xs
xsm
sm
md
lg

มะม่วงหิมพานต์พลิกชีวิต - กฟผ. เติมพลังวิสาหกิจชุมชนฯบ้านหาดไก่ต้อย อุตรดิตถ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เรื่องราวของ “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหาดไก่ต้อย” อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของ การไม่ยอมแพ้ต่อข้อจำกัดและอุปสรรคของคนในพื้นที่

จากผืนดินที่เคยถูกมองว่า แห้งแล้ง ขาดแหล่งน้ำ ไม่เหมาะสมต่อการทำการเกษตร กลายเป็นแหล่งผลิตมะม่วงหิมพานต์คุณภาพดีที่สร้างรายได้ สร้างชื่อเสียงและความยั่งยืน เป็นแบบอย่างของการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสอย่างน่าภาคภูมิใจ

จากพื้นที่แร้นแค้น สู่การค้นพบพืชเศรษฐกิจตัวใหม่

ย้อนไปช่วงก่อนปี 2520 บ้านหาดไก่ต้อย ต.หาดล้า อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เป็นชุมชนที่ก่อตั้งขึ้นจากการอพยพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งทางรัฐจัดสรรที่ดินในลักษณะเป็นนิคมสร้างตนเองให้กับชาวบ้าน ที่ดินดังกล่าวมีลักษณะเป็นภูเขาหิน ลูกรัง แห้งแล้ง ขาดแหล่งน้ำ เรียกได้ว่าไม่เหมาะสมต่อการทำการเกษตรซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้าน ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบาก แร้นแค้น

ต่อมาหน่วยงานราชการได้เข้ามาส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกมะม่วงหิมพานต์ ด้วยเห็นว่าเป็นพืชที่ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี ชาวบ้านจึงนำมาปลูกตามที่รัฐส่งเสริม ต้นมะม่วงหิมพานตก็เจริญเติบโต ออกดอกออกผลตามที่คาดหวัง สำหรับเรื่องการเกษตรแล้ว ไม่ว่าจะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ชาวบ้านทำได้ แต่ขายไม่เป็น ยิ่งเรื่องการแปรรูป ยิ่งไม่ต้องพูดถึง นี่เป็นจุดอ่อนของเกษตรกรไทย ดังนั้นผลผลิตที่ได้จึงแทบไม่มีราคา


ยิ่งเป็นมะม่วงหิมพานต์ด้วยแล้ว ผลมีรสชาติที่ไม่ชวนรับประทาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็เปลือกหนา แข็ง กะเทาะไม่ออก ชาวบ้านหาดไก่ต้อยไม่รู้จะทำอย่างไร ขายก็ไม่มีราคา ความหวังค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความท้อแท้ หลายคนเริ่มโค่นทิ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะเก็บไว้อีกเพื่ออะไร

แต่แล้วชาวบ้านก็เริ่มมีความหวังกับมะม่วงหิมพานต์ที่ปลูกจนโต เพราะนายบุญและนางบุญ ปิสา สองตายาย สามีภรรยาแห่งบ้านหาดไก่ต้อย ได้ลองผิดลองถูก หาวิธีการกะเทาะเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เพื่อนำเม็ดข้างในออกมาบริโภค พบว่าวิธีที่จะแกะเม็ดในออกมาได้อย่างง่าย ๆ และเม็ดยังคงรูป ไม่แตกหัก คือต้องนำเม็ดดิบมาแช่น้ำ นำไปต้ม แล้วใช้มีดผ่า แกะเอาเม็ดออกมา


เมื่อนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปคั่ว ไปอบ ก็พบว่ามีรสชาติดี หวาน มัน เนื้อแน่น กรอบ อร่อย เมื่อนำเม็ดที่กะเทาะแล้วไปขาย ก็สามารถสร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้จริง

ชาวบ้านที่นี่จึงมาศึกษาเรียนรู้วิธีการแกะเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ความสำเร็จนี้ค่อย ๆ ขยายตัว ชาวบ้านเริ่มมองเห็นคุณค่าของต้นมะม่วงหิมพานต์ มีคนเริ่มปลูกเพิ่ม ขยายพื้นที่ ดูแลอย่างดี เพราะเป็นพืชเศรษฐกิจทำเงิน จากหมู่บ้านเดียว กลายเป็นทั้งตำบล ทั้งอำเภอ จนปัจจุบันนี้ พื้นที่กว่า 3 หมื่นไร่ ใน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่ปลูกมะม่วงหิมพานต์เป็นผืนแผ่นดินแห่งความหวัง

กฟผ. ร่วมผลักดันให้เติบโตอย่างมีระบบ

เมื่อผลผลิตมีมากขึ้น การรวมตัวจึงเกิดขึ้น เพื่อสร้างอำนาจต่อรอง และสร้างมูลค่าเพิ่ม จากเดิมที่ขายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้แก่พ่อค้าคนกลางต่างจังหวัดในรูปของเม็ดดิบ ซึ่งมีราคาไม่แน่นอน และถูกกำหนดโดยพ่อค้า ชาวบ้านหาดไก่ต้อยจึงรวมตัวกันจัดตั้ง “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหาดไก่ต้อย” เมื่อปี 2548 ภายใต้การนำของ นางวันทรา ผ่านคำ หรือ “พี่แอ๊ด” ประธานกลุ่ม และได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะ “การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)” ที่เปรียบเสมือนเพื่อนและพี่เลี้ยงคนสำคัญ


กว่า 10 ปี ที่ กฟผ. ให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนฯ แห่งนี้ ทั้งในเรื่องงบประมาณ การตรวจวิเคราะห์หาคุณค่าทางโภชนาการของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ พัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์ วิจัยการทำน้ำมะม่วงหิมพานต์เข้มข้น ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปน้ำนมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ร่วมกับสถาบันอาหาร รวมถึงนำกลุ่มร่วมจัดแสดงสินค้าในโอกาสต่าง ๆ ซึ่งเป็นการหาช่องทางการตลาด ในการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภค

ในด้านการวิจัยและพัฒนานั้น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ จากจ.อุตรดิตถ์ แห่งนี้ มีผลการวิจัยยืนยันว่า มีสาร Beta Sitosterol มากที่สุดในประเทศไทย ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดการอักเสบ เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน มีสาร GABA ที่ช่วยในเรื่องระบบประสาทและสมอง รวมถึงเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีประโยชน์ต่อร่างกาย


ลิตภัณฑ์หลากหลายกว่า 14 ชนิด ต่อยอดจนกลายเป็นแบรนด์ประจำจังหวัด

นอกจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารหลากหลายแล้ว ผลมะม่วงหิมพานต์ ก็นำไปทำน้ำมะม่วงหิมพานต์ ส่วนจมูกหรือเม็ดป่น นำไปทำผลิตภัณฑ์น้ำนมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เปลือก ขายให้กับโรงงานเพื่อนำไปบีบเอาน้ำมันสกัดทำเป็นผ้าเบรกรถยนต์ ไม้จากการตัดแต่งกิ่ง ใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการต้มเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ถึงวันนี้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหาดไก่ต้อยได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เม็ดมะม่วงหิมพานต์พร้อมรับประทานกว่า 14 ชนิด มีทั้ง รสต้มยำ รสปาปริก้า รสโนริสาหร่าย รสบาบีคิว รสงาขี้ม่อน คุกกี้ น้ำมะม่วงหิมพานต์ และน้ำนมเม็ดมะม่วงหิมพานต์

ในจำนวนนี้ที่ขายดีที่สุด คือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบน้ำเกลือ ซึ่งเปรียบเสมือน “รสดั้งเดิม” ได้รสของธรรมชาติแท้ ๆ อร่อย และอุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร


นอกจากนี้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แบรนด์ “Queen” ของวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ ได้มีการพัฒนาโดยใช้ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ในกระบวนการอบแห้ง ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ “ผลิตภัณฑ์ชุมชน ลดใช้พลังงาน” ของโครงการส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดใช้พลังงาน

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ที่หวนกลับสู่ชุมชน

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหาดไก่ต้อยยังสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านทุกขั้นตอนการผลิต โดยใช้แรงงานคนในการแกะและกะเทาะเม็ดมะม่วงหิมพานต์อย่างประณีต เพื่อให้ได้เม็ดที่สวยงาม สมบูรณ์ เพิ่มมูลค่าให้สินค้า พร้อมทั้งสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์คือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานรับรองหลากหลาย อาทิ อย. เครื่องหมายทางเลือกสุขภาพ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงการได้รับคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 5 ดาว

ความมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนบ้านหาดไก่ต้อยของสมาชิกฯ นำไปสู่ความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับระดับประเทศ มีรางวัลการันตีมากมาย ทั้งรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 วิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2561 รางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 2567 ประเภทแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 5 ดาว อย. ควอลตี้ อวอร์ด ระดับประเทศ และเป็นหนึ่งในสินค้าขึ้นชื่อของ จ.อุตรดิตถ์ ที่สามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 2.5 ล้านบาท/ปี

สำหรับการบริหารจัดการของวิสาหกิจชุมชนฯ ในด้านผลกำไรนั้น 40% ปันผลกำไรให้กับสมาชิกกลุ่ม 30% สมทบไว้ในกองทุนเพื่อเป็นรากฐานอันมั่นคงของกลุ่มในอนาคต 20% เป็นสวัสดิการให้กับสมาชิก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ช่วยเหลือยามเจ็บป่วย การจัดกิจกรรมสันทนาการ และ 10% เพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นการแบ่งปันกลับคืนสู่ชุมชนและสังคม
เรื่องราวของบ้านหาดไก่ต้อยกับมะม่วงหิมพานต์ จึงไม่ใช่แค่เรื่องผลิตผลทางการเกษตร หรือสินค้าชุมชน แต่คือพลังของวิสาหกิจชุมชน ที่ใช้ความรู้ ภูมิปัญญา นวัตกรรม ความมุ่งมั่นร่วมมือของสมาชิก และหน่วยงานที่เข้ามาร่วมสนับสนุน เปลี่ยนความแร้นแค้น ยากไร้ ให้กลายเป็นความมั่งคั่ง มั่นคง ของคนในชุมชน และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
กำลังโหลดความคิดเห็น