่านั้นได้ทั้งหมด

แถมถ้านำ NX1000 ไปใช้ร่วมกับแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนซัมซุงยิ่งทำได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดีมากขึ้น เพราะการซิงค์ภาพผ่าน WiFi จะทำได้ง่ายเพียงไม่กี่คำสั่ง

แต่สุดท้ายแล้ว ยอมรับว่านวัตกรรมของซัมซุงมาแรงเป็นที่หนึ่งในปัจจุบัน แต่เรื่องคุณภาพไฟล์ ถ้าเป็นยูสเซอร์ที่ซีเรียสเรื่องคุณภาพเพื่อนำไปใช้ต่อ เงิน 21,990 บาทสามารถมองหารุ่นอื่นที่คุ้มค่ากว่านี้ได้ในตอนนี้

Company Related Link :
Samsung

CyberBiz Social



Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket




กำลังโหลดความคิดเห็น