xs
xsm
sm
md
lg

ความต่างระหว่าง iOS กับ Android ใน Google+ และ Viber

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เป็นข่าวที่ได้รับความสนใจในโลกไซเบอร์อย่างมากเมื่อโครงการกูเกิล พลัส ที่ยังอยู่ในช่วงเปิดทดลองใช้บริการได้คลอดแอปฯ บน ระบบปฏิบัติการ iOS สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งในวันเดียวกันแอปฯ บน iOS สุดฮิตอย่าง Viber ที่เป็นแอปฯ สำหรับใช้คุยโทรศัพท์ผ่านระบบ VOIP บนเครือข่าย 3G, Edge และ WiFi ก็ได้ฤกษ์คลอดบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เช่นเดียวกัน


ซึ่งเมื่อกระแสของแอปฯ ทั้ง 2 ตัวอยู่ช่วงร้อนแรงด้วยประเด็นเรื่องความแตกต่างและฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนกันระหว่าง 2 ระบบปฏิบัติการ iOS และแอนดรอย์เกิดขึ้น ทำให้วันนี้ทีมงานผู้จัดการไซเบอร์จะขออาสากะเทาะเปลือกเปิดเนื้อในค้นหาความแตกต่างของแอปฯ Google+ และ Viber บน 2 ระบบปฏิบัติการได้แก่ iOS และ แอนดรอยด์มาเปรียบเทียบให้ชมกันแบบภาพต่อภาพ

Google+ : Android VS. iOS




ในหน้า Home ซึ่งถือเป็นหน้าแรกเริ่ม จะเห็นว่าทั้งบนแอนดรอยด์และ iOS มีความเหมือนกันอย่างมาก จะแตกต่างกันก็เพียงใน iOS จะมีการดีไซน์กราฟิกให้ดูโค้งมนกว่า เท่านั้น และสำหรับเวอร์ชันแอนดรอยด์ในหน้า Home จะสามารถรับชมแบบ Landscape ได้



เมื่อกดเข้ามาในหน้า Stream จะเข้าสู้หน้าในที่เริ่มต้นจาก Circles เหมือนกันทั้ง 2 ระบบ แต่จะมีสิ่งแตกต่างกันบ้างในเรื่องส่วนของการอัปโหลดรูปที่ใน iOS จะไม่มีไอคอนกล้องถ่ายภาพเหมือนในแอนดรอยด์ แต่ผู้ใช้สามารถอัปโหลดรูปได้ผ่านทางไอคอนีรูปดินสอได้ และสำหรับการเลื่อนซ้ายขวาเข้าสู่หน้า Incoming และ Nearby ก็สามารถทำได้เหมือนกันทั้ง 2 ระบบ



สำหรับระบบ Check in ถือเป็นหนึ่งส่วนที่ไม่มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด รวมถึงหน้าโพสต์ข้อความ รูปภาพ ก็แทบไม่มีความแตกต่างกัน ยกเว้นใน iOS จะมีปุ่มกดเรียกคีย์บอร์ดที่บริเวณด้านขวาล่างของกล่องเขียนข้อความ




ส่วน Huddle ไม่มีความแตกต่างกันอย่างใดในเรื่องการใช้งาน ส่วนเรื่องของแอปฯ Huddle ที่แยกออกมาแบบในแอนดรอยด์ สำหรับ iOS จะไม่มีแต่อย่างใด


มาที่ส่วนของ Circles ที่ทั้ง 2 ระบบจะแตกต่างกันมาก กล่าวคือ ใน iOS จะมีในส่วนของรูปประจำตัวปรากฏขึ้นในแต่ละแวดวงเพื่อนของเรา ทำให้ง่ายต่อการดูหมวดหมู่เพื่อน ซึ่งต่างจากแอนดรอยด์ที่จะมีเพียงตัวหนังสือบอกหมวดหมู่เท่านั้น จะดูรายชื่อเพื่อนหรือรูปภาพโปรไฟล์ก็ต้องกดเข้าไปที่แวดวงเพื่อนก่อน




สุดท้ายในส่วนของ Photos และ Notifications จะไม่มีความแตกต่างกัน ยกเว้นฟังก์ชัน Instant Upload (อัปโหลดรูปอัตโนมัติหลังจากถ่ายภาพด้วยแอปฯ กล้องในโอเอส) ที่ใน iOS จะไม่มีเหมือนในแอนดรอยด์ เพราะติดในเรื่องระบบปิดของแอปเปิล

อีกทั้งในเรื่องของการตั้งค่าที่ในแอนดรอยด์จะทำได้ละเอียดกว่าในไอโอเอส เช่น ปิด-เปิดระบบ Instant Upload ต้องค่าริงโทนเมื่อมีข้อความจากกูเกิล พลัสเข้ามา หรือแม้แต่ตั้งการสั่นต่างๆ ได้

Viber : Android VS. iOS









ความจริงแล้วภายในแอปฯ Viber ของทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการจะไม่มีสิ่งใดแตกต่างกันมากนัก และการแสดงข้อความรวมถึงการโทรผ่านระบบ VOIP ก็ทำได้ดีทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ




แต่ทั้งนี้มีอยู่สองสิ่งที่ทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการมีไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิงก็คือ ในแอนดรอยด์สามารถตั้งระบบ Default Calling ที่สามารถตั้งการโทรออกและซิงค์บัญชีรายชื่อของ Viber กับ Contacts ผ่านสมุดโทรศัพท์ในตัวเครื่องให้เรียกใช้งานผ่านแอปฯ Viber เพียงอย่างเดียวได้ ซึ่งต่างจาก iOS ที่ไม่สามารถทำได้

อีกทั้งในเรื่องของระบบเตือนข้อความ-โทรศัพท์เข้าระหว่างที่ผู้ใช้กำลังรันแอปฯ ตัวอื่นหรืออยู่ในหน้า Home Screen สำหรับ Viber for Android การที่ Pop-up เด้งเตือนข้อความขึ้นมาจะสามารถพิมพ์ตอบโต้กลับได้ทันที ในขณะที่ไอโอเอสจะไม่สามารถทำได้ และอีกหนึ่งความสามารถสุดท้ายที่ถูกเพิ่มเติมเข้าไปใน Viber for Android ก็คือ ไอคอนแสดงสถานะของตัวแอปฯ (รูปหูโทรศัพท์สีม่วง) ที่แสดงออกมาได้ชัดเจน รวมถึงการเตือนข้อความเข้ายังทำงานได้รวดเร็วกว่า Viber for iOS อย่างมากแม้ตัวเครื่องจะอยู่ในโหมด Sleep ก็ตาม

Company Related Links :
Google+
Viber
กำลังโหลดความคิดเห็น