Blueberri Amuse 580 TV เป็นเครื่องจีพีเอสเนวิเกเตอร์รุ่นใหม่ ที่นอกเหนือจากความสามารถด้านการนำทางแล้ว ยังมาพร้อมความสามารถด้านความบันเทิงสมบูรณ์แบบ ทั้งดูหนัง ฟังเพลง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว สำคัญคือดูทีวีได้ นอกจากนี้ยังใช้เล่นเกมและเป็นออแกไนเซอร์ได้ ในราคาค่าตัว 17,900 บาท ราคานี้ยังไม่รวมซอฟต์แวร์นำทาง ถ้าเอาซอฟต์แวร์นำทางคุณภาพสูงอย่าง Powermap Z9 ในเครื่องที่เราได้รับมาทดสอบนี้ ก็ต้องควักกระเป๋าเพิ่มอีก 3,000 บาท รวมเป็นค่าตัวเบ็ดเสร็จทั้งสิ้น 20,900 บาท
แม้จะใช้จอภาพขนาด 5 นิ้ว แต่ Blueberri Amuse 580 TV ก็เป็นเครื่องเนวิเกเตอร์ที่มีน้ำหนักเบา คือหนักเพียง 180 กรัม พกพาสะดวกด้วยไซส์ 82.2 x 128.1 x 13 มิลลิเมตร (กว้าง x ยาว x หนา) ถือว่าบางทีเดียว โปรเซสเซอร์ที่ใช้เป็น SIRF Atlas IV 500 MHz ชิปจีพีเอส SiRF GRF3i+ ที่สามารถรับดาวเทียมได้มากถึง 64 ดวง ให้ความแม่นยำสูง หน่วยความจำภายใน 2GB เหลือเฟือสำหรับการประมวลผลไฟล์ต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธ (Bluetooth) ได้ ช่วยให้ปลอดภัยแม้ในขณะขับรถ
ฟรีทีวีดูได้ทุกช่อง 3, 5, 7, 9, 11 และไทยพีบีเอส (Thai PBS) ต้องหมุนเสาอากาศช่วยหน่อย ชัดมากชัดน้อยก็แล้วแต่พื้นที่ เสียงชัดเจนดี แต่เรื่องแสงหน้าจอยังไม่ผ่าน สู้แดดไม่ไหว แม้จะปรับแบ็คไลท์ให้สว่างที่สุดแล้วก็ตาม ภาพนิ่งรองรับไฟล์ JPG, GIF, BMP, Tiff และ PNG ดูได้อย่างเดียว แก้ไขไม่ได้ หมุนภาพได้ ย่อขยายได้
เพลงรองรับไฟล์ WMA9, MP3, WAV และ LRC เล่นซ้ำได้ เล่นสุ่มได้ ลองฟังผ่านหูฟัง ยอมรับว่าเสียงดีมาก มิติชัดเจน มีเนื้อมีหนัง ไม่แห้งแบน เบสลอยเป็นลูกกลมๆ แหลมไม่แสบแก้วหู ส่วนเรื่องวีดีโอรองรับไฟล์ WMV9, MPEG4, MPEG2, AVI, ASF, WMV, RMVB, MP4, MOV, 3GP และ FLV ในส่วนนี้แนะนำว่าควรแปลงไฟล์ลดไซส์ให้เหลือ 480 x 272 พิกเซลซึ่งเท่ากับความละเอียดหน้าจอเสียก่อน รวมถึงอาจลดคุณภาพลงมาเล็กน้อยด้วย มิฉะนั้นอาจมีอาการกระตุกให้ได้เห็น เพราะโปรเซสเซอร์ไซส์เบาที่ให้มา มีความเร็วแค่ 500MHz อันนี้ต้องทำใจ
ในส่วนของการนำทาง Powermap Z9 ยังคงรักษาจุดขายของตัวเองเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งความง่ายในการค้นหาสถานที่ปลายทาง, ความง่ายในการวางแผนเส้นทาง และกราฟิกที่สวยงาม
การค้นหาสถานที่ของ Powermap Z9 นั้น เข้าข่าย “หาอะไรก็เจอ” ไม่ว่าจะค้นหาด้วยชื่อสถานที่ ชื่อถนน หรือพิกัดก็ตาม รายชื่อสถานที่ในฐานข้อมูลของ Powermap Z9 จะถูกจัดวางอย่างเป็นระบบ แยกเป็นจังหวัดและประเภทของสถานที่เอาไว้เรียบร้อย เช่น ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ สถานที่ท่องเที่ยวในเพชรบูรณ์ และปั๊มน้ำมันในบริเวณใกล้ๆ เป็นต้น นอกจากนี้เรายังสามารถกรองผลลัพธ์ตามคำที่เราระบุได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับชื่อถนนและซอยทั่วประเทศ ขณะที่การค้นหาด้วยพิกัด จะรองรับข้อมูลทั้งแบบองศาและแบบทศนิยม หากมองในภาพรวมจะเห็นว่า Powermap Z9 มีความยืดหยุ่นสูงมาก และด้วยความยืดหยุ่นนี้เอง จึงทำให้มัน “ง่าย” สำหรับการค้นหาสิ่งที่ต้องการ
ความง่ายในการวางแผนเส้นทางเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ Powermap Z9 ด้วยฟังก์ชั่น “ค้นหาสถานที่บนเส้นทาง” ทำให้หลังจากที่เราคำนวณเส้นทางไปยังปลายทางได้แล้ว การค้นหาปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊สทั้งเอ็นจีวีและแอลพีจี หรือสถานที่อื่นใดบนเส้นทาง การเพิ่มจุดแวะพัก การจัดเรียงลำดับจุดแวะพักใหม่ ทั้งหมดนี้แค่เรื่องง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
จุดเด่นประการสุดท้ายของ Powermap Z9 คือกราฟิกอาคารแบบ 3 มิติที่สวยงามและเหมือนจริง ความสำคัญของมันคือการสร้างการรับรู้อย่างรวดเร็ว ประเภทเห็นปุ๊บเข้าใจปั๊บ เช่น สมมุติว่าเรากำลังขับรถผ่านหน้าวัดพระแก้ว ที่หน้าจอของเนวิเกเตอร์ก็จะเป็นรูปวัดพระแก้วแบบเหมือนกันเป๊ะๆ รวมถึงอาคารสำคัญอื่นๆ ประโยชน์ในทางอ้อมก็คือ มันช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น คือไม่เสียสมาธิในการขับรถนั่นเอง
การคำนวณเส้นทางของ POWERMAP Z9 ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น จากเดิมที่เน้น “เส้นทางที่สั้นที่สุด” มาเป็น “เส้นทางที่เร็วที่สุด” ซึ่งตรงกับความต้องการใช้งานจริง อย่างไรก็ตามยังมีบ้างในบางเส้นทางที่ยังใช้วิธีเดิมที่จะพาเราวิ่งทะลุซอยทางลัดซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้ลัดอย่างที่คิด กระนั้นในการใช้งานจริงก็ดีกว่าเดิมเยอะเลย
