ช่วงนี้วงการจอภาพและมีเดียต่างๆ กำลังเข้าสู่ยุค 3 มิติ ดังจะเห็นได้จากภาพยนตร์ เกม คอนเทนต์ทีวีหรือแม้กระทั่วจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ก็เกาะกระแส 3 มิติกับเขาด้วยเช่นกัน
ซึ่งในวันนี้ทีมงานไซเบอร์บิซก็ได้รับจอมอนิเตอร์ 3 มิติจากซัมซุงมาทดสอบในรุ่น SyncMaster SA950 ที่มีจุดเด่นในเรื่องการรองรับคอนเทนต์สามมิติแบบ Full HD 1080p รวมถึงความสามารถในการแปลงคอนเทนต์ 2 มิติให้เป็น 3 มิติเฉกเช่นเดียวกับ 3D TV
การออกแบบและสเปก Samsung SyncMaster SA950
สำหรับการออกแบบ SA950 ที่ถือเป็นมอนิเตอร์ท็อปฟอร์ม ทางซัมซุงยังคงเอกลักษณ์ของตนในเรื่องดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย ดูมีราคา โดยวัสดุที่เลือกใช้จะเป็นอะลูมิเนียมบนความบางหน้าจอเพียง 11.4 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 5.9 กิโลกรัม
ด้านสเปกจอ SA950 มาพร้อมหน้าจอ LED ขนาด 23 นิ้วที่ความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซล บนอัตราความเร็ว Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz และพาเนลแบบ Ultra Clear ด้าน Contrast Ratio จะอยู่ที่ 3,000:1 (Mega DCR) พร้อมความเร็วในการตอบสนองจะอยู่ที่ 2 มิลลิวินาที และรองรับเฉดสีทั้งหมด 16.7 ล้านสี
ส่วนการบริโภคพลังงานของ SA950 จากสเปกที่ทางซัมซุงให้มา ระหว่างใช้งานจะบริโภคพลังงานอยู่ที่ 56 วัตต์ และเมื่ออยู่ในสถานะสแตนบายจะบริโภคพลังงานเพียง 1 วัตต์เท่านั้น
ด้านการเชื่อมต่อจะถูกติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังของ Stand ซึ่งประกอบด้วยจากซ้าย ช่องใส่สายล็อคกันขโมย - Display Port - DVI - HDMI - ช่องหูฟังและ Audio Out สำหรับต่อออกลำโพงเมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อช่องสัญญาณ HDMI - ช่องต่อไฟจาก Adapter
สำหรับการเชื่อมต่อระบบ 3 มิติกับคอมพิวเตอร์นอกจากผ่านสาย HDMI ตั้งแต่รุ่น 1.3 ขึ้นไปแล้ว ผู้อ่านยังสามารถเชื่อมต่อผ่านสาย Dual Link DVI ตามภาพประกอบด้านบนได้เช่นกัน
ส่วนปุ่มกดสั่งงานจอภาพจะประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ซึ่งทำงานผ่าน Touch Sensor ประกอบด้วยจากซ้ายมือ ปุ่มเรียกเมนู - ปุ่มเลือก Input สัญญาณภาพและปุ่มขึ้นลง ซ้าย-ขวาสำหรับสั่งแถบคำสั่งเมนู - ปุ่ม Customized Key (ค่าเริ่มต้นตั้งไว้เป็นปุ่มเปิด-ปิด ระบบ 3 มิติ) - ปุ่มเปิดปิดจอภาพ และสุดท้ายส่วนของเซนเซอร์ PIR สำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหว
มาในส่วนแว่น 3 มิติที่แถมมาให้กับ SA950 จะเป็นแว่น Active Shutter Glasses ต้องใช้แบตเตอรีเลี้ยงกลไกลภายในแว่นในการตัดภาพตาซ้ายและขวาข้างละ 60 เฟรมต่อวินาที (เมื่อรวม 2 ข้างจะเท่ากับ 120 เฟรมต่อวินาทีเท่ากับความเร็ว Refresh Rate ของจอภาพ) เพื่อสร้างมิติภาพและส่งสัญญาณ Bluetooth ระหว่างแว่นกับจอมอนิเตอร์
นอกจากนั้นสำหรับผู้ใช้ที่ใส่แว่นสายตายังสามารถใช้งานแว่น 3 มิติจากซัมซุงได้ เพียงสวมแว่นดังกล่าวครอบแว่นสายตา ส่วนบนของแว่นจะเกี่ยวและทับกับแว่นสายตาพอดี
เทคโนโลยีของ Samsung SyncMaster SA950 (จุดขาย)
1. ในเรื่องการรองรับ 3 มิติจะใช้เอนจิ้น 3D HyperReal เป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้สามารถรองรับคอนเทนต์ 3 มิติจากแหล่งมัลติมีเดียอื่นนอกจากคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด
นอกจากนั้น SA950 ยังรองรับการรวมภาพ 3 มิติแบบดิบๆ และให้หน้าจอทำหน้าที่สร้างภาพ 3 มิติเองได้ โดยรองรับการสร้างภาพ 3 มิติตั้งแต่
- แปลง 2 มิติเป็น 3 มิติโดยฮาร์ดแวร์ในจอภาพ โดยสามารถปรับความลึก (Depth) ของภาพได้ตามต้องการ
- สร้างภาพ 3 มิติจากต้นฉบับที่เป็น Frame Sequential
- สร้างภาพ 3 มิติจากต้นฉบับที่เป็น Top-Bottom (บน-ล่าง)
- สร้างภาพ 3 มิติจากต้นฉบับที่เป็น Side by Side (ซ้าย-ขวา)
2. จอภาพรองรับอัตรา Refresh Rate ที่ 120Hz ทำให้การแสดงผลภาพลื่นไหลมากกว่าจอภาพ LCD/LED ทั่วไปที่รองรับเพียง 60Hz
3. จอมาพร้อมเทคโนโลยี Photo Accuracy 100% ที่ช่วยทำให้การแสดงรูปถ่ายจากกล้องดิจิตอลมีสีสันตรงกับไฟล์ต้นฉบับมากขึ้น
4. เทคโนโลยี Samrt Motion Technology ที่ทางซัมซุงออกแบบมาให้ช่วยประหยัดพลังงาน โดยการทำงาน เชนเซอร์ PIR (Pyrolectric Infrared Ray) จะตรวจจับการเคลื่อนไหวบริเวณหน้าจอ ซึ่งถ้าไม่มีวัตถุใดๆ เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน จอภาพจะดับลงทันทีเพื่อเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน และเมื่อมีวัตถุเคลื่อนไหวอยู่บริเวณหน้าจอภาพอีกครั้ง จอจะติดโดยอัตโนมัติ
5. Samsung MAGIC ถือเป็นจุดขายหลักของจอ SA950 เช่นกัน โดยฟีเจอร์ MAGIC จะแบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่ Angle, Bright และ Color ที่จะเป็นตัวช่วยในการปรับเรื่องแสงสว่างและเฉดสีสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนของ Angle ที่จะสามารถปรับเรื่องแสงสำหรับการมองในมุมต่างๆ ได้
ทดสอบประสิทธิภาพ/ตอบจุดขายหรือไม่?
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพ Samsung SyncMaster SA950 ทีมงานได้ทดสอบร่วมกับการต่อผ่าน Dual Link DVI กับกราฟิกการ์ด AMD Radeon HD 6870x2 และแว่น 3 มิติที่แถมมากับ SA950 ด้วยการทดลองชมภาพยนตร์ 3 มิติ Final Destination 5 ด้วยระบบ 3 มิติแบบ Top-Bottom ผ่านการเปิดด้วยโปรแกรม Media Player ธรรมดาแล้วให้จอรวมภาพ 3 มิติเอง พบว่าสามารถแสดงผลตื้น ลึกได้ดี แต่ความรู้สึกทะลุจอจะไม่มากนัก
ส่วนความลื่นไหลและความคมชัด สำหรับการรับชมกับแสงจากหลอดไฟนีออนพบว่าคมชัดใช้ได้ แต่ด้วยจ้อจำกัดของแว่นจำพวก Active Glasses กับแสงไฟนีออนที่ทำให้เกิดอาการภาพกระพริบและอาการปวดตาจนต้องปิดไฟเหล่านั้นลง ภาพกระพริบดังกล่าวถึงจะหายไป
แต่ทั้งนี้เรื่องของมุมมองในการรับชมภาพ 3 มิติเมื่อสวมใส่แว่น Active Glasses ตรงจุดนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า Passive Glasses จากค่ายคู่แข่งในเรื่อง
- Active Glasses ในรุ่น SA950 สามารถใส่มองภาพ 3 มิติได้จากทุกมุมมอง ซึ่งจากการทดสอบทั้งยืนมองหรือนั่งต่ำกว่าจอภาพก็สามารถมองภาพเป็น 3 มิติได้ ในขณะที่แบบ Passive จะต้องนั่งตรงหน้าจออย่างเดียวถึงจะสามารถมองภาพเป็น 3 มิติ
จากนั้นลองเปลี่ยนมาทดสอบการเล่นเกมกับเครื่อง PlayStation 3 และเกม Uncharted 3 ผ่านสาย HDMI ในโหมด 3 มิติ โดยเมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อย ระบบของ PS3 จะตรวจจับสัญญาณ 3 มิติและตั้งค่าให้อัตโนมัติ โดยระหว่างการเล่นพบว่าหน้าจอแสดงภาพได้ค่อนข้างคมชัดและภาพใสเคลียร์มาก ส่วนเรื่องความจัดจ้านของสีจะไม่มากเหมือนจอรุ่นอื่นๆ ทำให้การมองนั้นค่อนข้างสบายตา
สุดท้ายกลับมาทดสอบกับคอมพิวเตอร์ด้วยการรับชมภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลและพิมพ์งานทั่วๆ ไปพบว่า SA950 สามารถแสดงสีสันได้ตรงต้นฉบับพอสมควร ถึงแม้จะไม่ 100% เพราะติดสีที่สดเกินจริงเล็กน้อย แต่ก็อย่างที่ทราบว่าจอ SA950 ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกราฟิกเป็นหลัก
ส่วนเมื่อใช้สำหรับการพิมพ์งานร่วมกับการเปิดใช้ฟีเจอร์ MAGIC และเลือกใช้โปรไฟล์ Text แสงหน้าจอจะถูกลดทำให้ลดอาการเมื่อยล้าสายตาเมื่อต้องเพ่งอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานๆ ได้
ส่วนเรื่องอัตรา Refresh Rate 120Hz ที่ความละเอียด 1080p เมื่อเปิดใช้งานพบว่าทำให้ความสมูทของเมาส์เพิ่มขึ้น รวมถึง Animation ต่างๆ จะลื่นไหลจนทำให้เหมือนวินโดว์ทำงานเร็วขึ้น
แต่ทั้งนี้สำหรับการประมวลผลเกมสามมิติบนคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานร่วมกับจอ SA950 ผู้ใช้จำเป็นต้องหากราฟิกการ์ดที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้งาน เพราะการจะรันภาพเกม 3 มิติได้นั้น เฟรมเรตที่เกมควรทำได้ควรอยู่ที่ 60-120fps เป็นต้นไป ภาพที่ได้ถึงจะไม่กระตุกให้เสียอารมณ์
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?
สำหรับราคากลางของ Samsung SyncMaster SA950 อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นปลายๆ ถึง 2 หมื่นบาทเป็นต้นไปซึ่งนับว่าราคาเปิดตัวแรงมาก สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่สำหรับผู้ใช้ที่มีเงินเหลือ เทคโนโลยีที่ให้มากับ SA950 นับว่าคุ้มค่ามาก เพราะอย่างที่ทราบแล้วว่า SA950 รองรับรูปแบบคอนเทนต์และการเชื่อมต่อทุกรูปแบบและเมื่อบวกกับเรื่องดีไซน์แล้ว SA950 ถือเป็นมอนิเตอร์ที่น่าสนใจไม่น้อย ถ้าผู้ใช้ยอมรับข้อติติงในใจทีมงานเรื่องระบบ 3 มิติกับแว่นกลไกล Active Glasses ที่ทีมงานมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทรมาณสายตามาก เพราะการที่กลไกลของแว่นต้องตัดภาพสลับไปมาตลอดเวลาทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าตามากเมื่อต้องชมภาพยนตร์ 3 มิติเป็นเวลานาน อีกทั้งระบบดังกล่าวยังมีปัญหากับแสงจากหลอดไฟทำให้เกิดภาพกระพริบ จนต้องปิดไฟหรือดูในที่ๆ มีแสงสว่างน้อยๆ
แต่สุดท้ายแล้วแค่คำกล่าวของทีมงานก็ไม่อาจมีพลังเท่าผู้ใช้ได้ไปทดสอบและสัมผัสเอง...
ตัวเลือกอื่น
LG Flatron D2342P
Company Related Link :
Samsung
