ในยุคที่ตลาดกล้องคอมแพกต์เริ่มเข้าสู่ภาวะเติบโตช้าและถูกเมินจากผู้ใช้ระดับล่างเนื่องจากการเข้ามาของ DSLR ราคาต่ำกว่า 2 หมื่น แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าทางผู้ผลิตรายใหญ่จะลอยแพกล้องคอมแพกต์จากตลาด เพราะอย่างล่าสุดทางนิคอนก็ได้ชุปชีวิตต่อยอดกล้องตระกูลไฮเอนด์คอมแพกต์ในชื่อ Nikon COOLPIX P7100 ที่ทางนิคอนหวังดึงตลาดคอมแพกต์กลับมาด้วยราคาไม่เกิน 2 หมื่นบาทแต่ประสิทธิภาพแบบมืออาชีพและถือเป็นการพัฒนาต่อยอดความสำเร็จจาก COOLPIX P7000 และเป็นไม้ตายสู้รบกับคู่แข่งอย่าง Canon Powershot G12 โดยเฉพาะ
Design and Specifications
ด้านบอดี้และรูปทรงของ Nikon COOLPIX P7100 วัสดุที่ใช้จะมีความแข็งแรงและบริเวณที่จับจะเป็นยาง จับกระชับมือตามสไตล์นิคอน พร้อมปุ่มปรับรอบๆ ตัวเครื่องที่ให้มาครบครันแบบเดียวกับกล้อง DSLR
ด้านน้ำหนักของตัวกล้องจะอยู่ที่ 395 กรัม และขนาดตัวกล้องอยู่ที่ 116.3 x 76.9 x 48.0 มิลลิเมตร
ในส่วนของเลนส์กล้องจะเป็น 7.1x ZOOM NIKKOR 2 ED elements ที่มาพร้อมระบบกันสั่น VR (Vibration Reduction lens-shift stabilization) ในตัวเลนส์ โดยในส่วนของระยะเลนส์เมื่อเทียบกับฟอร์แมต 35 จะอยู่ที่ 28-200 มิลลิเมตร (รวม Digital Zoom 4x จะเท่ากับระยะ 800 มิลลิเมตร) ที่ค่า f/stop 2.8-5.6 อีกทั้งตัวเลนส์มาพร้อมความสามารถในเรื่องการถ่ายมาโคร 2 เซนติเมตรที่ระยะเลนส์ infinity ด้วย
สำหรับเซนเซอร์ภาพจะมีขนาด 1/1.7 นิ้ว แบบ CCD ที่สามารถให้ความละเอียดภาพสูงสุดที่ 10.1 ล้านพิกเซลที่อัตราส่วน 4:3 ในขณะที่อัตราส่วน 3:2 จะถ่ายความละเอียดสูงสุดได้ที่ 8.8 ล้านพิกเซล ส่วนความละเอียดภาพต่ำสุดที่ถ่ายได้จะมีความละเอียดอยู่ที่ VGA 640x480 พิกเซลแบบอัตราส่วน 4:3
สำหรับความเร็วชัตเตอร์ที่กล้องสามารถทำได้ ต่ำสุดจะอยู่ที่ 1 วินาที สูงสุดที่ 1/4,000 ส่วนระบบโฟกัสนอกจากจะตั้งแบบ Manual ได้แล้ว ยังสามารถตั้งโฟกัสแบบ Macro Focus 2 CM. - Subject tracking และโฟกัสแบบ Face detection พร้อมระบบวัดแสง 4 รูปแบบคือ Matrix, Center-weighted average, Spot (center) และ Spot AF Area
ในส่วนหน่วยประมวลผลภาพ COOLPIX P7100 จะใช้ Nikon EXPEED C2 image processing ที่เด่นในเรื่องการลดสัญญาณรบกวนภาพที่ดีขึ้นจากรุ่นก่อนเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และในส่วนค่าความไวแสงจะรองรับตั้งแต่ ISO 100 - 12,800 พร้อมระบบลดสัญญาณรบกวนจากการเพิ่มค่าความไวแสงเมื่อถ่ายภาพในเวลากลางคืน
นอกจากนั้นตัวกล้องยังพร้อม Internal Memory ในตัวขนาด 94MB พร้อมรองรับ Eye-Fi สำหรับใช้ร่วมกับ SD Card ที่สามารถส่งข้อมูลผ่าน Wireless LAN และตัวกล้องยังสามารถถ่ายไฟล์คุณภาพ RAW (Enhanced NRW Format) รวมถึงผู้ใช้ที่เน้นการถ่ายวิดีโอเป็นงานหลัก ยังสามารถนำไมโครโฟนที่เป็นหัวแจ็คแบบ 3.5 มิลลิเมตรเชื่อมต่อใช้งานได้ทันที
กลับมาในส่วนของปุ่มปรับควบคุมการทำงานของตัวกล้อง จะเห็นว่านิคอนใส่ความเป็นกึ่งมืออาชีพเข้าไปและพยายามทำให้การเข้าใช้งานโหมดควบคุมต่างๆ ได้ง่ายและไม่ยุ่งยากซับซ้อน จึงมีการแยกปุ่มควบคุมออกไว้ข้างนอกแทนที่จะใส่เข้าไปในหน้าเมนูแบบแบรนด์อื่นๆ
โดยปุ่มใช้งานด้านบนเริ่มจากซ้ายมือจะประกอบด้วย ส่วนของวงล้อปรับ ISO, White Balance ความละเอียดและขนาดของภาพ (QUAL), การถ่ายภาพคร่อม (BKT), เมนูปรับแต่งตามการใช้งานผู้ใช้ (My) และ Picture Style
ในส่วนตรงกลางของตัวกล้องจะเป็น Hot Shoe สำหรับสวมใส่แฟลชภายนอกและไมโครโฟนทุกประเภทของ Nikon ถัดมาจะเป็นวงล้อปรับโหมดถ่ายภาพไล่ตั้งแต่
Effect = เข้าสู่โหมด Creative Effect
รูปเทียนและดวงจันทร์ = เข้าสู่โหมดถ่ายภาพกลางคืน
กล้องวิดีโอ = เข้าสู่โหมดถ่ายวิดีโอ
Scene = โหมดสำเร็จรูป สามารถปรับโหมดถ่ายภาพตามการใช้งาน เช่น ถ่ายภาพกีฬา ภาพบุคคล
M - Manual = สามารถปรับชัตเตอร์สปีดได้เองตั้งแต่ 1-2/2000 วินาที รวมถึงสามารถปรับรูรับแสง ISO White Balance และชดเชยค่าแสงได้ตามความต้องการ
A - Aperture priority = สามารถปรับรูรับแสงได้เอง โดยความชัตเตอร์สปีดกล้องจะคำนวณให้
S - Shutter priority = สามารถปรับชัตเตอร์สปีดได้เอง โดยค่ารูรับแสงกล้องจะคำนวณให้
P - Program = กล้องจะเป็นกึ่งออโต้ แต่ผู้ใช้สามารถชดเชยแสงได้ตามต้องการ
A - Auto (รูปกล้องสีเขียว) = กล้องจะเป็นฟลูออโต้ ผู้ใช้มีหน้าที่กดถ่ายเพียงอย่างเดียว เพราะระบบทั้งหมดกล้องจะปรับแต่งให้เอง
U1-U3 = User Command ที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้เอง
ถัดจากวงล้อปรับโหมดถ่ายภาพจะเป็นในส่วนของสวิตซ์ปิด-เปิดกล้องและวงล้อสำหรับปรับซูมเข้า (T-Tele) และซูมออก (W-Wide) พร้อมวงล้อปรับชดเชยแสงที่ให้ตัวเลขมาตั้งแต่ -3 ถึง +3 พร้อมปุ่ม Function 2
มาที่ด้านหน้าของตัวกล้องจากซ้ายจะเป็นวงล้อ Sub command dial และปุ่ม Function 1 ส่วนตรงกลางจะเป็นช่องมองภาพ Viewfinder
สำหรับด้านหลังของตัวกล้อง
หลักๆ จะประกอบด้วยจอภาพ TFT LCD เคลือบ anti-reflection coating ขนาด 3 นิ้ว พร้อมความละเอียดหน้าจอ 921k-dot และสามารถปรับองศาการมองได้ ส่วนปุ่มคำสั่งด้านหลังตัวกล้องจากซ้ายจะเป็นปุ่มกดเรียกไฟแฟลชในตัวกล้อง ถัดมาจะเป็นวงล้อปรับระยะชัดของช่องมองภาพพร้อมไฟแฟลชและไฟแสดงการล็อคโฟกัส
ส่วนถัดไปจะเป็นช่องมองภาพ Viewfinder - ปุ่มเปิด-ปิด จอภาพด้านหลัง - วงล้อ Command dial - ปุ่มล็อกโฟกัสและล็อกค่าแสง - ปุ่ม Preview ภาพที่ถ่ายไป - วงล้อสำหรับใช้สั่งงานในหน้าเมนู พร้อมปุ่มลัดในการตั้งค่ายิงแฟลช ตั้งเวลาถ่าย ปรับมาโครโหมดและเลือกจุดโฟกัส ถัดลงมาจะเป็นปุ่มกดเข้าเมนูและปุ่มถังขยะลบภาพทิ้ง
Creative Effect
ถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นของ COOLPIX P7100 ในเรื่องความสามารถในการใส่เอ็ฟเฟกต์ภาพถ่ายได้ทันทีจากตัวกล้อง โดยเอ็ฟเฟกต์ในตัวกล้องมีให้เลือกถึง 10 รูปแบบ และที่โดดเด่นสุดคงอยู่ที่เอ็ฟเฟกต์ดูดสีเฉพาะจุดตามต้องการที่ผู้ใช้สามารถตั้งสีที่ต้องการดูดออกและเก็บไว้ได้ตามความต้องการของผู้ใช้
HD Video Record
นอกจากฟังก์ชันถ่ายภาพแล้วตัวกล้องยังสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 720p ที่จำนวนเฟรมเรท 24 เฟรมต่อวินาทีได้ โดยไฟล์วิดีโอที่บันทึกจะอยู่ในฟอร์แมต .MOV ที่เข้ารหัส H.264 + เสียง Linear PCM
วิดีโอแสดง Menu และ Feature บนกล้อง Nikon CoolPix P7100
ทดสอบประสิทธิภาพ
ISO Test
สำหรับเรื่องค่าความไวแสง (ISO) ที่กล้องรองรับจะสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ ISO100 และสูงสุดที่สามารถ Boost ถึงคือ 12,800 โดยจากการทดสอบค่าความไวแสงตั้งแต่ ISO100-1,600 พบว่าสัญญาณรบกวนในช่วง ISO 400-1,600 อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจถึงแม้เซนเซอร์จะเป็นแค่ขนาดคอมแพกต์แต่ด้วยหน่วยประมวลผลแบบใหม่ทำให้กล้องสามารถขจัดสัญญาณรบกวนได้ดี
ISO100 ตั้ง Scene Mode - Landscape
Wide to Tele View
200mm Tele Test ตั้ง Programs - ISO 100 - ชดเชยแสง -2
Macro Mode 2cm.
ทดสอบร่วมกับแฟลชภายนอก SB-600 ยิง Bounce แฟลชขึ้นเพดาน โดยตั้ง Shoot Mode เป็น Program
ตั้ง Aperture (A) ปรับรูรับแสง f/8
ตั้ง Manual Mode ปรับรูรับแสง f/8 ความเร็วชัตเตอร์ 4 วินาที
ดัน ISO ประมาณ 500 ใช้มือ ถือถ่ายพร้อมเปิดใช้ระบบกันสั่น
สรุป
สำหรับ Nikon COOLPIX P7100 ถือเป็นไฮเอนด์คอมแพกต์ที่มาพร้อมฟังก์ชันใช้งานและคุณสมบัติครบครัน ครอบคลุมทุกการใช้งาน โดยข้อดีของตัวกล้องคงอยู่ในเรื่องการที่นิคอนพยายามวางปุ่มปรับค่าสำคัญต่างๆ ให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่าย และรวดเร็ว รวมถึงเลนส์ซึ่งคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไปอย่างยิ่ง เพราะแน่นอนว่านอกจากผู้ใช้จะได้เลนส์กระจก ED แล้ว เลนส์ยังเป็น Zoom Lens ความยาว 28-200 มม. พร้อมมาโคร 2 เซนติเมตร และระบบการปรับแต่งโฟกัสและส่วนวัดแสงได้แบบเดียวกับกล้อง DSLR ยิ่งเมื่อรวมกับระบบประมวลผลภาพตัวใหม่ที่ช่วยลดสัญญาณรบกวนเมื่อถ่ายภาพที่มีแสงน้อยด้วยบวกกับราคาไม่ถึง 2 หมื่นแล้ว COOLPIX P7100 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับผู้ใช้มือใหม่ที่อยากศึกษาเรื่องการปรับค่าของกล้อง DSLR หรือผู้ใช้ที่อยากได้ DSLR แต่งบประมาณจำกัดมาก COOLPIX P7100 ก็เป็นทางเลือกที่ดี
แต่ทั้งนี้สำหรับการใช้งานพกพาเมื่อเทียบกับตระกูลไฮเอนด์คอมแพกต์ด้วยกันแล้วจะพบว่า COOLPIX P7100 มีน้ำหนักค่อนข้างมากและการใช้งานปุ่มคำสั่งต่างๆ ต้องอาศัยการทำความเข้าใจ ก่อนใช้งานเล็กน้อย โดยเฉพาะปุ่ม Function และ User Command ที่ให้มามากมายจนการใช้งานบางครั้งอาจทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสนได้
ราคา 17,990 บาท
ขอชม
- เลนส์กระจกคุณภาพดี
- การถ่ายวิดีโอแบบ HD ให้คุณภาพน่าพอใจ
- เลนส์ซูม 28-200 เป็นระยะที่ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุด
- สัญญาณรบกวนเวลาถ่ายภาพกลางคืนทำได้ดี
- มีระบบล็อคค่าแสงและโฟกัสขณะถ่ายวิดีโอ
- มีฟังก์ชันถ่ายภาพ HDR
- สามารถต่อไมโครโฟนภายนอกเมื่อถ่ายวิดีโอได้
ขอติ
- น้ำหนักค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในตระกูลไฮเอนด์คอมแพกต์
- การจับเมื่อไม่สวมใส่สายคล้องคอ ไม่ถนัดมือ
- ปุ่มคำสั่งรอบตัวเครื่องค่อนข้างมาก ต้องอาศัยเวลาในการศึกษาก่อนใช้งาน
- ตัวที่ทีมงานได้รับมาทดสอบสถานะแบตเตอรีบอกไม่ละเอียด เพราะมีแค่บอกสถานะแบตเตอรีเต็มและเมื่อแบตเตอรีหมด สถานะจะเหลือขีดเดียวและกล้องดับทันทีโดยปราศจากการแจ้งเตือนหรือบอกสถานะ 3 ระดับ (แบตฯ เต็ม เหลือครึ่ง ใกล้หมด) แบบรุ่นอื่น
Company Relate Link :
Nikon
