xs
xsm
sm
md
lg

Review : Dell XPS 15 "Sandy Bridge" ลำโพงเยี่ยม! แบตฯอึด! ออปชันครบครัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ห่างหายจากการทดสอบแบรนด์โน้ตบุ๊ก Dell ไปเสียนาน มาวันนี้ทาง Dell เลยจัดโน้ตบุ๊กในตระกูล XPS มาให้ทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ได้ทดสอบกันอีกครั้ง โดย Dell XPS รุ่นที่ทีมงานรับมาทดสอบนี้จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล Intel 2nd Generation Processor (Sandy Bridge) และกราฟิกชิป NVIDIA GeForce GT540M พร้อมลำโพงสเตอริโอแนบ Subwoofer จาก JBL มาให้ด้วย ซึ่งในส่วนของประสิทธิภาพจะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ต่อจากนี้ครับ



สำหรับ Dell XPS 15 เครื่องนี้จะมีชื่อรุ่นคือ L502x โดยวัสดุที่ใช้ผลิตในส่วนของฝาปิดเป็น Magnesium alloy ส่วนบริเวณแป้นพิมพ์และด้านล่างจะเป็นพลาสติกด้านที่เก็บรายละเอียดชิ้นงานมาค่อนข้างดีและดูแข็งแรงมาก อีกทั้งตัวโน้ตบุ๊กยังมาพร้อมหน้าจอขนาด 15 นิ้ว รองรับความละเอียดแบบ Full HD (1,920x1,080 พิกเซล)




ในส่วนบริเวณแป้นคีย์บอร์ดจะถูกออกแบบมาให้ดูเรียบๆ คล้ายแม็คบุ๊ก โปร โดยในส่วนของแป้นคีย์จะถูดจัดมาในลักษณะ Chiclet keyboard ตามสมัยนิยม อีกทั้งตัวแป้นคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED ส่องสว่างสำหรับใช้งานเวลากลางคืนได้ด้วย




สำหรับไฟแสดงสถานะการทำงานของฮาร์ดไดร์ฟและไฟแสดงสถานะการชาร์จพลังงานจะถูกติดตั้งอยู่บริเวณส่วนท้ายของตัวเครื่อง ซึ่งเมื่อเปิดฝาพับจอขึ้นมา หน้าจอขนาด 15 นิ้วจะบังส่วนของไฟแสดงสถานะพอดั



มาที่ปุ่มฟังก์ชันพิเศษสำหรับโน้ตบุ๊กรุ่นนี้จะถูกบรรจุอยู่ด้านบนเยื้องขวามือ 3 ปุ่มที่ทำงานแบบ Touch Sensor โดยหน้าที่ของแต่ละปุ่มคำสั่งคือ


ปุ่มแรกจากซ้ายมือจะเป็นปุ่มเรียกหน้าต่าง Windows Mobility Center ขึ้นมาเพื่อใช้ปรับแต่งระบบของตัวเครื่อง ปิด-เปิด Bluetooth, Topuch Pad เป็นต้น


ถัดมาปุ่มตรงกลางจะเป็นปุ่ม Dell Instant Launch ที่สามารถตั้งเป็นปุ่มคีย์ลัด เช่น ตั้งเป็นปุ่มปิด-เปิดจอภาพหรือตั้งเป็นปุ่ม Mute เสียงได้


สุดท้ายจะเป็นปุ่มเรียกซอฟท์แวร์ Dell Audio ขึ้นมาซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งโปรไฟล์เสียงที่ต้องการผ่านส่วนของ Waves MaxxAudio ที่อยู่ในซอฟท์แวร์ Dell Audio ได้



มาที่ตำแหน่งลำโพงทั้ง 2 ตัวจะถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านข้างคีย์บอร์ดทั้ง 2 ข้าง โดยในส่วนของลำโพง Subwoofer จ่ายเสียงเบสจะถูกติดตั้งไว้ใต้โน้ตบุ๊ก




มาที่ด้านใต้ของโน้ตบุ๊กนอกจากจะมีช่องระบายความร้อนและถ่ายเทอากาศแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถถอดฝาหลังออกเพื่ออัปเกรดในส่วนของหน่วยความจำและเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนสล็อต PCI-Express ได้ตามต้องการ เพียงแต่ในส่วนของความจุฮาร์ดไดร์ฟทาง Dell ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้อัปเกรดเอง



ในส่วนของแบตเตอรี่ขนาด 9 เซลล์ที่ทาง Dell ติดตั้งมาให้กับตัวโน้ตบุ๊กจะมาพร้อมความสามารถในการเช็คประจุไฟที่เหลืออยู่จากภายนอกได้ ด้วยการกดปุ่มที่บริเวณแบตเตอรี่ จะมีขีดไฟแสดงจำนวนประจุที่เหลืออยู่ปรากฏขึ้นดังรูปประกอบด้านบน

I/O Ports



มาในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ รอบๆ ตัวเครื่อง จากด้านหน้าจะเห็นว่ามีเพียงช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำติดตั้งไว้เท่านั้น โดยเครื่องอ่านการ์ดหน่วยความจำที่ติดตั้งมากับโน้ตบุ๊กรุ่นนี้จะอ่านการ์ดได้ตั้งแต่ SD Card/MMC และ MS/MS Pro




ในส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องจากซ้ายมือจะมีเพียงพอร์ต USB3.0 (SuperSpeed) จำนวน 1 พอร์ตและช่องระบายความร้อนจากภายในตัวเครื่องเท่านั้น ส่วนด้านขวามือจากซ้ายจะเป็นไดร์ฟบลูเรย์ถัดมาจะเป็นช่องเสียบหูฟังและลำโพงภายนอก 2 ช่อง (อีกช่องสามารถจ่ายสัญญาณ SPDIF ได้) ขนาด 3.5 มิลลิเมตร จากนั้นจะเป็นช่องเสียบไมโครโฟนและ Combo USB และ eSATA



ส่วนด้านหลังของตัวโน้ตบุ๊กจากซ้ายจะเป็น Mini Display Port, HDMI, Ethernet Port, TV Input, A/C Adapter, USB3.0 และช่องคล้องสายล็อค

Specifications



ในส่วนสเปกของ Dell XPS 15 จะใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i7 2630QM ความเร็ว 2.0GHz (เมื่อเปืด Turbo Boost ความเร็วจะอยู่ที่ 2.90GHz ในส่วนของแคชระดับ L3 จะอยู่ที่ 6MB และในส่วนของคอร์ทำงานจะอยู่ที่ 4 คอร์ 8 Threads

ด้านหน่วยความจำทาง Dell ได้ใส่มาให้เต็มๆ ถึง 8GB 1,333MHz DDR3 บนการทำงานแบบ Dual Channel และในส่วนของชิปเซ็ท Southbridge ที่ใช้จะเป็น Intel HM67



ด้านกราฟิกชิป สำหรับ Dell XPS 15 รุ่นนี้จะใช้ NVIDIA Optimus ในการควบคุมการทำงานระหว่าง Intel HD Graphics 3000 สำหรับใช้เพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอรี่โน้ตบุ๊ก และ NVIDIA GeForce GT 540M สำหรับใช้เพื่อเน้นประสิทธิภาพการใช้งาน โดยในส่วนของสเปกกราฟิกชิป GeForce GT 540M จะรองรับชุดคำสั่ง DirectX 11 และ Shader Model 5.0 เต็มรูปแบบ อีกทั้งตัวชิปยังแนบออปชัน CUDA และ PhysX มาให้ด้วย

Dell Software





ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญที่จะเป็นตัวตัดสินความคุ้มค่าในการตัดสินใจซื้อโน้ตบุ๊กแต่ละรุ่น โดยใน Dell XPS 15 รุ่นที่ทีมงานทดสอบจะมาพร้อมซอฟท์แวร์อำนวยความสะดวกและซอฟท์แวร์เสริมการใช้งานมากมายอย่างซอฟท์แวร์ WiDi สำหรับใช้ร่วมกับอุปกรณ์ WiDi Router สำหรับส่งสัญญาณภาพไร้สายแบบ HD ไปยังจอโทรทัศน์ LCD/LED ได้ (โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ใช้ WiFi ของ Intel Centrino Advanced N6230) หรือซอฟท์แวร์ Local Backup ที่สามารถใช้สำรองข้อมูลในตัวเครื่องได้ เป็นต้น



ในส่วนซอฟท์แวร์ที่ถือเป็นไม้ตายเฉพาะของ Dell XPS คงอยู่ที่ซอฟท์แวร์ชื่อ "Dell Stage" ที่เป็นเหมือน Docking อำนวยความสะดวกในการเรียบกใช้มัลติมีเดียแอปพลิเคชันเฉพาะเช่น



"Dell Music" ที่สามารถใช้เล่นไฟล์เพลงเฉกเช่นเดียวกับ Windows Media Player ได้ และสามารถฟังวิทยุออนไลน์ได้ด้วย


"Photo Stage" ที่สามารถดูรูปภาพได้เกือบทุกนาสกุลพร้อมความสามารถในการแบ่งปันภาพถ่ายเหล่านั้นไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ


"Video Stage" ที่มาพร้อมคุณสมบัติเด่นอย่างการเช่าหรือซื้อภาพยนตร์ผ่านบริการ ROXIO NOW และรับชมผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ทันที

ทดสอบประสิทธิภาพ


3DMark 05 คะแนนทดสอบที่ได้คือ 14,634 คะแนนบนความละเอียดหน้าจอ 1,280x768 + Shader Model 3


3DMark 06 คะแนนทดสอบที่ได้คือ 9,190 คะแนนโดยแบ่งเป็นคะแนน Shader Model 2 = 3,676 คะแนน, HDR/Shader Model 3 = 3,367 คะแนน ส่วนคะแนนประมวลผลซีพียูจะอยู่ที่ 4,892 คะแนน


3DMark Vantage คะแนนรวมที่ได้คือ 4,608 คะแนน แบ่งเป็นคะแนน GPU Score = 3,605คะแนน และ CPU Score = 27,848 คะแนน


3DMark 11 คะแนนรวมที่ได้คือ 1,012 คะแนน แบ่งเป็นคะแนน Graphics Score = 894 คะแนน, Physics Score = 5,898 คะแนน และ Combined Score = 812 คะแนน


PCMark Vantage สามารถทำคะแนนรวมได้ที่ 7,696 คะแนน แบ่งเป็น Memories Score = 5,082 คะแนน, TV and Movies Score = 3,248 คะแนน, Gaming Score = 7,243 คะแนน, Music Score = 7,055 คะแนน, Communications Score = 6,928 คะแนน, Productivity Score = 6,819 คะแนน และ HDD Score = 5,094 คะแนน


Cinebench R11.5 x64 ในส่วนของการทดสอบด้วยการให้ซีพียูวาดภาพ 3 มิติผลคะแนนที่ได้คือ ในการใช้ซีพียูวาดคะแนนจะอยู่ที่ 4.79pts ส่วนกราฟิกแบบ OpenGL จะอยู่ที่ 24.88pts


HD Tach 3.0 มาที่การทดสอบฮาร์ดไดร์ฟ Western Digital Scorpio Black 750GB จะมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 102.7 MB/s และความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลอยู่ที่ 15.8ms


x264 HD BENCHMARK 3.0 ในส่วนของการทดสอบการถอดรหัสไฟล์วิดีโอความละเอียด 720p จะได้ค่าดังต่อไปนี้

encoded 1442 frames, 67.64 fps, 3899.02 kb/s
encoded 1442 frames, 66.63 fps, 3899.02 kb/s
encoded 1442 frames, 67.14 fps, 3899.02 kb/s
encoded 1442 frames, 67.97 fps, 3899.02 kb/s
encoded 1442 frames, 25.46 fps, 3971.96 kb/s
encoded 1442 frames, 24.22 fps, 3963.43 kb/s
encoded 1442 frames, 24.15 fps, 3954.93 kb/s
encoded 1442 frames, 24.66 fps, 3955.81 kb/s


Windows 7 Score


Hyper Pi - 32M ทดสอบการคำนวณค่าพาย 32 ล้านครั้ง โดยผลการทดสอบที่แสดงออกมาจะใช้เวลาทั้งสิ้น 21.25 นาที (สำหรับค่าของคอร์แรก)



Video Encode มาที่การทดสอบในส่วนของการแปลงไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง 1080p (ความยาว 9 นาทีและเปิดใช้งาน CUDA บน NVIDIA กราฟิกชิป) จากฟอร์แม็ต MP4 H.264 ไปสู่ฟอร์แม็ต MP4 สำหรับ iPad ผลที่ได้8nvจะใช้เวลาแปลงไฟล์ทั้งสิ้นเพียง 3.56 นาที


PhysX Benchmark ทดสอบประสิทธิภาพของระบบ PhysX บน CUDA Core 96 ยูนิต คะแนนที่ได้จะอยู่ที่ 137 คะแนน 22 เฟรมต่อวินาที

SiSoftware Sandra


Processor Arithmetic - มีคะแนนในส่วน Dhrystone ALU อยู่ที่ 100.8GIPS ส่วนคะแนนใน Whetstone FPU จะอยู่ที่ 61.3GFLOPS


Memory Bandwidth - มีคะแนนในส่วน Integer Memory Bandwidth อยู่ที่ 17.921GB/s ส่วนคะแนนใน Float Memory Bandwidth จะอยู่ที่ 17.905GB/s


Multi-Core Efficiency - มีคะแนนในส่วน Inter-Core Bandwidth อยู่ที่ 38.952GB/s ส่วนคะแนนใน Inter-Core Latencyจะอยู่ที่ 33ns

Games Performance Test


Final Fantasy XIV - DirectX 9.0c ทดสอบโดยตั้งความละเอียดหน้าจอไว้ที่ 1280x720 พิกเซล (720p) - Default Settings ทำให้คะแนนที่ได้อยู่ที่ 1,870 คะแนน ส่วนที่ความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซล คะแนนจะอยู่ที่ 944 คะแนน


Heaven Benchmark - DirectX 11 ทดสอบที่ความละเอียดหน้าจอ 1,280x720 พิกเซล, Sahders = High, Tessellation = Normal และ Anisotropy ที่ 4 โดยผลการทดสอบจะอยู่ที่ 14.6 เฟรมต่อวินาที


Lost Planet 2 Test A - DirectX 9.0c / DirectX 11 ทดสอบบน DirectX 9.0c โดยตั้งความละเอียดหน้าจอไว้ที่ 1280x720 พิกเซล (720p) และเปิดกราฟิกทุกอย่างสูงสุดทั้งหมด ทำให้คะแนนเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 24.1 เฟรมต่อวินาที ส่วนค่าคะแนนเฟรมเรทเฉลี่ยในชุดคำสั่ง DirectX 11 (เปิด DirectX 11 Option ไว้ที่ Middle) จะได้ค่าคะแนนเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 17.9 เฟรมต่อวินาที


Resident Evil 5 - DirectX 10 ทดสอบที่ความละเอียดหน้าจอ 1,280x720 พิกเซล เปิดออปชันกราฟิกสูงสุดทั้งหมด พร้อมเปิด Motion Blur แต่ปิด Anti-Aliasing โดยคะแนนเฟรมเรทที่ได้จะอยู่ที่ 49.5 เฟรมต่อวินาที แต่เมื่อเปิดใช้ความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซล คะแนนเฟรมเรทจะอยู่ที่ 26.8 เฟรมต่อวินาที

Battery Test สำหรับการทดสอบแบ็ตเตอรี่ทางทีมงานจะแบ่งเป็น 2 การทดสอบคืออันดับแรกจะเป็นการทดสอบโดยตั้งโปรไฟล์พลังงานไว้ที่ Power Save และเปิดใช้งาน WiFi ปกติ พร้อมตั้งความสว่างหน้าจออยู่ที่ประมาณ 50-70% แบ็ตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งอยู่ที่ 5 ชั่วโมง ส่วนเมื่อตั้งโปรไฟล์พลังงานไว้ที่ High Performance จะอยู่ที่ประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น

สรุป



สำหรับโน้ตบุ๊ก Dell XPS 15 "Sandy Bridge" ถือเป็นโน้ตบุ๊กตระกูลท็อปจาก Dell ที่ยังคงรักษามาตรฐานในเรื่องการดีไซน์และออปชันกระชากใจเหล่าแฟนคลับผู้ชื่นชอบโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะถึงแม้ทาง Dell จะใส่กราฟิกชิปมาแค่ระดับกลางๆ แต่ในส่วนของออปชันและหน่วยประมวลผล ทาง Dell ได้เลือกใส่มาให้อย่างน่าสนใจ เช่น ลำโพงสเตอริโอที่ Dell เลือกใช้ลำโพงจาก JBL ที่มาพร้อม Subwoofer และซอฟท์แวร์ประมวลผลเสียง Waves Maxx Audios ที่ให้เสียงที่ดีเยี่ยม หรือในส่วนของซอฟท์แวร์เสริมต่างๆ ที่ให้มาก็สร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย

นอกจากนั้นอีกหนึ่งส่วนที่ถือเป็นข้อดีของโน้ตบุ๊กตัวนี้ก็คงอยู่ที่วัสดุและการเก็บงานตามรอยต่อ ข้อต่อต่างๆ ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างเรียบร้อยและแข็งแรง

ส่วนในเรื่องของประสิทธิภาพ ถึงแม้ทาง Dell จะไม่ได้เน้นจับกลุ่มไปทางเกมเมอร์มากนักเพราะกราฟิกชิปที่ให้มาเป็นเพียงแค่ NVIDIA GeForce GT 540M 2GB DDR3 ซึ่งจากการทดสอบพบว่าสามารถเล่นเกม 3 มิติปัจจุบันได้ระดับพอใช้ และการเล่นเกมบนความละเอียด Native 1080p ส่วนใหญ่จะยังทำได้ไม่ดีนัก

แต่ถ้าลองใช้งานในส่วนของการทำงานมัลติมีเดียเช่น ตัดต่อภาพยนตร์ด้วย Adobe Premiere CS5 หรือใช้งานในการตกแต่งภาพความละเอียดสูง (RAW Files) จำนวนมาก พบว่า Dell XPS 15 กลับทำงานได้ดี เพราะด้วยความละเอียดหน้าจอที่มากถึง 1,920x1,080 พิกเซล ทำให้พื้นที่การใช้งานมีมากขึ้น อีกทั้งทาง Dell ยังได้ติดตั้งไดร์ฟบลูเรย์มาให้สำหรับใช้รับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงซึ่งเมื่อผนวกกับขนาดหน้าจอ ความสดใสของจอภาพและลำโพงที่ติดตั้งมาให้แล้ว พบว่า Dell XPS 15 สามารถตอบสนองงานด้านมัลติมีเดียได้ดีเยี่ยม

และสุดท้ายที่สำคัญก็คือในส่วนของแบตเตอรี่ที่ให้มา 9 เซลล์ ทำให้โน้ตบุ๊กมีอายุการใช้งานที่นานถึง 5 - 6 ชั่วโมงในโหมด Power Save อีกด้วย

ราคาประมาณ 49,900 บาท

ขอชม
- ลำโพงและซอฟท์แวร์เสียงให้เสียงที่ดีเยี่ยม
- กราฟิกชิปสามารถสลับใช้งานได้ ทำให้การจัดสรรพลังงานทำได้ดีขึ้น
- บริเวณฝาปิด-เปิดส่วนจอภาพใช้วัสดุเป็น Magnesium alloy
- ประกัน On site Service 1 ปี
- คีย์บอร์ดมีไฟส่องสว่างอยู่ด้านใต้ สามารถใช้งานในที่มืดได้
- แบตเตอรี่ 9 เซลล์
- มี Windows 7 Home Premium (64 Bit) ลิขสิทธิ์มาให้

ขอติ
- ขนาดหน้าจอ 15 นิ้วกับความละเอียด 1080p ไม่สมดุลกัน ทำให้ขนาดไอคอนหรือตัวอักษรปกติมีขนาดเล็กต้องขยายมากกว่าค่ามาตรฐาน
- ไฟแสดงสถานะการทำงานของฮาร์ดไดร์ฟอยู่ด้านหลังฝาพับบริเวณจอ ยากต่อการมองเห็นขณะใช้งาน

Company Related Links :
Dell














กำลังโหลดความคิดเห็น