xs
xsm
sm
md
lg

ถนนลงใต้"ทล. 41"วิ่งได้แล้ว กรมทางหลวง ปล่อย คาราวานถุงยังชีพ 10,000 ชุดช่วยหาดใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อัปเดต! ทล. 41 เส้นทางลงใต้วิ่งได้แล้ว แนะ 2 เส้นทางหลัก ทล.41 หรือ ทล.408 อธิบดีกรมทางหลวง นำทีม ทั่วประเทศ ผนึกกำลังเต็มอัตรา! อธิบดีฯ ปล่อย "คาราวาน 10,000 ถุงยังชีพ" และเครื่องจักรหนัก ลุยช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ควบคู่เร่งฟื้นฟูเส้นทาง

กรมทางหลวง (ทล.) รายงานสถานการณ์ล่าสุด (วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ว่า เส้นทางคมนาคมขนส่งทางถนนในการเดินทางลงสู่ภาคใต้ ได้เปิดให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ตามปกติแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ประสบปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเส้นทางหลัก
เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทาง กรมทางหลวงจึงขอแนะนำ 2 เส้นทางหลักที่เป็นทางเลือกในการเดินทางลงสู่ภาคใต้ ดังนี้

1. เส้นทางที่ 1 ทล. 41 สาย สี่แยกปฐมพร-พัทลุง เชื่อมจังหวัดสงขลา/สตูล เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสายหลักที่เปิดให้สัญจรได้ตามปกติแล้ว

2.เส้นทางที่ 2 ทล. 408 สายหัวถนน-ด่านประกอบ(เขตแดนไทย/มาเลเซีย) ทางหลวงสายนี้เป็นเส้นทางทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสัญจรผ่านพื้นที่นครศรีธรรมราชและสงขลา โดยมีรายละเอียดดังนี้

ช่วงที่ 1: ใช้ ทล. 4 ตัดเข้าสู่ ทล. 41 (เชื่อมเมืองชุมพร)
ช่วงที่ 2: ใช้ ทล. 41 ตัดเข้า ทล. 4151 (แยกเข้า อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช)

ช่วงที่ 3: ใช้ ทล. 408 แยกเข้า ทล. 407 (เข้าสู่ อ.สงขลา)
ช่วงที่ 4: ใช้ ทล. 407 เชื่อมเข้าสู่ ทล. 407 และ ทล. 408 เพื่อเดินทางต่อไปยังพื้นที่ปลายทาง


และในวันนี้ นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมโครงการ "จิตอาสาคมนาคม ร่วมบรรเทาผู้ประสบอุทกภัย“ ปล่อยคาราวานถุงยังชีพ รถบรรทุก และเครื่องจักรขนาดใหญ่" มุ่งหน้าลงพื้นที่ประสบอุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อช่วยเหลือและเร่งฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง หลังสถานการณ์น้ำท่วมสร้างความเสียหายและความเดือดร้อนแก่ประชาชนจำนวนมาก

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ทล.ได้ระดมสรรพกำลังปฏิบัติภารกิจสำคัญคู่ขนาน 2 ด้าน ได้แก่

1. ภารกิจจิตอาสาช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ โดยกรมทางหลวงได้จัดส่ง ถุงยังชีพฉุกเฉินจำนวน 10,000 ถุง และสิ่งของจำเป็นที่รวบรวมจากบุคลากรในสังกัดทั่วประเทศ เข้าสู่พื้นที่ประสบภัยทันที พร้อมใช้ศักยภาพด้านยานพาหนะของกรมฯ สนับสนุนการขนส่งและเคลื่อนย้าย โดยระดมรถบรรทุกยกสูงและรถปฏิบัติการเพื่อลำเลียงสิ่งของเข้าพื้นที่ถูกตัดขาด โดยสำนักเครื่องกลและสื่อสารได้ จัดส่งเครื่องจักร เครื่องมือพิเศษสำหรับช่วยกู้ภัย ได้แก่ รถบรรทุกติดเครน 4 คัน พร้อมรถบรรทุกเครื่องจักร 1 คัน (รวม 5 คัน) เข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานในจังหวัดสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมประสานงานและให้ความช่วยเหลือในการ เคลื่อนย้ายประชาชน ผู้ป่วย และทรัพย์สิน ในพื้นที่


2. ภารกิจเร่งซ่อมแซมและฟื้นฟูเส้นทางหลวง ได้แก่
- ฟื้นฟูเร่งด่วน: เร่งสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด และจัดส่ง เครื่องจักรกลหนัก และ ชุดปฏิบัติการซ่อมแซมทาง จากส่วนกลางเข้าสนับสนุนพื้นที่ เพื่อซ่อมแซมทางหลวงที่เสียหายจากน้ำท่วมและ เปิดเส้นทางสัญจรให้กลับมาใช้งานได้ปกติโดยเร็วที่สุด

- แผนทำความสะอาดหลังน้ำลด: เตรียมพร้อมจัดส่ง รถดูดโคลน และ รถดูดกวาด เข้าดำเนินการทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนในลำดับต่อไป

- อำนวยความสะดวก: จัดตั้งจุดบริการและให้ความช่วยเหลือผู้ใช้เส้นทางอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตั้งป้ายเตือนและป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร

กรมทางหลวงขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด เรามีความตั้งใจและพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อดูแลเส้นทางหลวง และบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ"






กำลังโหลดความคิดเห็น