xs
xsm
sm
md
lg

Review : Sony Ericsson C905 ศักดิ์ศรีแห่ง Cyber-shot

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Sony Ericsson C905 Cyber-shot
“Sony Ericsson C905 Cyber-shot” เป็นคาเมร่าโฟนระดับไฮเอนด์ ที่มาพร้อมสมรรถนะและคุณภาพระดับกล้องดิจิตอลไซส์เบา และไม่ใช่แค่เรื่องกล้อง SE C905 ยังมาพร้อมระบบเสียงในระดับสุดยอดที่แทบจะถอดแบบมาจาก Walkman ส่วนฟังก์ชันอื่นๆก็ครบถ้วน ทั้งเรื่องโทร, ข้อความ, บิซิเนส, อินเทอร์เน็ต, GPS, การเชื่อมต่อ, ดีไซน์ และความง่ายในการใช้งาน จะเรียกว่าเป็นคาเมร่าโฟนที่ “บาลานซ์” ที่สุดในตลาดตอนนี้ก็คงไม่ผิด

“Sony Ericsson C905 Cyber-shot” เป็นคาเมร่าโฟนรุ่นล่าสุดจากโซนี่อีริคสัน เป็นผลิตภัณฑ์ระดับเรือธงที่ทางค่ายฯเอาไว้ใช้พิชิตตลาดคาเมร่าโฟนในปีนี้ เปิดตัวครั้งแรกเดือนมิถุนายน 2551 และเริ่มมีให้เห็นในตลาดช่วงฉลองคริสต์มาสที่ผ่านมา จุดเด่นอยู่ที่กล้องแน่นอน ชื่อ Cyber-shot เป็นประกัน แต่เชื่อหรือเปล่าว่า “จุดเด่น” กลับไม่ใช่ “จุดขาย” เพราะถ้าเทียบเฉพาะเรื่องกล้องกับคู่แข่งอย่าง Samsung Innova8 แล้ว คู่นี้เสมอ เพราะต่างเด่นต่างด้อยกันคนละอย่าง ... “ความบาลานซ์” เลยกลายเป็นจุดขายของ C905 แทน คือเด่นในทุกด้าน ทั้งกล้อง เสียง ดีไซน์ และการใช้งาน ถ้าเปรียบเป็นผู้หญิงก็ต้องเป็นประเภทที่ทั้งสวยทั้งเก่ง แถมงานบ้านงานครัวยังเพอร์เฟ็กต์

กล้อง 8 ล้าน ความคมชัดระดับโปรฯ
ฝาเลนส์ดีไซน์สวย สไลด์ลงเพื่อเข้าโหมดถ่ายภาพ
กล้องที่ติดมากับ Sony Ericsson C905 Cyber-shot เป็นกล้องความละเอียดสูง 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้ตั้งแต่ขนาด 640 x 480 พิกเซล (VGA) ไปจนถึง 3264 x 2448 พิกเซล ซูมดิจิตอล 16x พร้อมแฟลชแบบ Xenon เข้าสู่โหมดถ่ายรูปได้ง่ายๆแค่สไลด์เปิดฝาเลนส์ นอกจากนี้ก็ยังมีอีก 2 วิธี คือ (1) กดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้ และ (2) กดปุ่มโหมดกล้องโดยตรง แต่ทั้งสองวิธีหลังนี้ สุดท้ายก็ต้องเปิดฝาเลนส์ตบท้ายด้วยอยู่ดี ใช้เปิดฝาเลนส์ทีเดียวเลยจะง่ายกว่านะ
ตั้งค่าการทำงานของกล้องได้มากมาย
มีระบบช่วยในการถ่ายภาพเยอะแยะ และมีตัวเลือกให้ปรับตั้งค่าการทำงานต่างๆได้มากมาย อาทิ โหมดการถ่ายภาพ 5 โหมด (ปกติ, Smart Contrast ช่วยในการถ่ายภาพซีนที่มี Contrast สูงๆ ช่วยให้เก็บรายละเอียดของวัตถุที่อยู่ในเงามืดได้ดียิ่งขึ้น, BestPic กดชัตเตอร์ครั้งเดียว แล้วเลือกช็อตที่ดีที่สุดจาก 7 ช็อต, Panorama ระบบช่วยถ่ายภาพพาโนรามา ทำให้ภาพทั้ง 3 ช็อตต่อกันได้แนบสนิท, Frames กรอบรูปสวยๆ มีให้เลือกมากถึง 18 แบบ), โหมด Scenes 8 ซีน (ออโต้, วิวกลางคืน, คนกลางคืน, วิวกลางวัน, คนกลางวัน, ชายหาด/หิมะ, กีฬา และเอกสาร)

ขนาดรูป 4 ขนาด (VGA, 3M, 5M, 8M), ระบบโฟกัส (Auto, Face Detection, Macro, Infinite), ระบบแฟลช (Auto, แก้ตาแดง, Off), ตั้งเวลาถ่าย (Off, On ประมาณ 10 วิ), ระบบวัดแสง (เฉลี่ยทั้งภาพ, เฉพาะจุด), White Balance (Auto, Daylight, Cloudy, Fluorescent, Incandescent), Effect (Off, ขาวดำ, Negative, Sepia, Solarise), Picture Quality (ปกติ, Fine), AF Light (Off, Auto), ป้องกันมือสั่น (Off, On), ชดเชยแสง 2 EV เพิ่มทีละ 0.3 EV
มีปุ่มต่างๆ เหมือนกล้องดิจิตอลปกติ
การปรับตั้งค่าเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้จากเมนู Option แต่เพื่อความสะดวกและความง่ายในการใช้งาน สำหรับบางฟังก์ชันที่มีการใช้งานบ่อยๆ โซนี่ฯได้ออกแบบให้มีปุ่มสำหรับเข้าถึงฟังก์ชันเหล่านั้นได้โดยตรงเหมือนกล้องดิจิตอลปกติ เมื่อโทรศัพท์อยู่ในลักษณะพร้อมถ่ายภาพ ปุ่มซอฟต์คีย์ด้านซ้ายมือ (ที่มีแบ็คไลท์สีฟ้าโชว์อยู่) ตัวล่างจะเข้าถึงโหมดถ่ายภาพ ตัวบนจะเข้าถึงโหมดซีน ปุ่มเคอร์เซอร์ด้านขวามือ กดซ้ายเลือกระบบโฟกัส กดขวาเลือกระบบแฟลช กดลงตั้งเวลาถ่ายภาพ และกดขึ้นเพื่อตั้งค่าชดเชยแสง

เมื่อเซ็ตทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ถ่ายได้เลย วิธีถ่ายก็เหมือนกล้องปกติ กดชัดเตอร์ลงครึ่งนึงเพื่อให้ระบบออโต้โฟกัสทำงาน พอโฟกัสเสร็จ (ไฟสีเขียวโชว์) ก็กดชัตเตอร์สุด เป็นอันเรียบร้อย ถ่ายเสร็จ กล้องจะแสดงภาพที่เราถ่ายขึ้นมาให้ดูทันทีว่าผลงานเป็นยังไง จากนี้เราจะไปแก้ไขภาพปรับสีแสงความคมชัดเลยก็ได้โดยเลือกจากเมนู Option

คุณภาพยอดเยี่ยม ทุกมุมทุกสภาพแสง

ในสภาพแสงปกติ ภาพมีความคมชัด สีสันสดใสและถูกต้อง ไม่ว่าจะถ่ายวิวหรือถ่ายคน ทุกระบบทำงานได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ White Balance
สภาพแสงปกติ สีสันสดใส White Balance ถูกต้อง
ในซีนที่มี Contrast สูงๆ สามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างดี
สภาพแสงที่มี Contrast สูง เก็บรายละเอียดวัตถุใต้ร่มเงาได้ดี
ลองถ่ายย้อนแสงดู พบว่าควบคุมการฟุ้งของแสงได้ดีมาก
การฟุ้งของแสงน้อยมาก
ในซีนที่ถ่ายย้อนแสง Smart Contrast และ ระบบวัดแสงเฉพาะจุด ช่วยให้อะไรๆดีขึ้นเยอะเลย
ภาพบนวัดแสงปกติ ส่วนภาพล่างวัดแสงเฉพาะจุด
ซูมได้เยอะ แต่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ อย่างว่าแหละ ... ซูมดิจิตอล ... อย่าคาดหวังมาก
ซูม 1x, 3x, 5x, 8x, 11x, 14x, 16x
มาลอง มาโคร ดูบ้าง ระยะชัดเริ่มที่ 10 เซนติเมตร ความคมชัดและสีสัน ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นเดิม
ถ่าย Macro ระยะชัดเริ่มที่ 10 cm
ภาพบนแฟลช Off ภาพล่างแฟลช On, White Balance ทำงานได้ยอดเยี่ยม
ภายใต้สภาพแสงน้อย เปิดแฟลช ปิดแฟลช ทำได้ดี
ค่าการทำงานต่างๆในโหมดวีดีโอ
วิดีโอ แค่ระดับ QVGA

น่าเสียดายที่ Sony Ericsson C905 Cyber-shot ถ่ายวีดีโอความละเอียดได้แค่ระดับ QVGA (320 x 240 พิกเซล) เท่านั้น ขณะที่คู่แข่งทำได้ถึงระดับ VGA (640 x 480 พิกเซล) ที่เฟรมเรตเท่ากันคือ 30 เฟรมต่อวินาที แต่เรื่องสีเนี่ย โซนี่ฯ ทำได้ดีกว่าเยอะ โดยเฉพาะเรื่อง White Balance ถูกต้องตามต้นฉบับ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในโหมดภาพนิ่ง

การเข้าสู่โหมดวิดีโอ สามารถทำได้โดยการสไลด์เปิดฝาเลนส์ หรือกดชัตเตอร์ค้าง หรือกดปุ่มโหมดกล้อง เหมือนกับถ่ายภาพนิ่งนั่นแหละ แต่ถ้าเข้าไปแล้วเป็นการถ่ายภาพนิ่ง ให้กดที่ปุ่มโหมดกล้องซ้ำอีกครั้ง ระบบจะสลับไปเป็นโหมดวิดีโอ

ในโหมดวิดีโอ เราสามารถตั้งค่าต่างๆได้ดังนี้ ความยาววิดีโอ (Normal สำหรับถ่ายช็อตยาวๆ, Picture Message เป็นคลิปสั้นๆ ประมาณ 24 วิ), Light (Off, On), Night Mode (Off, On), ตั้งเวลาถ่าย (Off, On), ไมโครโฟน (Off, On) นอกนั้นเหมือนกับการถ่ายภาพนิ่ง

และเช่นเดียวกัน มีปุ่มลัดเข้าถึงการเซ็ตค่าต่างๆโดยตรง ปุ่มซอฟต์คีย์ ตัวล่างเป็นความยาววิดีโอ ตัวบนเป็น Night Mode ส่วนปุ่มเคอร์เซอร์ กดขวาเพื่อเปิดปิดไฟ กดล่างตั้งเวลา กดบนชดเชยแสง ส่วนกดซ้ายไม่ทำงานในโหมดนี้

สำหรับการโหลดหนังทื่ชื่นชอบลงมือถือเอาไว้ดูในระหว่างเดินทาง แค่พอดูได้เท่านั้น ข้อจำกัดอยู่ที่จอภาพที่รองรับได้แค่ 256K เฉดสี ทำให้ในบางซีนที่มีการไล่เฉดสีมีรอยด่านเป็นคลื่นๆเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในเรื่องสีสันยังคงสดใสและชัดเจน ภาพไหลลื่นไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด

เสียงระดับ Walkman
ไม่ว่าจะฟัง MP3 หรือวิทยุ เสียงดีสุดยอดทั้งคู่
ขึ้นชื่อว่า โซนี่ฯ ถ้าเสียงไม่ดีคงไม่ได้ เพราะศักดิ์ศรี Walkman ค้ำคอ และสำหรับ Sony Ericsson C905 Cyber-shot แม้จะแปะแบรนด์ Cyber-shot แต่เรื่องเสียงก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด ฟังผ่านหูฟังที่มีมาให้ในกล่อง มิติและเวทีเสียงชัดเจนมาก แม้แต่เพลงที่ก็อปมาห่วยๆก็ยังอยู่ในขั้นดี เสียงคนร้องลอย ชัดเจน แต่ไม่โดด มีเสียงดนตรีเป็นแบ็คกราวด์ เสียงเปียโน เสียงกีต้าร์ เสียงแซ็กโซโฟน ชัดเจนดี น้ำเสียงมีมิติ ไม่แห้งแบน ย่านเสียงสูงลอยแต่ไม่แสบหู เสียงเบสอ้วนๆ กลมๆมีเนื้อมีหนังสัมผัสได้ชัดเจน โดยรวมเสียงครบทุกย่านความถี่และกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว ดนตรีเป็นดนตรี ฟังได้อรรถรสมาก

ส่วนการฟังผ่านลำโพงในตัวเครื่อง แม้จะไม่เท่าฟังผ่านหูฟัง แต่ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆที่อยู่ในตลาดแล้ว ดีกว่าหลายขุม เสียงออกมาครบทุกย่านความถี่ แม้จะถูกตัดหัวตัดท้ายออกบ้างเพื่อให้เหมาะกับขนาดลำโพง กระนั้นก็ยังไม่ใช่เสียงแหบๆแห้งๆ มันคือเสียงดนตรีที่ฟังได้เพลิดเพลินดี ไม่ขัดความรู้สึกแต่อย่างใด

ฟังวิทยุ คุณภาพเสียงอยู่ในระดับเดียวกับการฟัง MP3 ภาครับคลื่นทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม จับได้แม่นแทบทุกคลื่น ถ้าสัญญาณไม่อ่อนจนเกินไป และเข้าใจว่าน่าจะมีภาคตัดเสียงรบกวนด้วย เพราะเสียงใสไร้คลื่นแทรกจนน่าแปลกใจ สามารถบันทึกได้ 20 สถานี เพียงพอสำหรับการบันทึกคลื่นที่ถูกใจเก็บไว้ฟัง ไล่ตั้งแต่ 87.50 Mhz ไปจนถึง 108 Mhz

สุดท้าย เรื่องการปรับแก้ไข ทั้งภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ และเพลง เราสามารถปรับแต่ง แก้ไข ตัดต่อ บนโทรศัพท์ได้เลย ไม่ต้องโหลดออกมาทำบนพีซีแต่อย่างใด ผ่านโปรแกรม PhotoDJ, VideoDJ และ MusicDJ

GPS - Google Maps คู่ที่ลงตัว แต่เปลืองตังค์
Google Maps (แถวบน) Wayfinder Navigator 7 (แถวล่าง)
Sony Ericsson C905 Cyber-shot มี GPS มาให้ในตัว แต่จะให้ประโยชน์สูงสุดก็ต่อเมื่อจับคู่กับแผนที่คุณภาพสูง SE C905 ไม่มีแผนที่ในตัว แต่จะใช้แผนที่ Google Maps ซึ่งเวลาใช้งานต้องต่อ GPRS แล้วโหลดผ่าน GPRS มาอีกที

เรื่องแผนที่คงไม่ต้องพูดถึง เพราะผ่านการพิสูจน์กันมามากแล้ว ทั้งเรื่องความละเอียดและความถูกต้อง เหลือก็แต่เรื่อง GPS และเท่าที่สัมผัส GPS ใน SE C905 มีการทำงานที่รวดเร็วมาก ใช้เวลาในการจับสัญญาณไม่เกิน 1 นาทีนับตั้งแต่เริ่มทำงาน ภาครับสัญญาณมีความไวสูง แถมยังแม่นยำดีด้วย ขนาดวิ่งอยู่ใต้ทางด่วนยังจับสัญญาณได้และแม่นมาก

Google Maps กับ GPS ทำอะไรได้บ้าง??? ก็ทำได้ทุกอย่าง เช่น ค้นหาสถานที่ ไม่ว่าจะค้นจาก Search หรือค้นจากหน้าจอแผนที่โดยตรง, add ใส่ Favorite, ค้นหาเส้นทางไปยังจุดหมาย, บอกจุดเลี้ยวจุดขึ้นลงสะพานต่างๆ และติดตามเราไปบนเส้นทางด้วย GPS

Google Maps ทำได้ทุกอย่าง ... ยกเว้น ... นำทางด้วยเสียง ... การนำทางด้วยเสียงจะเป็นหน้าที่ของอีกแอปพลิเคชันหนึ่ง ชื่อว่า Wayfinder Navigator 7 แผนที่ของ Wayfinder จะละเอียดสู้ของ Google Maps ไม่ได้ ดังนั้นการจะหาสถานที่ต่างๆจึงควรหาจาก Google Maps แล้ว add ใส่ Favorite ไว้ก่อน (โปรแกรมทั้งสองตัวนี้จะแชร์ Favorite ร่วมกัน) จะทำให้การกำหนดจุดหมายปลายทางทำได้ง่ายขึ้น น่าเสียดายที่เสียงนำทางเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น เป็นอุปสรรคสำหรับคนไทยพอสมควร (จริงๆแล้วก็เข้าใจไม่ยากอ่ะนะ ภาษาอังกฤษง่ายๆ) แต่ที่สาหัสกว่าก็คือ ที่ติดตั้งมาเป็นโปรแกรมทดลองใช้ (Trial Version) มีอายุการใช้งาน ถ้าจะใช้ต่อก็ต้องเสียตังค์

ทั้งสองแอปพลิเคชัน ระหว่างใช้งานจะมีการเรียกข้อมูลผ่าน GPRS อยู่ตลอดเวลา ใช้ GPS ฟรี ใช้แผนที่ฟรี แต่ GPRS มันไม่ฟรีนะ และค่าบริการในเมืองไทยก็โหดพอสมควร ดังนั้นใครจะใช้งาน GPS ก็ช่างน้ำหนักเงินในกระเป๋าให้ดีๆก่อน ถ้าคิดว่าคุ้มก็ใช้เลย เพราะทั้งคู่สมรรถนะและประสิทธิภาพเชื่อถือได้แน่นอน

นี่กล้องนะ ไม่ใช่โทรศัพท์

Sony Ericsson C905 Cyber-shot
ถ้ามองว่านี่คือโทรศัพท์มือถือ มันจะใหญ่และหนักมาก แต่ถ้ามองว่านี่คือกล้องดิจิตอล นี่แหละลงตัว เพราะกล้องดิจิตอล หลักสำคัญคือต้องมีน้ำหนักพอประมาณ ไม่เบาจนเกินไป จะช่วยให้ถือได้นิ่งเวลาเล็งภาพ ปุ่มฟังก์ชันต่างๆต้องใช้งานง่าย โดยเฉพาะฟังก์ชันที่ใช้บ่อยๆ ทั้งหมดนี้ Sony Ericsson C905 Cyber-shot ผสมผสานได้อย่างกลมกลืน

“สวย หรู ลงตัว” สามคำนี้น่าจะอธิบายความเป็น Sony Ericsson C905 Cyber-shot ได้อย่างชัดเจนที่สุด ถ้ามองว่าเป็นโทรศัพท์ก็สวย เรียบ หรู แต่ออกจะใหญ่ไปหน่อย ถ้ามองว่าเป็นกล้องดิจิตอล ปุ่มควบคุมต่างๆอาจอยู่ในตำแหน่งแปลกๆ ไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ถ้ามองว่ามันเป็นได้ทั้งสองอย่าง นี่แหละใช่เลย ตัวบอดี้ใช้วัสดุ 2 ชนิด ด้านหน้าเป็นพลาสติกแข็งคุณภาพสูงอย่างที่คุ้นเคยกันโดยทั่วไป แต่ด้านหลังเป็นพลาสติกเกรดพิเศษที่ให้ความนุ่มมือเวลาสัมผัส คล้ายยางสังเคราะห์ที่ใช้ทำกริปกล้อง DSLR ปุ่มกดต่างๆเป็นโลหะมีทั้งรมดำ ปัดเงา และโครเมี่ยม เดินเส้นด้านข้างบอดี้ด้วยโครเมี่ยม เมื่อมองดูรวมๆแล้วให้ความรู้สึกหรูหราและไฮโซอย่างยิ่ง
แบ็คไลท์สีสวยมาก
ด้านหน้า โดดเด่นด้วยจอ LCD ขนาด 2.4 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล แสดงผลได้ 262,144 เฉดสี มีกรอบบางๆพอให้รู้ว่านี่ไม่ใช่ทัชสกรีน ใต้จอภาพตีตรา Cyber-shot บ่งบอกศักดิ์ศรีความเป็นกล้องมืออาชีพ ถัดลงมาเป็นพื้นที่สำหรับปุ่มกดต่างๆ แบ่งเป็น 3 คอลัมน์ ซ้าย (เรียงจากบนลงล่าง) เป็นปุ่มซอฟต์คีย์, ปุ่มโทรออก และปุ่มเมนูกิจกรรม ขวาเป็นปุ่มซอฟต์คีย์, ปุ่มวางสายและเปิดปิดเครื่อง และปุ่มเคลียร์ ทั้งสองคอลัมน์เป็นปุ่มโลหะรมดำ มีแบ็คไลท์เป็นสีขาว คอลัมน์กลางเป็นปุ่มเคอร์เซอร์ 5 ทิศทาง กรอบและปุ่มตรงกลางเป็นโลหะโครเมี่ยม พื้นเป็นพลาสติกสีดำเงา มีแบ็คไลท์สีน้ำเงินฝังอยู่ กลับขึ้นไปทางด้านบนเหนือจอภาพ เป็นที่อยู่ของช่องลำโพงหูฟัง ติดๆกันทางด้านซ้ายเป็นเลนส์กล้องตัวที่ 2 สำหรับ VDO Call ปิดทับด้วยกระจกรมดำ ขนาบข้างซ้ายขวาด้วยปุ่มซอฟต์คีย์ สไลด์ฝาด้านหน้าขึ้นจะเผยให้เห็นปุ่มตัวเลข พื้นดำ แบ็คไลท์ขาว และตัดเส้นด้วยโครเมี่ยม
ด้านซ้าย (บน) ด้านขวา (ล่าง)
ด้านซ้าย มีแค่ช่องเสียบ Memory Stick M2 กับช่องเสียบสายชาร์จ / หูฟัง / ดาต้าลิงก์ ส่วนด้านขวามีเยอะหน่อย ได้แก่ ปุ่มควบคุมระดับเสียง / ซูม, ปุ่มดูรูปและวิดีโอ, ปุ่มโหมดกล้อง และปุ่มชัตเตอร์
ด้านหัว (บน) ด้านท้าย (ล่าง)
ด้านบนโล่งๆ ไม่มีอะไร ส่วนด้านล่างมีช่องลำโพงภายนอกกับช่องร้อยสายคล้อง
ด้านหลัง ดูดี ไฮโซ บอดี้ใช้วัสุดนิ่มๆ เหมือนกริปกล้อง DSLR
ด้านหลัง แบ่งเป็นโซนกล้องกับแบตฯ โซนกล้องจะมีฝาปิดเลนส์เรียบร้อยผลิตด้วยวัสดุโลหะปัดเงา ปั๊มแบรนด์ Cyber-shot เพิ่มความไฮโซ สไลด์ฝาปิดเลนส์ลงเผยให้เห็นเลนส์กล้อง เหนือเลนส์กล้องเป็นแฟลช Xenon ด้านขวาของเลนส์เป็นที่อยู่ของกระจกช่วยถ่ายตัวเองและไฟ LED 3 ดวง ส่วนโซนแบตฯ ฝาปิดแบตฯเป็นพลาสติกนิ่มๆ ปั๊มแบรนด์ Sony Ericsson พร้อมโลโก้สีเขียว แบตฯเป็นแบบ Li-Polymer 930 mAh ใต้แบตฯเป็นช่องใส่ SIM

เรื่องความอึดของแบตฯ ต้องบอกว่าหมดเร็วไปหน่อย เริ่มเปิดเครื่องตอน 6 โมงเช้า ใช้ GPS ประมาณ 2 ชั่วโมง มีโทรบ้างเล็กน้อย ใช้ถ่ายรูปไปประมาณ 30 รูป ถ่ายวิดีโอเล่นไม่เกิน 5 นาที แล้วก็ใช้ฟังเพลงตอนช่วงระหว่างวัน ตอนบ่ายนี่ต้องมีชาร์จกันละ ส่วนเรื่องราคา ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2551 อยู่ที่ 19,900 บาท แพงกว่าคู่แข่ง 1,000 บาท

สรุป

Sony Ericsson C905 Cyber-shot เป็นโทรศัพท์รุ่นหนึ่งที่ใช้ง่ายมากๆ ใช้เวลาในการเรียนรู้ไม่นาน พลิกซ้ายพลิกขวาสัก 2-3 ทีก็เล่นเป็นหมดแล้ว แถมยังอึด ไม่มีแฮงค์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เรื่องกล้องอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ถ่ายได้ทุกช็อตทุกโอกาสเท่าที่ใจต้องการ เทียบกับคู่แข่งเรื่องความคมชัดยังเป็นรองอยู่เล็กน้อย แต่เรื่องความถูกต้องของสี ความสดของสี และ White Balance เจ๋งกว่า เรื่องวีดีโอเป็นรอง แต่เรื่องเสียงเหนือกว่าเห็นๆ เรื่องดีไซน์คงแล้วแต่คนชอบ เรื่องอื่นพอๆกัน

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่า จุดขายของ Sony Ericsson C905 Cyber-shot อยู่ที่ความบาลานซ์ ถ้าเน้นเรื่องกล้องอย่างเดียว คู่แข่งทำได้ดีกว่า แต่ถ้าเน้นทั้งกล้อง เสียง และดีไซน์ C905 ลงตัวกว่าเยอะ ขณะที่ราคาเรียกได้ว่าเท่าๆกัน น่าใช้ด้วยกันทั้งคู่ เมื่อเป็นอย่างนี้การตัดสินใจซื้อคงขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนแล้วล่ะ ว่าเจ้าไหนตอบสนองความต้องการของคุณได้มากกว่ากัน

รายละเอียด

กำลังโหลดความคิดเห็น