xs
xsm
sm
md
lg

Review : Jawbone Era หูฟังบลูทูธฉลาดๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ถ้าพูดถึงตลาดหูฟังบลูทูธระดับพรีเมียมในบ้านเรา คงมีแบรนด์หลักอยู่ 2 แบรนด์ที่ชิงพื้นที่ตลาดกันอยู่ Jawbone ถือเป็น 1 ใน 2 แบรนด์ ที่เพิ่งมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ทำให้ราคาสินค้า ถูกกว่าสมัยก่อนที่หิ้วเข้ามาวางจำหน่าย

Jawbone Era ถือเป็นหูฟังบลูทูธ ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัวมากกว่าการเป็นหูฟังไร้สาย ที่ใช้โทรศัพท์ จากฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน ที่มาเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้า อย่างระบบ จำเบอร์โปรด เปลี่ยนเสียงพูด ตั้งรายชื่อจากเบอร์ผู้ติดต่อ

ขณะที่ตัวหูฟังเอง ก็มาพร้อมเทคโนโลยีการตัดเสียงอย่าง Noise Assasin 3.0 ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากรุ่นเดิมใน Jawbone Icon และยังมีจุกหูฟังให้เลือกหลากหลายแบบ มาภายในกล่อง ตามขนาดรูหูของผู้ใช้งานแต่ละบุคคล

การออกแบบและสเปก Jawbone ERA



การออกแบบของ Era จะเน้นไปที่เรียบหรูจากสีเงิน ตัดกับสีดำ โดยภายนอกจะมีลายตารางสี่เหลี่ยมตัดไปมา ส่วนบนมีช่องเสียบไมโครพอร์ตยูเอสบี และปุ่มกด ข้างในมีรูหูฟัง ปุ่มเปิด-ปิด ช่องไมโครโฟนสนทนา ที่มีไฟแสดงสถานะล้อมรอบ ขนาด 51.3 x 14.5 x 24.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 10.2 กรัม



สัญลักษณ์การแจ้งเตือนของไฟแสดงสถานะ มีด้วยกันหลักๆ คือสีขาว และสีแดง เมื่ออยู่ในโหมดเชื่อมต่อ จะเป็นไฟสีขาวกระพริบ ถ้าอยู่ในโหมดพร้อมเชื่อมต่อจะเป็นไฟสีขาวสลับแดงติดกัน ทั้งนี้ เมื่ออยู่ในสถานะเชื่อมต่อ สามารถกดปุ่ม และตัวหูฟังจะบอกเวลาการใช้งานที่เหลืออยู่

ตัวหูฟังรองรับบลูทูธ เวอร์ชัน 2.1 ระยะเชื่อมต่อ 33 ฟุต ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงครึ่ง ระยะเวลาเปิดรอรับสาย 10 วัน ซึ่งจะมีแถบแสดงแบตเตอรีอัตโนมัติเมื่อใช้งานบน ไอโฟน (แอนดรอยด์ กับ แบล็กเบอรี สามารถดาวน์โหลดแอปฯเสริมได้) รองรับระบบ EDR A2DP ตามมาตรฐานใหม่ของบลูทูธ

และยังมีความสามารถของระบบตัดเสียงอย่าง Noise Assassin 3.0 รองการสั่งงานผ่านโมชันเซ็นเซอร์ ที่เรียกว่า Motion X คุณภาพเสียงระดับไฮเดฟฟินิชัน รวมกับความสามารถเสริมของแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนหลักอย่าง iOS Android และ BB OS

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ Jawbone ERA



ฟีเจอร์ที่มีมาให้ภายในเว็บแอปพลิเคชันของ Jawbone ที่ผู้ใช้จำเป็นต้องเชื่อมต่อขั้นต้น ก่อนใช้งานใดๆ เพื่อให้ตัวหูฟังอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด รวมถึงการตั้งค่าต่างๆของหูฟัง บนเว็บไซต์ mytalk.jawbone.com



โดยหน้าจอการตั้งค่าจะประกอบไปด้วย ตั้งชื่อหูฟัง เปิดการแจ้งเตือนผ่านหูฟัง ใส่ชื่อจากหมายเลขผู้ติดต่อ ดูข้อมูลการเชื่อมต่อ เปิดใช้งานหูฟังบลูทูธสำหรับฟังเพลง การลิงก์เข้าเว็บไซต์ ปุ่มลัดสำหรับการสั่งงาน และการตั้งโมชันเซ็นเซอร์



เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ทางช่องซ้ายมือของหน้าเว็บ จะขึ้นรายละเอียดของเสียงที่ใช้งาน รูปแบบคำสั่ง การตั้งค่าชื่อผู้ใช้จากหมายเลขโทรศัพท์ และเข้าสู่หน้าการตั้งค่าด้านบน



นอกจากนี้ยังสามารถตั้ง My Favorite เป็นหมายเลขโทรด่วน โดยการกดปุ่มค้างที่ตัวหูฟัง โทรศัพท์จะต่อไปยังหมายเลขที่ตั้งไว้ทันที



กลับมาดูยังส่วนการตั้งค่า ในส่วนของ Connections ที่ผู้ใช้สามารถเปิดโหมด จำลองการเชื่อมต่อ 2 เครื่องพร้อมๆกันได้ โดยตัดเครื่องจะเลือกเชื่อมต่อกับเครื่องที่ใช้งานบ่อยที่สุด ทั้งนี้ตัว Era สามารถบันทึกเครื่องที่ใช้เขื่อมต่อได้สูงสุด 8 เครื่อง ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้ามาลบเครื่องที่ไม่ต้องการใช้งานได้ในหน้านี้



ในส่วนของการตั้งค่า โมชัน เซ็นเซอร์ หลักๆ จะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ การสัมผัส 2 ครั้งที่ตัวหูฟัง เพื่อรับสาย-วางสาย เขย่าเครื่องสองครั้งเพื่อรับสาย เขย่าเครื่อง 4 ครั้งเพื่อเข้าสู่โหมดพร้อมเชื่อมต่อ (Pair)



ที่นี้ มาดูกันถึงแอปพลิเคชัน ที่ใช้งานร่วมกับ iOS ซึ่งหลังจากดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาจากแอปสโตร์แล้ว จำเป็นต้องล็อกอินเข้าสู่ระบบก่อน หลังจากนั้นเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธ จะช่วยให้หูฟังมีฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาอย่าง การแสดงสถานะแบตเตอรีบนไอโฟน และยังมีระบบบันทึกเสียง ก่อนส่งไปยังผู้ใช้งานในกลุ่มที่เลือกไว้



ขณะที่การใช้งานบน แอนดรอยด์ ผ่านแอปฯ Jawbone Companion จะมีความสามารถในการพูดแสดงตารางนัดหมาย และเวลาเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่ตัวหูฟังจะพูดแจ้งเตือนเวลาใช้งานที่เหลืออยู่เท่านั้น ทั้งนี้ที่หน้าจอเมื่อมีการเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว จะมีการแสดงสถานะแบตเตอรีด้วยเช่นเดียวกัน

จุดขาย Jawbone ERA



- ระบบตัดเสียงที่ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี คุณภาพเสียงที่ได้ชัดเจน
- แอปพลิเคชันเสริมที่ให้มา รองรับรูปแบบการใช้งานบลูทูธให้ง่ายขึ้น
- การใช้โมชันเซ็นเซอร์ในการสั่งงาน
- ปุ่มโทรด่วน สำหรับเบอร์ที่ตั้งไว้
- อ่านออกเสียงชื่อของหมายเลขที่ตั้งไว้ ช่วยให้ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
- มียางหูฟังให้เลือกใช้ตามขนาดใบหู และที่ชาร์จหูฟังในรถยนตร์

ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่



- ต้องใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน เพื่อให้ได้ความสามารถที่หลากหลายมากกว่าหูฟังบลูทูธทั่วไป
- ยังไม่มีคำสั่งภาษาไทย (ทางผู้จำหน่ายให้ข้อมูลว่า เมื่อใดรับความนิยมมากขึ้นอาจจะมีการนำคอนเทนต์ภาษาไทยใส่เข้าไป)
- บางฟีเจอร์ที่เปิดใช้ในต่างประเทศ อย่างดาวน์โหลดเพลง ยังไม่สามารถใช้ในประเทศไทยได้
- การซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อใช้งานผ่านเว็บไซต์ที่เป็นเว็บเบสแอปพลิเคชัน

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

อย่างที่รู้กันว่าราคาของหูฟัง Jawbone ERA ของที่นำเข้าผ่านตัวแทนจำหน่ายจะอยู่ที่ 4,390 บาท พร้อมรับประกัน 1 ปี ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในระดับพรีเมี่ยม ทำให้ราคาสูงกว่าหูฟังยี่ห้อดังๆในท้องตลาดอย่าง ​ Jabra แต่ยังอยู่ในระดับเดียวกับหูฟังแบรนด์อย่าง Platronics

ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายหลักของหูฟังบลูทูธยี่ห้อนี้ ย่อมเป็นกลุ่มที่มีเงินอยู่แล้วในระดับหนึ่ง เช่นเดียวกับการที่ต้องใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน เพื่อให้ใช้ประสิทธิภาพได้คุ้มค่าที่สุด จากฟีเจอร์ต่างๆที่มีมาให้ เพราะฉนั้นถ้าต้องการเพียงแค่หูฟังบลูทูธคุณภาพเสียงดีๆ อาจจะต้องคิดหนักกับเงินเกือบ 4 พันบาท

แต่ถ้าในใจคุณต้องการหูฟังบลูทูธ ที่ให้ได้มากกว่าความเป็นหูฟังเชื่อว่า Jawbone ERA จะสามารถตอบโจทย์ในการใช้งานได้ค่อนข้างดี เพราะลูกเล่นต่างๆที่ให้มาค่อนข้างหลากหลาย และยังมีการพัฒนาต่อเนื่องขึ้นไปอีกในอนาคต จากการที่ตัวเครื่องสามารถอัปเฟิร์มแวร์ได้นั่นเอง

ตัวเลือกอื่น

- Jawbone Icon ราคาประมาณ 2,990 - 3,490 บาท
- Plantronics Discovery 975 ราคาประมาณ 3,590 บาท

Company Relate Link :
Jawbone



กำลังโหลดความคิดเห็น