คงยอมรับได้ถ้าจะบอกว่าชื่อชั้นของ Aspire One กลายเป็นชื่อที่การันตีคุณภาพเน็ตบุ๊กภายใต้แบรนด์ เอเซอร์ไปเรียบร้อยแล้ว การที่เอเซอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ หันมาให้ความสำคัญกับเน็ตบุ๊ก 2 ระบบปฏิบัติการอย่างวินโดวส์ 7 และ แอนดรอยด์ ในเครื่องเดียว คงสร้างความน่าสนใจแก่ผู้ใช้งานในระดับหนึ่ง
แต่ก็อย่าลืมว่าข้อจำกัดต่างๆของเน็ตบุ๊กอย่าง หน้าจอ คีย์บอร์ดขนาดเล็ก ประสิทธิภาพที่ทำงานได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าประโยชน์หลักๆของเน็ตบุ๊กคือ ขนาดเล็ก และระยะเวลาใช้งานที่ยาวนานขึ้น เหมาะกับเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องที่ 2 มากกว่า ดังนั้นควรชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนเลือกซื้อ
Design Of Acer Aspire One Happy2
สิ่งแรกที่เห็นและเกิดความสงสัยในการดีไซน์ของ Happy 2 คงหนีไม่พ้น "รอยหยดน้ำ" ที่ฝั่งอยู่ที่กรอบดูแล้วเหมือนเครื่องบุบแต่จริงๆ คือลายที่มากับเครื่อง นอกจากนี้สีที่ทางเอเซอร์เลือกใช้ในรุ่นนี้ออกแนวพาสเทล ฟ้า ส้ม ขมพู เหลือง เน้นสีที่ดูสบายตา และมีชื่อซับแบนด์อย่าง Aspire One พาดอยู่กึ่งกลางอย่างเด่นชัด
ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 256.5 x 184 x 24 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 1.3 กิโลกรัม ซึ่งเรื่องของการออกแบบภายในไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่กล้องหน้าความละเอียเ 1.3 ล้านพิกเซล หน้าจอ LED ขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล สัดส่วน 16:9
ส่วนของคีย์บอร์ดมีลักษณะเป็นแผงเดียวกัน แต่มีการเว้นช่องไฟระหว่างปุ่ม ซึ่งถ้าเทียบขนาดถือว่าปุ่มค่อนข้างเล็ก ทำให้เวลาใช้งานระยะเวลาหนึ่งจะค่อนข้างเมื่อยนิ้ว ส่วนของเมาส์แพดนั้น รองรับการใช้งานแบบมัลติทัช โดยมีสีเดียวกับฝาเครื่อง ทำให้ดูโดดเด่นจากตัวเครื่องสีขาว การรับสัมผัสทำได้ค่อนข้างดี แม้จะมีขนาดเล็กก็ตาม
ปุ่มเปิดเครื่องจะซ่อนอยู่บริเวณข้อต่อระหว่างเครื่องและหน้าจอ มีไฟสถานะแสดงบริเวณที่พักข้อมือประกอบไปด้วย สถานะการทำงาน แบตเตอรี และการเชื่อมต่อไวเลส และมีไมโครโฟนติดอยู่บริเวณมุมขวาล่างของหน้าจอ
ฝั่งซ้ายเครื่องประกอบไปด้วยช่องเสียบสายชาร์จ แลน ช่องต่อ VGA-Out พัดลมระบายอากาศ และพอร์ตยูเอสบี
ฝั่งขวามีการ์ดรีดเดอร์ ช่องเสียบไมโครโฟนและหูฟัง พอร์ตยูเอสบี 2 พอร์ต และช่องล็อกโน้ตบุ๊ก
หลังเครื่องมีลำโพงอยู่ช่วงหน้า ตรงกลางเป็นช่องลมระบายอากาศ โดยมีแบตเตอรีอยู่ส่วนหลังตามปกติ (ภายในที่ใส่แบตเตอรีมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็นออปชันเสริม)
Performance And Benchmark
โดย Acer Aspire One Happy2 จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล อินเทล อะตอม ดูอัลคอร์ รุ่น N570 ความเร็ว 1.66 GHz ที่มีจำนวนคอร์อยู่ที่ 2 คอร์ 4 Threads และรองรับชุดคำสั่ง MMX, SSE 1,2,3,3s, EM64T และ VT-x มี L1 D-Cache ที่ 24x2 KB L1 I-Cache ที่ 32x2 KB และ L2 Cache ที่ 512x2 KB
ในส่วนของเมนบอร์ดเน็ตบุ๊กจะเป็นของ Acer JE06_PT โดยใช้ชิป Atom Host Bridge และ NM10 ในการขับเคลื่อน ขณะที่หน่วยความจำ (แรม) ที่ถูกใส่มากับตัวเครื่องจำนวน 2GB แบบ DDR3
สำหรับกราฟิกชิปที่บรรจุมาบน Happy2 จะเป็นกราฟิกชิปจากอินเทลรุ่น GMA (Graphics Media Accelerator) 3150 ที่รองรับชุดคำสั่งกราฟิก DirectX 9.0c และ Shader Model 3.0
PCMark05 คะแนนที่ทดสอบได้คือ 1829 คะแนน แบ่งเป็นคะแนนซีพียู 1616 คะแนน หน่วยความจำ 2394 คะแนน กราฟิก 502 คะแนน และฮาร์ดดิสก์ 5419 คะแนน
ส่วน PCMark Vantage ที่ความละเอียด 1024 x 768 พิกเซล ได้ 1651 คะแนน แบ่งเป็นคะแนนหน่วยความจำ 511 คะแนน เกม 744 คะแนน เพลง 2110 คะแนน การเชื่อมต่อ 1402 คะแนน ผลิตภัณฑ์ 1369 คะแนน และฮาร์ดดิสก์ 3397 คะแนน
ทดสอบ 3DMark 06 ที่ความละเอียด 1280 x 1024 พิกเซล คะแนนทดสอบที่ได้คือ 152 คะแนนโดยแบ่งเป็นคะแนน Shader Model 2 = 70 คะแนน ส่วนคะแนนประมวลผลซีพียูจะอยู่ที่ 812 คะแนน
Cinebench R11.5 ในส่วนของการทดสอบด้วยการให้ซีพียูวาดภาพ 3 มิติผลคะแนนที่ได้คือ ในการใช้ซีพียูวาดคะแนนจะอยู่ที่ 0.53 pts
HD Tach 3.0 มาที่การทดสอบฮาร์ดไดร์ฟ Hitachi ผ่านพอร์ต SATA จะมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 66 MB/s และความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลอยู่ที่ 20.2 ms ส่วน HD Tune Pro ได้ความเร็วเฉลี่ยที่ 63.6 MB/s และอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 18.8 ms
x264 HD BENCHMARK 3.0 ในส่วนของการทดสอบการถอดรหัสไฟล์วิดีโอความละเอียด 720p จะได้ค่าดังต่อไปนี้
ในส่วนของระยะเวลาการใช้งานของ Happy2 นั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน ถ้าใช้งานทั่วไป เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สามารถใช้งานได้ระหว่าง 6-7 ชั่วโมง ขณะที่ถ้าใช้เล่นไฟล์ภาพยนตร์ความละเอียดสูงจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 ชั่วโมง
ส่วนการทดสอบความร้อนของตัวเครื่องให้มีการประมวลผลจากโปรแกรมด้านบนพบว่า เฉลี่ยนความร้อนจะอยู่ที่ราว 60 องศาเซลเซียส และมีขึ้นไปสูงถึง 70 องศาเซลเซียส ซึ่งในจังหวะที่ความร้อนขึ้นสูงตัวเครื่องจะมีการปรับความเร็วรอบของพัดลมส่งผลให้เสียงดังขึ้น เฉพาะความร้อนซีพียูขึ้นสูงสุดที่ 76 องศาเซลเซียส โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 66 องศาเซลเซียส
Feature of Acer Aspire One Happy2
แน่นอนว่าฟีเจอร์สำคัญของ Happy2 คงหนีไม่พ้นการสลัยใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.3 ร่วมกับเว็บเบราว์เซอร์อย่าง Chromium ที่สามารถเข้าถึงการใช้งาน Chrome Web Store ได้ โดยรูปแบบหน้าจอหลักกแบ่งออกเป็น 5 หน้า สามารถจัดเรียงวิตเจ็ตได้ตามต้องการ
โดยตามมาตรฐานที่ให้มา จะมีไอค่อนลัดสำหรับเข้าใช้งาน เว็บเบราว์เซอร์ Chromium เว็บเมล ทอล์ก ปฏิทิน อยู่ด้านล่าง และฝั่งขวามีปุ่มเข้าใช้งานแอนดรอยด์เบราว์เซอร์ เมนูหลัก และตั้งค่า ซึ่งการควบคุมระบบจะใช้เมาส์ในการเคลื่อนลูกศร ประกอบกับปุ่มคลิกขวาในการสัมผัส และปุ่ม Esc ในการย้อนกลับ
แอปพลิเคชันที่ให้มาภายในประกอบไปด้วย เว็บเบราว์เซอร์ เครื่องคิดเลข ปฏิทิน กล้อง นาฬิกา รายชื่อผู้ติดต่อ อีเมล โปรแกรมจัดการไฟล์ รูปภาพ Insyde Market ข้อความ เพลง การเชื่อมต่อ ตัวจัดการพลังงาน ค้นหา ตั้งค่า ทอล์ก เว็บเมล และ Chromium
รูปแบบการตั้งค่าต่างๆเป็นไปตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ที่มีทั้ง ตั้งค่าการเชื่อมต่อ เสียง พลังงาน ความปลอดภัย แอปพลิเคชัน บัญชีผู้ใช้ หน่วยความจำ ภาษา เวลา วันที่ และข้อมูลเครื่อง
ทั้งนี้ในการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้หลัก จำเป็นต้องเข้าไปตั้งค่าเบื้องต้นก่อนในวินโดวส์ ซึ่งรวมถึงการบูทเข้าระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่สามารถตั้งเวลาได้ว่า ถ้าเปิดเครื่องขึ้นมาแล้วไม่มีการใช้งานแอนดรอยด์ระยะเวลาเท่าใด จึงเปลี่ยนเป็นการเข้าวินโดวส์ให้อัตโนมัติ รวมถึงเลือกปิดการเข้าถึงด้วย
การแสดงผลในเว็บเบราว์เซอร์อย่าง Chromium สามารถใช้งานภาษาไทยได้ตามปกติ แสดงผลแฟลชได้ และยังสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆที่ให้บริการอยู่ใน Chrome ได้ทันที ทั้งนี้ตัวเครื่องจำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตขณะใช้งานด้วย
บทสรุป
อย่างที่รู้กันว่าแอนดรอยด์ ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการสำหรับเน็ตบุ๊ก จึงกลายเป็นข้อจำกัดสำคัญในการทำตลาดก็ว่าได้ ถ้าเอเซอร์หันมานำ Chrome OS เข้ามาใส่แทนน่าจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของโปรดักส์ที่มียอดการซื้อน้อยลงอย่างเน็ตบุ๊กได้ต่อไป
ประเด็นหลักของ Happy 2 จึงตกไปอยู่ที่ฮาร์ดแวร์อย่างหน่วยประมวลผล อะตอม ดูอัลคอร์ ที่มาช่วยทลายข้อจำกัดในการรับชมคอนเทนต์ในรูปแบบความละเอียดสูง (HD) และการดีไซน์ สีสันที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่บาดตาบาดใจเหมือนรุ่นแรกที่ออกมาจำหน่ายเพียงแค่นั้น
ถ้าความต้องการยังอยู่ที่เน็ตบุ๊ก Happy 2 ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกน่าสนใจในตลาดขณะนี้ ซึ่งแน่นอนว่าจากระดับราคา คงคาดหวังกับวัสดุและดีไซน์ว่าจะโฉบเฉี่ยวเหมือน แมคบุ๊กแอร์คงไม่ได้ แต่ถ้ามองในเรื่องของการใช้งานแบบ On the go ที่สามารถใช้แบตเตอรีได้นาน 6-7 ชั่วโมง ในระดับราคา 11,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คงตัดสินใจได้ไม่ยาก
ขอชม
- เน็ตบุ๊กดูอัลคอร์ราคาหมื่นต้นๆ
- รองรับ 2 ระบบปฏิบัติการ
- แบตเตอรีใช้งานต่อเรื่อง 6-7 ชั่วโมง
ขอติ
- วัสดุส่วนใหญ่เป็นพลาสติก
- ตัวระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ยังไม่ค่อยสมบูรณ์แบบ
- คีย์บอร์ดมีขนาดเล็กตามตัวเครื่อง
Company Relate Link :
Acer
