กลายเป็นคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตที่มียอดสั่งจองสูงในต่างประเทศ และเป็นแท็บเล็ตที่มีเหล่าสาวกหุ่นกระป๋องเขียวให้ความสนใจอย่างมากกับ ASUS Eee Pad Transformer (เอซุส อี-แพด ทรานฟอร์มเมอร์) มาวันนี้ทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ก็ได้สัมผัสและยลโฉมตัวเป็นๆ ของคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ASUS Eee Pad Transformer ก่อนทางเอซุสจะวางขายจริงในช่วงปลายเดือนมิถุนายน
สำหรับคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ASUS Eee Pad Transformer จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 3.1 (Honeycomb) ในส่วนของหน่วยประมวลผลจะผนวกชิป NVIDIA Tegra 2 Dual-Core พร้อมหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว และที่สำคัญสำหรับคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ASUS Eee Pad Transformer จะมาพร้อม Docking Station ที่มีคีย์บอร์ด QWERTY แบบจริงๆ เสมือนเน็ทบุ๊กและ Touchpad ที่ถูกออกแบบมาสำหรับ Android 3.1 ทำให้การใช้ Touchpad บน ASUS Eee Pad Transformer จะเปรียบเสมิอนการใช้เมาส์บนพีซี
นอกจากนั้นระหว่างตัว Pad และ Docking Station ยังสามารถถอดแยกออกจากกันได้ทันทีโดยไม่ต้องปิด-เปิดเครื่องใหม่ อีกทั้งจากการสอบถามกับทีมงานเอซุสเกี่ยวกับเรื่องแบตเตอรี่ภายใน พบว่า ASUS Eee Pad Transformer จะมาพร้อมแบตเตอรี 2 ก้อน ซึ่งถูกติดตั้งอยู่ภายใน Docking Station และภายใน Pad ทำให้การใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถพุ่งสูงถึงประมาณ 9.5 - 16ชั่วโมง
ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อรอบๆ ตัวเครื่องพบว่าทางเอซุสให้พอร์ตมาค่อนข้างครบครันไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB ที่ให้มาถึง 2 พอร์ต และสามารถใช้เชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับ Android 3.1 รวมถึงช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำ พอร์ต HDMI ที่สามารถส่งวิดีโอความละเอียด 1080p ออกไปสู่จอทีวี และที่สำคัญช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ Micro-SD ที่จะถูกเปิดใช้กับ Android 3.1 แล้ว
มาที่ส่วนของกล้องถ่ายภาพจะมาพร้อมความละเอียดสูงสุดที่ 5MP สำหรับกล้องด้านหลัง ส่วนกล้องด้านหน้าจะมีความละเอียดอยู่ที่ 1.2MP ในส่วนของน้ำหนักตัวเครื่องรวมกับ Docking Station จะอยู่ที่ประมาณ 1 กิโลกรัมกว่าๆ ซึ่งถ้าเทียบกับแท็บเล็ตแบรนด์อื่นแล้วถือว่าค่อนข้างหนักพอสมควร
มาดูที่ตัวโอเอสนอกจาก ASUS Eee Pad Transformer จะเลือกใช้ Android 3.1 แล้ว ทางเอซุสยังเลือกพัฒนา UI บางส่วนขึ้นมาเองในชื่อ ASUS Launcher ที่จะมาพร้อม Widget แสดงภูมิอากาศ E-Mail และปฏิทินขนาดย่อม นอกจากนั้นซอฟท์แวร์ในตัวแท็บเล็ตที่ให้มานอกจากแอปฯ พื้นฐานแล้วยังมาพร้อมแอปฯ ที่ทางเอซุสเป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเองในชื่อ My Cloud ที่จะผนวกการใช้งานร่วมกับ Web Storage (คล้ายบริการ iCloud ของแอปเปิล) ในการสำรองข้อมูลและคุณสมบัติพิเศษอย่างระบบ Remote Control ที่สามารถโคลนหน้าจอจากคอมพิวเตอร์หรือเครื่องแมคอินทอชให้มาปรากฏบน Pad ผ่านการเชื่อมต่อ WiFi
โดยในส่วนของการทดสอบ ASUS Eee Pad Transformer แบบคร่าวๆ พบว่า สัมผัสแรกที่ได้ลองใช้งานค่อนข้างลื่นไหล ตรงส่วนนี้อาจเป็นเพราะระบบปฏิบัติการ Android 3.1 ที่มีการปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และในส่วน Touchpad ที่ถือว่าเป็นจุดขายสำคัญจากการทดลองใช้งานพบว่า การใช้งานสามารถทำได้แบบเดียวกับ Touchpad บนโน้ตบุ๊ก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Pointer ที่มาพร้อมกับ Android 3.1 และการใช้งานที่ค่อนข้างลื่นไหลอย่างมาก
ในส่วนของคีย์บอร์ดพบว่านอกจากแป้นพิมพ์แล้วยังมีส่วนของปุ่ม Shortcut สำหรับเรียกหน้าเมนู Android ขึ้นมาแบบเดียวกับการสัมผัสบนหน้าจอ ส่วนการถอดแยกระหว่างฐาน Docking กับตัว Pad ก็สามารถทำได้ตลอดเวลาที่ต้องการ โดยเมื่อเกิดการถอดแยกเกิดขึ้นในระหว่างที่ผู้ใช้กำลังใช้งานคีย์บอร์ดอยู่ระบบจะทำการตัดเข้าสู่ Virtual Keyboard ที่มาพร้อมแป้นภาษาไทยอย่างอัตโนมัติ
สำหรับการทดสอบเล่นเกมเนื่องจากหน่วยประมวลผลที่ให้มากับ ASUS Eee Pad Transformer เป็น NVIDIA Tegra 2 ทำให้การเล่นเกมสามมิติทำได้ค่อนข้างลื่นไหล อีกทั้งในส่วนของหน้าจอ IPS และการประกอบตัวเครื่องที่ค่อนข้างแข็งแรง เอซุสคุยว่าหน้าจอสามารถทนการขีดข่วนของมีดได้ นอกจากนั้นอีกหนึ่งส่วนที่ทีมงานได้เข้าไปทดสอบใช้งานและเกิดความประทับใจก็คือเรื่องของ Google Maps ที่เป็นการผนวกระหว่าง GPS + E-compass ในระบบทำให้สามารถใช้นำและยังสามารถดึงระบบนำทางจากสมาร์ทโฟน garminasus ให้มาปรากฏบน Eee Pad ได้อีกด้วย (แต่ยังไม่ได้ทดสอบความแม่นยำ เพราะสถานที่และเวลาไม่อำนวย)
สุดท้ายสำหรับข้อสังเกตหลังจากการทดลองใช้งานเป็นเวลาร่วมชั่วโมงพบว่า ตัวเครื่องเมื่อประกบส่วน Pad และคีย์บอร์ด Docking เข้าด้วยกันจะมีน้ำหนักค่อนข้างมากพอสมควร (เทียบกับแท็บเล็ตแบรนด์อื่น)
**สำหรับเครื่องที่ทีมงานได้ทดสอบใช้งานจะเป็นรุ่น WiFi ส่วน 3G คาดว่าจะนำมาขายในภายหลัง**
สำหรับ ASUS Eee Pad Transformer จะเปิดให้จองเพียง 100 เครื่องเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 27 -30 มิถุนายน 2554 ระหว่างเวลา 9.00 - 17.00 น. ด้วยราคา 14,900 บาท สำหรับ Eee Pad Transformer เพียงอย่างเดียว และราคา 17,900 บาทสำหรับ Eee Pad Transformer + แป้นคีย์บอร์ด Docking Station และสำหรับ 50 คนแรกที่ซื้อ Eee Pad Transformer เฉพาะ Pad จะได้รับส่วนลด 2,000 บาท จากราคาปกติ 14,900 บาท เหลือเเพียง 12,900 บาท โดยราคาทั้งหมดยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม สนใจสั่งจองโทร 086-0828928 และ 083-3077075
Company Related Links :
ASUS