เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างแบรนด์โทรศัพท์ และสินค้าแฟชัน ที่จับมือกับเพื่อออกสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษ หลังเคยประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อครั้งวางจำหน่าย LG Prada ครั้งที่แล้ว มาคราวนี้แอลจีจับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มาเพิ่มมูลค้าด้วยแบรนด์ Prada พร้อมอินเตอร์เฟสเฉพาะตัวย้อนความคลาสิคให้แก่โทรศัพท์
LG Prada 3.0 จะโดดเด่นที่หน้าจอ 4.3 นิ้ว ที่แอลจีเคลมว่าให้ความสว่างที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟน ขณะเดียวกันยังมาพร้อมประสิทธิภาพระดับไฮเอนด์ อย่างหน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ กล้องความละเอียดสูงที่สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวระดับ 1080p กับดีไซน์เรียบๆแต่สวยลึก โดนใจสาว
การออกแบบและสเปก
เมื่อผูกความเป็น Prada เข้ามากับสมาร์ทโฟน ส่งผลให้ดีไซน์ของ Prada 3.0 ค่อนข้างแตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนตระกูล Optimus ของแอลจีที่ออกมาวางจำหน่ายก่อนหน้านี้ ที่สังเกตเห็นเป็นอย่างแรงคงหนีไม่ะนความบางของเครื่อง กับเครื่องที่ดูเหลี่ยมๆ เรียบๆ ถัดมาคือการเพิ่มความหรูหราด้วยโลโก้ 'Prada' ทั้งหน้า-หลัง
โดยขนาดของตัวเครื่อง LG Prada 3.0 อยู่ที่ 127.5 x 69 x 8.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 138 กรัม ใช้วัสดุหลักเป็นอะลูมิเนียมเคลือบสีเทาดำ ผสมกับพลาสติกคุณภาพสูง ในแง่ของการประกอบให้ความรู้สึกแน่นหนา
ด้านหน้า - จะมีร่องลำโพงสนทนาเล็กๆซ่อนอยู่บริเวณขอบบน ถัดลงมาเป็นแบรนด์ 'Prada' ที่มีกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง และตรวจจับใบหน้าเพื่อปิดหน้าจอขณะสนทนา
หน้าจอที่ให้มาเป็น Capacitive ขนาด 4.3 นิ้ว ที่แอลจีให้ชื่อว่า Nova Plus ให้ความสว่างของหน้าจอสูงถึง 800 nit จากเดิมในรุ่น Optimus Black ให้ความสว่างหน้าจอที่ 700 nit ล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัสไว้กดเรียกเมนู กลับหน้าแยก ย้อนกลับ และค้นหา ซึ่งในจุดนี้ถ้าไม่สัมผัสก็จะไม่มีไฟแสดงปุ่มขึ้นมาให้เห็น
ด้านหลัง - ลวดลายของฝาหลังที่อยู่ใน Prada 3.0 เป็นลายหนังแบบ Saffiano ที่มาจากกระเป๋าของ Prada ซึ่งเป็นลิขสิทธ์โดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับตัวสมาร์ทโฟน โดยมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช สํญลักษณ์ 'Prada' และแบรนด์แอลจีแบบนูนต่ำ ช่องลำโพงอยู่ในส่วนของฝาหลังด้วย
การแกะฝาหลังทำได้โดยการแงะทั้งจากด้านบนและด้านล่าง เมื่อเปิดแล้วจะพบกับแบตเตอรี li-ion ขนาด 1,540 mAh ช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ดที่รองรับได้สูงสุด 32 GB และจะสังเกตพบแถบ NFC ติดอยู่ที่บริเวณฝาหลัง ซึ่งในจุดเดียวกันนี้เป็นเสารับสัญญาณโทรศัพท์ด้วย
ด้านซ้าย - มีปุ่มปรับระดับเสียง ด้านขวา - ถูกปล่อยว่างไว้
ด้านบน - เป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง ช่องเสียบไมโครยูเอสบี สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และสายชาร์จ ซึ่งออกแบบมาให้สามารถเลื่อนปิดได้ และอีกปุ่มหนึ่งคือ ปุ่มลัดสำหรับเรียกใช้งานโหมดถ่ายภาพ ซึ่งจะเปิดกล้องหน้าขึ้นมาให้ใช้โดยอัตโนมัติ สามารถใช้เป็นปุ่มชัตเตอร์กล้องได้ด้วย ด้านล่าง - มีเพียงช่องไมโครโฟนสนทนา
ในส่วนของสเปกภายใน LG Prada 3.0 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล ดูอัลคอร์ 1 GHz ทำงานบนชิปเซ็ต OMAP4430+XMN6260 RAM 1 GB และหน่วยความจำภายใน 8 GB แบ่งส่วนเป็นที่เก็บข้อมูล และไว้ใช้เก็บแแอปพลิเคชัน ตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อไว-ไฟ 802.11 a/b/g/n บลูทูธ 3.0 ยูเอสบี สามารถเชื่อมต่อกับพอร์ต HDMI ได้ รองรับการเชื่อมต่อ 3G HSPA+ บนคลื่นความถี่ 900 / 1900 / 2100 MHz ให้อัตราดาวน์โหลดสูงสุด 21 Mbps ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.3.7
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ภายในของ LG Prada 3.0 ก็ยังมีการออกแบบอินเตอร์เฟสผู้ใช้งานใหม่ ที่สื่อให้ถึงความเรียบหรูจากแบรนด์ Prada ด้วยเช่นกัน โดยร่วมมือกันเพื่อออกแบบไอค่อนมากกว่า 100 ไอค่อน บนพื้นฐานของการลากเส้นเพียงครั้งเดียว และใช้ 3 สี ดำ เทา และขาว เป็นสีหลักของอินเตอร์เฟส จึงให้ความรู้สึกกลับไปเหมือนใช้โทรศัพท์หน้าจอขาว-ดำกันเลยทีเดียว
โดยในการใช้งานผู้ใช้จะมี 7 หน้าต่างให้เลือกนำวิตเจ็ตมาใส่ตามปกติของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งในจุดนี้สามารถเลือกเซฟการตั้งค่าวิตเจ็ต และสับเปลี่ยนไปมาได้ เพื่อความสะดวกกรณีที่ต้องการแยกหน้าจอระหว่างการทำงาน และใช้ชีวิตทั่วไปออกจากกัน สามารถใช้นิ้วจีบออกเพื่อดูหน้าต่างทั้งหมด และเลือกให้เป็นหน้าหลักได้
ซึ่งในส่วนของวิตเจ็ตบางตัวผู้ใช้สามารถเข้าไปปรับขนาดได้ และที่น่าสนใจคือวิตเจ็ต Network Data ที่สามารถใช้เช็ตจำนวนปริมาณดาต้าโทรศัพท์ที่ใช้งานไป ทั้งยังสามารถกำหนดค่าไม่ให้ใช้เกินได้ด้วย และแน่นอนว่าตรงวิตเจ็ตนี้ ก็ยังใช้อินเตอร์เฟสเฉพาะของ Prada อยู่เช่นเดียวกัน
ย้อนกลับมาดูที่หน้าจอปลดล็อก ซึ่งจะแสดงวัน เวลา เครือข่ายที่ใช้ และสัญลักษณ์การแจ้งเตือนต่างๆ (ถ้ามี) ซึ่งถ้ามีการเสียบชาร์จก็จะขึ้นเปอเซนต์บอก สามารถปลดล็อกได้จากการใช้นิ้วลากหน้าจอขึ้นด้านบน ในส่วนของการเชื่อมต่อสายไมโครยูเอสบีกับคอมพ์ สามารถเลือกได้ว่าจะให้เครื่องชาร์จอย่างเดียว เข้าสู่ระบบจัดเก็บข้อมูล เชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ของแอลจี และใช้เป็นตัวกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต
ส่วนในแถบการแจ้งเตือนปกติ ที่ใช้นิ้วลากจากส่วนบนหน้าจอลงมา แอลจีได้มีการใส่ปุ่มลัดสำหรับเปิด-ปิดเสียง ไวไฟ บลูทูธ ระบบ NFC และการใช้งานดาต้า ถัดลงมาเป็นแถบควบคุมเครื่องเล่นเพลง แสดงเครือข่ายที่ใช้ และการแจ้งเตือนต่างๆ
เมื่อเข้ามาในส่วนของเมนู จะเห็นได้ว่าไอค่อนของโปรแกรมหลักๆที่มากับเครื่องจะถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ให้ความรู่สึกคลาสสิคไปในตัว โดยในส่วนนี้จะมีการแบ่งแอปพลิเคชันออกด้วยว่า เป็นแอปฯที่มากับตัวเครื่อง เป็นบริการของกูเกิล และเป็นแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดมาใหม่
ในส่วนของการตั้งค่าก็ยังมีการคุมธีมสีหลักของเครื่องอยู่เช่นเดิม ซึ่งการตั้งค่ายังคงเป็นไปตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ มีเพิ่มเข้ามาในส่วนของการเปลี่ยนฟอนต์ตัวอักษรของ Prada โดยเฉพาะ เพิ่มการตั้งค่า NFC และ Wi-Fi Direct ระบบการใช้โมชันเซ็นเซอรในการควบคุมเครื่อง อย่างคว่ำเครื่องขณะสายเข้าหรือนาฬิกาปลุกเพื่อปิดเสียง
อย่างที่กล่าวไปว่าตัวเครื่องมาพร้อมระบบ NFC (Near Field Communication) ซึ่งแอลจีได้มีแอปฯ สำหรับการแชร์ข้อมูลผ่านการสัมผัส อย่างรายชื่อผู้ติดต่อ เว็บไซต์ บันทึก การโทร ข้อความสั้น ติดแท็กการรับข้อมูล ซึ่งในการใช้งานจำเป็นต้องใช้กับเครื่องที่รองรับระบบ NFC ด้วยกันซึ่งยังมีจำนวนน้อยในตลาด
Smart Share กลายเป็นแอปฯที่มาอำนวยความสะดวกในการใช้งานสมาร์ทโฟนในเครือข่ายเน็ตเวิร์กขาประจำ เนื่องจากมีความสามารถในการเล่นไฟล์ภาพ เพลง และวิดีโอ ไปยังเครื่องลูกข่ายภายในเน็ตเวิร์กเดียวกันผ่านระบบ DLNA
หน้าจอการใช้งานอีเมล ก็มีการกำหนดธีมการใช้งานมาเป็น ดำ เทา ขาว เหมือนกัน ผู้ใช้สามารถซิงค์ข้อมูลได้หลายๆบัญชีพร้อมๆกัน และสามารถเลือกดูแบบรวมทั้งหมด หรือแยกดูตามแต่ละบัญชีก็ได้ ความสามารถในการใช้งานก็เป็นไปตามปกติของสมาร์ทโฟน อ่านไฟล์ ส่งต่อ ตอบกลับ แนบไฟล์เพิ่มได้ตามปกติ
ระบบการใช้งานในรถที่ให้มาใน LG Prada 3.0 สามารถใช้งานร่วมกับแผนที่จากกูเกิลแมป ในการนำทางได้ สามารถกำหนดจุดเพิ่มไว้ที่หน้าจอได้ทันที ขณะเดียวกันภายในโปรแกรมยังมีไอค่อนลัดสำหรับเรียกใช้งานโทรศัพท์ ดูรายชื่อ เปิดเพลง ได้อีกด้วย
Smart World ทำหน้าที่เหมือนเป็นการคัดกรองแอปพลิเคชันจากในแอนดรอยด์ มาเก็ต มาให้ผู้ใช้งานแอลจีได้ใช้งานกัน แต่จะมีจุดที่แตกต่างเพิ่มขึ้นมาคือจะมีโปรโมชันพิเศษเข้ามาให้ลูกค้าได้เลือกโหลดตามงานเทศกาลต่างๆ อย่างนาฬิกาวาเลนไทน์เป็นต้น
ตารางนัดหมาย เลือกเปิดดูได้ทั้งแบบเป็นเดือน สัปดาห์ หรือเลือกดูเฉพาะที่มีนัด การเพิ่มนัดในปฏิทินก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กรอกข้อมูล เลือกวัน เวลา สถานที่ ให้เรียบร้อย ในจุดนี้สามารถซิงค์ตารางนัดหมายจากปฏิทินของกูเกิลได้เช่นเดียวกัน
นอกจากฟีเจอร์ที่ให้มาทั่วๆไปแล้ว แอลจียังมีแอปพลิเคชันสำหรับสำรองข้อมูลมาให้ใช้งานด้วย โดยจะทำการบันทึกข้อมูลลงในหน่วยความจำภายนอก ที่ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะสำรองข้อมูลสิ่งใดบ้าง เช่น รายชื่อ ตารางนัด การตั้งค่าต่างๆ
ในส่วนของ App Manager จะแสดงแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่ และ RAM ที่เหลือ เมื่อรู้สึกว่าเครื่องข้าๆ ไม่ทำตามที่สั่งงาน สามารถสั่งปิดการทำงานทั้งหมดได้ทันที ในจุดนี้ยังสามารถเข้าไปจัดการแอปฯที่ดาวน์โหลดมา แอปฯใดไม่ได้ใช้ก็สามารถลบได้ทันที และยังแสดงหน่วยความจำที่เหลือภายในเครืองด้วย
แม้แต่ในโหมดโทรศัพท์ของ Prada 3.0 ก็ยังถูกควบคุมการออกแบบมา ในธีมหลักสีเดียวกัน โดยผู้ใช้สามารถพิมพ์หมายเลขขึ้นต้น หรือ ตัวอักษร เพื่อค้นหารายชื่อได่ทันที ช่วยอำนวยความสะดวกได้ค่อนข้างมากในการใช้งาน ส่วนหน้าจอรับสาย ถ้าปิดหน้าจออยู่จะเป็นการสไลด์เพื่อรับ แต่ถ้ามีการใช้งานก็สามารถกดปุ่มเพื่อรับสายได้ทันที ขณะสนทนาถ้าต้องการเรียกดูรายชื่อ เรียกปุ่มกด ใช้งานบลูทูธ ปิดเสียง และเปิดลำโพงก็สามารถสั่งได้ทันที
การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ นอกจากความสามารถทั่วไปที่มากับแอนดรอยด์แล้ว ยังมีเพิ่มระบบการบันทึกหน้าเว็บเพจไว้ เพื่อมาเปิดอ่านทีหลัง ช่วยให้ไม่ต้องกังวลว่า หน้าเว็บไซต์ หรือข้อมูลที่เจอจะหายไป ลักษณะการทำงานจะคล้ายๆกับการบุ๊กมาร์คหน้าเว็บไซต์ เพียงแต่เมื่อเปิดอ่านแล้วที่บันทึกไว้ก็จะหายไป ช่วยให้ไม่รกบุ๊กมาร์คในเครื่อง
หมวดกล้องของ Prada 3.0 นั้น มีความแปลกตรงที่สามารถใช้ปุ่มด้านบนเครื่องแทนชัตเตอร์ได้ ขณะที่ลูกเล่นต่างๆในแอปฯจะคล้ายคลึงกับเครื่องรุ่นอื่นของแอลจี คือสามารถปรับระยะซูม เลือกขนาดภาพ เลือกซีนถ่ายภาพ ปรับค่า ISO สมดุลแสงขาว ตั้งเวลาถ่ายภาพ โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง พาโนราม่า แฟลช โดยในการบันทึกวิดีโอสามารถบันทึกความละเอียดสูง 1080p ได้
จุดขาย
- แน่นอนว่าจุดขายหลังของ Prada 3.0 คือความเป็นแบรนด์เนม ที่มาพร้อมกับความหรูหรา ทั้งในแง่ของการออกแบบทั้งภายนอก และภายใน ทำให้ผู้ถือใช้งานไม่รู้สึกเกลื่อน หันไปทางไหนก็เจอคนใช้สมาร์ทโฟนเหมือนๆกัน
- ในแง่ของประสิทธิภาพการใช้งาน Prada 3.0 ก็ถือว่าเป็นไฮเอนด์สมาร์ทโฟนดีๆรุ่นหนึ่ง ที่น่าสนใจคือมาพร้อมกับเทคโนโลยี NFC ที่กำลังเริ่มได้รับความสนใจ ประกอบกับความสามารถในการเชื่อมต่อ 3G ที่ความเร็วสูงสุด 21 Mbps
- มุมของการใช้งานมัลติมีเดีย คุณภาพของกล้อง 8 ล้านพิกเซลที่ให้มา ถือว่าอยู่ในคุณภาพที่ดี ขณะที่การถ่ายภาพวิดีโอ 1080p ก็ให้ความละเอียดสูงสุดเช่นเดียวกัน และหน้าจอ 4.3 นิ้วก็ช่วยให้สามารถรับชมภาพยนตร์ได้สบายตา ท่องเว็บได้ง่ายมากขึ้น
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- ในเมื่อเป็นสินค้าแบรนด์เนม ทำให้ราคาของแอลจี Prada 3.0 ค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ เมื่อเทียบในแง่ของสเปก แต่ก็เชื่อว่าราคาที่ทำตลาดในประเทศไทยที่ 19,900 บาท ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ที่อยู่ในระดับแพงกว่า 20,000 บาท
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
คุณผู้หญิงทั้งหลายที่เป็นแฟชันนิสต้า หรือชื่นชอบแบรนด์ Prada เป็นชีวิตจิตใจคงพลาดไม่ได้กับสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษของ แอลจี อย่าง Prada 3.0 จากดีไซน์เฉพาะตัว และความร่วมมือในการออกแบบอินเตอร์เฟสภายใน เชื่อว่ามีกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบ และยอมเสียเงินให้กับสินค้าตัวนี้อย่างแน่นอน
แต่ถ้าในมุมของผู้ใช้งานทั่วไป ถ้าชื่นชอบดีไซน์ตัวเครื่องหน้าจอขนาดใหญ่ และตัวเครื่องที่บาง กับประสิทธิภาพของเครื่อง ที่เชื่อว่าตอบโจทย์การใช้งานสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแอปพลิเคชัน อีเมล และโซเชียลเน็ตเวิร์ก เสริมกับภาพลักษณ์ของคนใช้ Prada ทำให้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ
Company Related Links :
LG