xs
xsm
sm
md
lg

บ้านห้วยบง: ชุมชนริมเขื่อนที่พลิกวิกฤติเป็นอาชีพ สร้างแบรนด์ปลาส้มพื้นถิ่นสู่ตลาดยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

จากหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมเขื่อนอุบลรัตน์ที่เคยเผชิญน้ำท่วมปีแล้วปีเล่า สู่ชุมชนต้นแบบด้านการแปรรูปสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน “วิสาหกิจชุมชนแปรรูปปลาบ้านห้วยบง” ก่อร่างสร้างตัวด้วยความพยายามของชาวบ้าน และการสนับสนุนจาก กฟผ. จนผลิตภัณฑ์ปลาส้มสายเดี่ยวและของดีอีกหลากหลายกลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวทรงพลังที่ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งของชุมชน


จากน้ำท่วมไร่นา…สู่จุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่

ใกล้เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น มีชุมชนแห่งหนึ่งที่เผชิญกับน้ำท่วมไร่นาแทบทุกปีในช่วงฤดูน้ำหลาก นั่นก็คือ “บ้านห้วยบง” อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ผืนน้ำที่ดูเงียบสงบภายนอกนั้นซ่อนความเสียหายของผลผลิต เกิดความยากลำบากทอดยาวมาหลายช่วงชีวิต แต่ภายใต้ความท้าทายนี้ ชุมชนกลับพบคำตอบใหม่ที่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ซึ่งคือ “ปลา” ในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน

ในปี 2546 การลงพื้นที่สำรวจความต้องการของชุมชนโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำไปสู่การค้นพบว่า แม้ไร่นาจะถูกน้ำท่วมจนเพาะปลูกไม่ได้ แต่ผืนน้ำหน้าเขื่อนกลับเต็มไปด้วยปลานานาชนิดที่มีจำนวนมากจนแทบล้นตลาด สิ่งนี้เกิดขึ้นจากความต่อเนื่องของโครงการอนุรักษ์พันธุ์ปลา และการปล่อยปลาในเขื่อนของ กฟผ.

ด้วยโอกาสที่มีอยู่ กฟผ. จึงสนับสนุนชุมชนให้เข้าร่วมการฝึกอบรมกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อลองแปรรูปปลาให้กลายเป็น “ปลาส้ม” อาหารพื้นบ้านที่เปี่ยมเอกลักษณ์จากรสมือของครอบครัวแต่ละหลัง

พี่หนูเพียร เมฆวัน เลขานุการของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปปลาบ้านห้วยบง เล่าให้ฟังว่า แม้ตอนแรกหลายคนยังลังเล แต่ผู้นำชุมชนก็รวมตัวกันชักชวนสมาชิกมาลงมือเรียนรู้ เริ่มสร้างกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีเพียง 10 คน ขึ้นมา เพื่อทดลองทำ “ส้มปลาตอง” ที่ห่อด้วยใบตองสด ๆ หอม ๆ ขายในราคาเพียง 20 บาท จุดประกายอาชีพใหม่ที่ต่อยอดสู่ความสำเร็จในเวลาต่อมา


การดูแลแหล่งน้ำ…สร้างระบบนิเวศให้แข็งแรง

ในขณะเดียวกัน การสนับสนุนจาก กฟผ. ไม่ได้หยุดอยู่แค่ด้านอาชีพ แต่ยังขยายไปสู่การฟื้นฟูระบบนิเวศให้แข็งแรง ชุมชนไม่ได้เน้นเพียงการจับปลา แต่ร่วมกันสร้าง “เขตอนุรักษ์พันธุ์ปลา” เพื่อให้ปลาวางไข่ตามธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย ชาวบ้านจึงกลายเป็นผู้ดูแลเส้นทางชีวิตของปลาเอง นำไปสู่จำนวนปลาที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและเติบโตอย่างสมบูรณ์ตามธรรมชาติ




ควบคู่กันนั้น กฟผ. ยังได้ถ่ายทอดความรู้เรื่องฤดูกาลจับปลาอย่างถูกเวลาและถูกวิธี เพื่อให้การทำประมงอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสมดุล แนวคิดเหล่านี้กลายเป็นพลังสำคัญที่ทำให้บ้านห้วยบงมีวัตถุดิบคุณภาพสูงสำหรับแปรรูปปลาส้ม

จากใบตองสู่แบรนด์ชุมชน: ปลาส้มสายเดี่ยว…รสชาติที่เล่าเรื่องราวของบ้านเกิด

จากแรกเริ่มที่ห่อปลาส้มด้วยกล่องโฟม ชาวบ้านได้ตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม ประกอบกับเริ่มค้นพบเอกลักษณ์ท้องถิ่นและธรรมชาติรอบตัว จึงเลือกใช้ “ใบตอง” จากสวนของชาวบ้านมาห่อปลาส้ม ซึ่งเป็นการต่อยอดรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยในชุมชนอีกด้วย นั่นทำให้ “ปลาส้มสายเดี่ยว” กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ใครเห็นแล้วก็จดจำได้ทันที


ปลาส้มทุกชิ้นผลิตอย่างพิถีพิถันโดยใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น ตั้งแต่ปลาตะเพียน ปลาสวาย ปลานวลจันทร์ และปลานิลสดใหม่กว่า 8,000–9,000 กิโลกรัมต่อเดือน ที่ชาวประมงบ้านห้วยบงออกเรือไปจับมาตั้งแต่เช้ามืด ก่อนส่งขายที่ท่าปลาในหมู่บ้านรุ่งเช้า รวมไปถึงการใช้ข้าวเหนียวสุกสำหรับยัดไส้ที่มาจากไร่นาของชุมชน ช่วยให้เนื้อปลาเกิดรสเปรี้ยวนุ่มกลมกล่อม

แม้ช่วงแรกจะมียอดขายไม่มากนักเพราะผู้บริโภคยังไม่มั่นใจ แต่เมื่อเริ่มออกจำหน่ายในงานชุมชนและมีการปรุงสุกให้ชิม กลิ่นหอมของปลาส้มทอดร้อน ๆ ก็ทำให้ลูกค้าอดใจไม่ไหวที่จะลิ้มลองความอร่อย จนติดใจและกลับมาซื้อซ้ำ สร้างชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว


ความอร่อยที่เดินทางไกล… จากอาหารในบ้านสู่มาตรฐานสากล

หนึ่งในหมุดหมายสำคัญของความยั่งยืนคือการต่อยอดองค์ความรู้ของชุมชน วิสาหกิจชุมชนแปรรูปปลาบ้านห้วยบงมีชื่อเสียงและได้รับรางวัลจนได้รับโอกาสในการเดินทางไปศึกษาการแปรรูปปลา ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเรียนรู้มาตรฐานด้านความสะอาด การผลิต และบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย ก่อนนำกลับมาปรับใช้ในท้องถิ่นโดยยังคงรสชาติแบบดั้งเดิม


วันนี้ ผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปปลาบ้านห้วยบงได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และได้รับการขึ้นทะเบียน OTOP ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ปลาส้มสายเดี่ยว ส้มปลาตะเพียน ส้มปลาสวาย ส้มไข่ปลา ส้มไส้ปลา ปลาแดดเดียว น้ำพริกปลาส้ม ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่างปลาแผ่นทอดกรอบ ที่รับประทานง่าย เหมาะสำหรับเป็นของว่างระหว่างวัน


ด้วยยอดขายเฉลี่ยกว่า 7–8 แสนบาทต่อเดือน ทำให้สมาชิกชุมชนมีรายได้มั่นคงเฉลี่ยครัวเรือนละ 10,000 บาท และมีเป้าหมายจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 บาทในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืน

ความสำเร็จที่พิสูจน์ได้ด้วยรางวัล

ผลงานของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปปลาบ้านห้วยบงได้รับการยอมรับทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรางวัลชนะเลิศ สถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ สาขากลุ่มเกษตรกรแปรรูปสัตว์น้ำ ปี 25596 ได้เข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 สถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ สาขากลุ่มเกษตรกรแปรรูปสัตว์น้ำ ปี 2568 รวมถึงรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย ตอกย้ำถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการในชุมชนอย่างเป็นระบบ


ชุมชนยั่งยืนที่เติบโตไปพร้อมกัน

สิ่งที่ทำให้ชุมชนบ้านห้วยบงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง คือการแบ่งปันความสำเร็จ รายได้ส่วนหนึ่งนำไปสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะของชุมชน ทั้งทุนการศึกษาสำหรับเด็ก งานบุญประเพณีต่าง ๆ หรือการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ ส่งผลให้สมาชิกในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่นและเติบโตไปด้วยกัน

วันนี้ วิสาหกิจชุมชนแปรรูปปลาบ้านห้วยบงมีสมาชิก 24 คน แต่พลังของพวกเขาไม่ได้หยุดอยู่ในพื้นที่ เพราะยังขยายต่อไปสู่สังคมวงกว้างในฐานะ “แหล่งเรียนรู้ต้นแบบ” ที่หลายองค์กรและสถาบันการศึกษาเดินทางมาศึกษาดูงาน เพื่อเรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการ ตั้งแต่กระบวนการจับปลา การแปรรูป ไปจนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์

รสชาติที่เป็นมากกว่าความอร่อย

เรื่องราวของบ้านห้วยบงพิสูจน์ว่า “ความยั่งยืนเกิดจากหัวใจของคนในชุมชนที่ลงมือทำจริง” จากพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมซ้ำซาก วันนี้พวกเขาสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างมาตรฐาน และสร้างชื่อให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างน่าภาคภูมิ


ปลาส้มสายเดี่ยวและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของวิสาหกิจชุมชนฯ นี้ จึงไม่ใช่แค่อาหารรสอร่อย แต่เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมแรงร่วมใจและความเข้มแข็งของชุมชน ซึ่งหากใครได้ลิ้มรสสักครั้งจะไม่เพียงประทับใจกับรสชาติเท่านั้น แต่จะสัมผัสได้ถึงเรื่องราวและเอกลักษณ์ของปลาส้มแห่งนี้ที่ซ่อนอยู่ในทุกคำ

สนใจปลาส้มสายเดี่ยวและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปปลาบ้านห้วยบง โทร. 062 230 6733 / 081 051 9821 Facebook : กลุ่มแปรรูปปลาบ้านห้วยบง ตรา ๑ เดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น