xs
xsm
sm
md
lg

รถไฟฯ ยังงดวิ่งสายใต้ 4 ขบวนต่อ ระดมทีมสำรวจความเสียหาย เร่งซ่อมทาง - ระบบอาณัติสัญญาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การรถไฟฯ แจ้งงดเดินขบวนรถเส้นทางรถไฟสายใต้ จำนวน 4 ขบวน พร้อมปรับเปลี่ยน ขบวนรถสายใต้ 6 ขบวน ตั้งแต่วันนี้ - 6 ธ.ค. 2568 สำรวจความเสียหาย เร่งซ่อมทาง - ระบบอาณัติสัญญาน

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ตามที่เกิดเหตุสถานการณ์น้ำท่วมทางรถไฟในพื้นที่ภาคใต้ที่จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา และพื้นที่โดยรอบ หลังจากระดับน้ำลดลง เจ้าหน้าที่ ฝ่ายการช่างโยธา ได้เข้าสำรวจสภาพทาง พบว่า ทางรถไฟเสียหายจากน้ำพัดหินโรยทางหาย คันทางขาด และเครื่องยึดเหนี่ยวรางชำรุดหลายจุด โดยเฉพาะเส้นทางหลัก ระหว่างสถานีบ้านต้นโดน - ชุมทางหาดใหญ่ สถานีชุมทางหาดใหญ่ - สุไหงโกลก

การรถไฟฯ จำเป็นต้องปิดทาง เพื่อดำเนินการซ่อมแซม และฟื้นฟูสภาพทางรถไฟที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว พร้อมแจ้งปรับเปลี่ยนขบวนรถ จำนวน 6 ขบวน และงดเดินขบวนรถอีก 4 ขบวน เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้อย่างปลอดภัยสูงสุด ตั้งแต่วันนี้ - 6 ธันวาคม 2568 ดังนี้.-

- ขบวนรถปรับเปลี่ยนต้นทาง - ปลายทาง จำนวน 6 ขบวน
1.ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37/38 (กรุงเทพอภิวัฒน์ – สุไหงโกลก - กรุงเทพอภิวัฒน์) ปรับเปลี่ยนเส้นทางให้บริการเป็น กรุงเทพอภิวัฒน์ – พัทลุง – กรุงเทพอภิวัฒน์ (ไม่มีขนถ่าย)

ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 38 จะออกจากสถานีต้นทางในวันที่ 2 ธันวาคม 2568

2. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45/46 (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ปาดังเบซาร์ - กรุงเทพอภิวัฒน์) ปรับเปลี่ยนเส้นทางให้บริการเป็น กรุงเทพอภิวัฒน์ – พัทลุง – กรุงเทพอภิวัฒน์ (ไม่มีขนถ่าย)

ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 46 จะออกจากสถานีต้นทางในวันที่ 2 ธันวาคม 2568

3. ขบวนรถเร็วที่ 169/170 (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ยะลา - กรุงเทพอภิวัฒน์) ปรับเปลี่ยนการให้บริการเป็นเส้นทาง กรุงเทพอภิวัฒน์ - พัทลุง –กรุงเทพอภิวัฒน์

ขบวนรถเร็วที่ 170 จะออกจากสถานีพัทลุง ในวันที่ 2 ธันวาคม 2568

- ขบวนรถงดเดิน จำนวน 4 ขบวน
1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 (กรุงเทพอภิวัฒน์-ชุมทางหาดใหญ่-กรุงเทพอภิวัฒน์)
2. ขบวนรถเร็วที่ 171/172 (กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโกลก-กรุงเทพอภิวัฒน์)

สำหรับประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าในเส้นทางดังกล่าว หากไม่ประสงค์เดินทางสามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้เต็มราคาที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ พร้อมแนะนำให้ผู้โดยสารตรวจสอบข้อมูลการเดินรถก่อนออกเดินทางผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ของ รฟท. ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบเวลาและตำแหน่งขบวนรถแบบเรียลไทม์ได้ทาง https://ttsview.railway.co.th/v3/floodingNST/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ และศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง


@สำรวจความเสียหาย เร่งซ่อมทาง - ระบบอาณัติสัญญาน

โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2568 นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการฯรฟท. ลงพื้นที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมผู้บริหารส่วนกลาง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อสำรวจผลกระทบจากอุทกภัย ตรวจสอบความเสียหายของเส้นทางรถไฟ และติดตามความคืบหน้าในการฟื้นฟูสภาพทางและระบบอาณัติสัญญาน เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดเดินรถได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

นายอนันต์ เปิดเผยว่า หลังระดับน้ำในพื้นที่เริ่มลดลง การรถไฟฯ ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธา และฝ่ายการอาณัติสัญญาณฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพทางและระบบอาณัติสัญญาณที่ได้รับความเสียหายอย่างละเอียด โดยในช่วงระหว่างสถานีบ้านต้นโดน – สถานีชุมทางหาดใหญ่ พบความเสียหาย 9 จุด อาทิ คันทางรถไฟถูกน้ำกัดเซาะจนขาด หินโรยทางสูญหาย และอุปกรณ์ยึดเหนี่ยวรางชำรุดจากแรงน้ำกัดเซาะ


โดยได้กำชับให้ทุกฝ่ายเร่งดำเนินการซ่อมแซมทาง เสริมความมั่นคงของคันทาง ปรับปรุงสภาพราง และตรวจสอบอุปกรณ์ด้านการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณให้กลับมาพร้อมใช้งาน 100% เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดให้บริการเดินรถได้โดยเร็วที่สุด โดยคาดว่าจะสามารถซ่อมปรับปรุงเส้นทางที่ชำรุดเสียหาย (งานโยธา) ให้ขบวนรถสามารถกลับมาเดินได้ถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่ ภายในวันที่ 7 ธันวาคม 2568 และในวันที่ 14 ธันวาคม 2568 คาดว่าจะสามารถ เปิดให้บริการเดินรถในเส้นทางชุมทางหาดใหญ่ – สุไหงโกลก ได้ตามปกติอีกครั้ง

และนอกจากการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานแล้ว การรถไฟฯ ยังเตรียมดำเนินการ Big Cleaning ในพื้นที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ เพื่อทำความสะอาดบริเวณสถานี ล้างโคลน ดูแลพื้นที่สำหรับให้บริการผู้โดยสาร และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมหลังระดับน้ำลดลง ให้สามารถกลับมาพร้อมรองรับผู้โดยสารได้อย่างปลอดภัย


พร้อมกันนี้ ยังได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ซึ่งจัดทำขึ้นโดยกองทุนส่วนกลางการรถไฟฯ เพื่อนำมาให้กับพนักงาน และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง






กำลังโหลดความคิดเห็น