หลังจากที่หน่วยประมวลผลอินเทลตระกูล คอร์ไอ รุ่นที่ 2 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมชูคุณสมบัติเด่นๆ ไปหลายส่วน อย่างเช่น เรื่องของการฝังกราฟิกชิปบน Die เดียวกับหน่วยประมวลผลหรือแม้แต่การปรับโครงสร้างรวมถึงการออกแบบใหม่ ทำให้ช่วยลดการบริโภคพลังงานลง
แต่ทั้งนี้มีคุณสมบัติอีกหนึ่งอย่างที่ทางอินเทลพยายามปั้นและผลักดันให้เกิดขึ้นบนโลกของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพา (Laptop) พร้อมกับหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ อย่าง Intel Wireless Display หรือเรียกอย่างย่อๆ ว่า WiDi (ไวได) นั่นเอง
โดยสำหรับตัว WiDi แท้จริงแล้วก็คือระบบรับ-ส่ง สัญญาณภาพและเสียงความละเอียดสูงผ่านระบบเน็ตเวิร์กไร้สาย (ทำงานคล้าย HDMI เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องต่อสายเท่านั้น) ซึ่งความจริง WiDi มีออกมาหลายรุ่นก่อนหน้าตั้งแต่เวอร์ชัน 1.1-1.3 (ในปัจจุบันคือเวอร์ชัน 2.0 ที่สามารถรองรับรับความละเอียดที่สูงถึง 1080p) แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร โดยตัวโน้ตบุ๊กที่สามารถใช้งาน WiDi 2.0 ได้จะต้องใช้หน่วยประมวลผลตระกูล คอร์ไอ รุ่นแรกหรือรุ่นสอง และกราฟิกชิป Intel HD Graphics พร้อมระบบ Wireless Lan จากอินเทลในรุ่น
- Intel Centrino Advanced-N 6200, 6205, 6230, 1030
- Intel Centrino Wireless-N + WiMAX 6250, 6150
- Intel Centrino Wireless-N 1000
- Intel Centrino Ultimate-N 6300
อีกทั้งผู้ใช้จำเป็นต้องซื้อกล่องรับสัญญาณ WiDi ที่ในปัจจุบันจะเป็นของ Netgear ตระกูล Push2TV ในรุ่น PTV2000 และ PTV1000 หรือของแบรนด์อื่นที่มีสัญญลักษณ์ WiDi ติดอยู่ (ดูภาพสัญญลักษณ์ WiDi ได้ที่ Gallery ด้านล่าง) และจำเป็นต้องติดตั้งซอฟท์แวร์ Intel My WiFi และ Intel Wireless Display ก่อนถึงจะสามารถใช้งานได้
หัวใจหลักของการทดสอบครั้งนี้คืออุปกรณ์รับสัญญาณ WiDi - Netgear Push2TV 1000
ซึ่งในวันนี้ทางทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ก็ได้รับชุดทดสอบ WiDi มาจากอินเทลอีกครั้ง โดยตัวโน้ตบุ๊กที่ทีมงานได้รับมาทดสอบจะเป็นสเปก Intel Core i7 2820QM (Sandy Beidge) ซึ่งมาพร้อม Wireless Lan ไร้สายรุ่น Centrino Wireless N1030 และในส่วนของกล่องรับสัญญาณ WiDi จะเป็นของ Netgear ในรุ่น PTV1000 (Engineering Sample) ซึ่งถือเป็นรุ่นเล็ก เพราะรับสัญญาณภาพได้ที่ความะเอียด 720p (1280x720 พิกเซล) ส่วนจอภาพที่ใช้เป็นแอลซีดีมอนิเตอร์ Samsung SyncMaster P2250 เชื่อมต่อผ่านพอร์ต HDMI > HDMI (DVI) และในส่วนของเสียงต่อออกแบบ Analog สเตอริโอ
ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป
คลิปวิดีโอ Hands on Intel Wireless Display 2.0 (WiDi)
ก่อนการทดสอบประสิทธิภาพ ทางทีมงานขอกล่าวถึงลักษณะการใช้งานระบบ WiDi สักเล็กน้อย โดยใน WiDi 2.0 ทางอินเทลได้พยายามอัปเกรดประสิทธิภาพและความง่ายต่อการใช้งานให้เพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเชื่อมต่อจะสามารถได้อย่างง่ายๆ เพราะเป็นระบบ Auto Connect กล่าวคือถ้าผู้ใช้เปิดโปรแกรม Intel Wireless Display และระบบรองรับกันสัญญาณวิดีโอจะส่งผ่านระบบ WiDi ให้อัตโนมัติ
โดยลักษณะการทำงานของ WiDi แท้จริงแล้วก็คือการเชื่อมต่อระหว่างโน้ตบุ๊กและตัวรับสัญญาณ WiDi ผ่าน Wireless Lan แบบ Draft-N อย่างในตัวอย่างที่ทีมงานทดสอบจะเห็นว่าการเชื่อมต่อจะใช้ความเร็วในการรับ-ส่ง ข้อมูลอยู่ที่ 65Mbps ซึ่งเมื่อกล่าวถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดคำถามว่า ระหว่างที่เชื่อมต่อ WiDi อยู่ผู้ใช้สามารถเล่นอินเตอร์เน็ทผ่าน Wireless Lan ได้หรือว่า คำตอบที่ได้คือ สามารถเล่นได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
ในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพด้วยการรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง 1080p โดยเมื่อเชื่อมต่อ WiDi ระหว่างโน้ตบุ๊กกับเครื่องรับสัญญาณเรียบร้อยแล้ว (ในที่นี้ใช้เครื่องรับ Netgear PTV 1000 ซึ่งรองรับความละเอียดสูงสุดแค่ 720p ทำให้หน้าจอของโน้ตบุ๊กและจอภาพต้องปรับความละเอียดหน้าจอลงมา) โดยอย่างแรกภาพที่ได้จากการรับชม เนื่องจากระบบ WiDi ทำงานแบบไร้สายซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องคอขวดในการส่งข้อมูลที่มีน้อยกว่าการสาย HDMI รวมถึงสัญญาณที่ไม่เสถียรทำให้ ภาพที่ได้อาจมีความละเอียดดรอปลงมาบ้าง ซึ่งถ้าสังเกตอย่างละเอียดจะพบว่า การเคลื่อนไหวของภาพเร็วๆ อาจทำให้ภาพเกิดอาการหน่วงเล็กน้อยหรือบางทีอาจมีเม็ดพิกเซลแตกบ้าง แต่ทั้งนี้ถ้ารับชมผ่านไฟล์วิดีโอที่ความละเอียดต่ำลงมาตั้งแต่ 480-720p พบว่าอาการดังกล่าวกลับน้อยลง ส่วนในเรื่องของอัตราการดีเลย์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าทีมงานจะทดสอบกับความละเอียดของไฟล์วิดีโอหรือแม้แต่การใช้งานนำเสนอเอกสาร Presentation จะมีอัตราการดีเลย์ของภาพและเสียงที่ค่อนข้างมาก (เสียงและภาพจากตัวรับสัญญาณ WiDi จะมาหลังเสียงและภาพที่เกิดบนตัวโน้ตบุ๊ก - ถ้าไม่เห็นภาพลองชมคลิปวิดีโอ Hands on ด้านบนครับ)
สำหรับในส่วนของการใช้ชมภาพยนตร์ในฟอร์แม็ตบลูเรย์ ผ่านโปรแกรมอย่าง Power DVD พบว่าไม่สามารถเล่นได้ ซึ่งตรงจุดนี้อาจเกิดจากปัญหาเรื่องระบบ HDCP (High-bandwidth Digital Content Protection) ที่ตัวรับสัญญาณรุ่นนี้ไม่รองรับ แต่ถ้าเป็นบลูเรย์ที่ไม่เข้ารหัสป้องกันมาจะสามารถเล่นได้ แต่ต้องผ่านโปรแกรมอย่าง K-Lite หรือ VLC เท่านั้น เพราะโปรแกรม Power DVD ยังมีปัญหากับตัวไดร์วเวอร์กราฟิกชิปอยู่
ซึ่งสุดท้ายถ้าถามทีมงานว่า WiDi จะสามารถแทนที่ HDMI ได้หรือไม่ สำหรับตอนนี้ คำตอบของทีมงานคงอยู่ที่คำว่า "ไม่" เพราะจากการทดสอบแล้วพบว่าระบบการทำงานของ WiDi ยังมีปัญหาหลักๆ อยู่ที่คอขวดที่เกิดขึ้น (ผลบางส่วนอาจมาจากตัวรับสัญญาณด้วย) ทำให้สัญญาณภาพที่ส่งและรับมาไม่เสถียรเท่าที่ควร แต่ทั้งนี้ถ้าแลกกับความสะดวกสบายแล้วระบบ Intel WiDi ถือว่าสามารถตอบสนองได้ดีระดับหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรการอัปเดตระบบและไดร์วเวอร์ต่างๆ ยังถือเป็นสิ่งจำเป็นที่อินเทลต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ถ้าต้องการให้ WiDi เกิดในอนาคต
Company Related Links :
Intel
