“พิพัฒน์” สั่งเร่งฟื้นฟูถนนสงขลา - ภาคใต้ มอบกรมทางหลวงชนบท คืนเส้นทางให้ประชาชนเร็วที่สุด พร้อมดูแลผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องล่าสุด ถนน ทช. 8 จังหวัดภาคใต้ น้ำท่วม 38 สายทาง
วันที่ 3 ธันวาคม 2568 — นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสงขลาและหลายพื้นที่ในภาคใต้ โดยย้ำว่ากระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยและการสัญจรของประชาชน พร้อมกำชับนายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบทลงพื้นที่ฟื้นฟูเส้นทางที่ได้รับผลกระทบโดยทันที เพื่อให้ประชาชนกลับมาเดินทางได้โดยเร็วที่สุด
นายพิพัฒน์กล่าวว่า ประชาชนในหลายพื้นที่ยังประสบความเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ถนนบางสายไม่สามารถใช้งานได้ จึงได้กำชับกรมทางหลวงชนบท ให้เร่งเปิดเส้นทางที่สามารถใช้งานได้ก่อน ติดตั้งป้ายเตือนในทุกจุดเสี่ยง และบูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัด ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างเร่งด่วนและครอบคลุม พร้อมสั่งให้ทุกหน่วยติดตามระดับน้ำและสภาพถนนในพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง เน้นย้ำว่าการช่วยเหลือประชาชนต้องดำเนินควบคู่ทั้งการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและการส่งต่อความช่วยเหลือด้านสิ่งของจำเป็น อาทิ ถุงยังชีพและน้ำดื่ม เพื่อประคับประคองชีวิตประชาชนในช่วงวิกฤตนี้
ด้านนายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรจากสำนักงานทางหลวงชนบทในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงการสนับสนุนจากส่วนกลาง ได้แก่ สำนักบำรุงทางและสำนักเครื่องกลและสื่อสาร เข้าดำเนินการฟื้นฟูถนนในจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดทีมสำรวจโครงสร้างสะพานและถนนทุกสายที่ได้รับผลกระทบ พร้อมนำเครื่องมือ เครื่องจักร และวัสดุอุปกรณ์เข้าซ่อมแซมในเบื้องต้นเพื่อให้สามารถเปิดเส้นทางให้ประชาชนสัญจรผ่านได้โดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 6 (ขอนแก่น) ยังร่วมกับสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 14 (กระบี่) จัดเตรียมถุงยังชีพ อาหารแห้ง และน้ำดื่ม เพื่อมอบให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยจะส่งมอบอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ ทช. ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายบอกระดับน้ำ และปักเสาขาว–แดงตลอดแนวเขตทางในทุกจุดเสี่ยง เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบสถานการณ์แบบชัดเจนและปลอดภัยที่สุด
@ล่าสุด ถนน ทช. 8 จังหวัดภาคใต้ น้ำท่วม 38 สายทาง
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด เวลา 14.00 น. พบว่ามีโครงข่ายทางหลวงชนบทใน 8 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส ยะลา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ได้รับผลกระทบรวม 38 สายทาง แบ่งเป็น สัญจรผ่านได้ 30 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้อีก 8 สายทาง โดยกรมทางหลวงชนบทจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งเปิดเส้นทางที่ยังปิดให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว พร้อมเปิดสายด่วน 1146 ให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายพิพัฒน์ย้ำว่า กระทรวงคมนาคมจะทำงานเคียงข้างประชาชนในทุกพื้นที่ประสบภัย เพื่อให้การเดินทางกลับมาปลอดภัยและปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมขอให้ประชาชนติดตามประกาศแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิดและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีความเสี่ยงจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย


