“กุ้ง” เป็นอาหารโปรตีนที่ทั่วโลกมีความต้องการบริโภคเติบโตต่อเนื่อง และในช่วงปี 2033–2034 ตลาดกุ้งโลกถูกคาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นสู่มูลค่าไปถึง 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กุ้งไทยเองในปี 2567 สามารถสร้างรายได้ส่งออกกว่า 4 หมื่นล้านบาท สะท้อนศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยที่ยังมีขีดความสามารถเติบโตได้อีก แต่ผู้เลี้ยงกุ้งวันนี้ต้องเผชิญทั้งความเสี่ยงจากภาวะภูมิอากาศแปรปรวน โรค และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่ลูกค้าทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้น จนนำมาสู่โจทย์ใหญ่ของภาคการผลิตปรับตัวสู่ ระบบการเลี้ยงกุ้งคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Shrimp Farming) เพื่อเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกขั้นตอนการผลิต
กระแสทั่วโลกต้องการบริโภคกุ้งยั่งยืน
“ไพโรจน์ อภิรักษ์นุสิทธิ์” ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจสัตว์น้ำครบวงจรเขตประเทศไทย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำ: ความร่วมมือเพื่ออนาคตยั่งยืน” ภายใต้โครงการ FAO’s Technical Corporation จัดโดย กรมประมง ว่า บริษัทมีนโยบายให้ความสำคัญกับการพัฒนาการผลิตกุ้งที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดรับกับเทรนด์โลก มีส่วนร่วมพัฒนากุ้งไทยให้สามารถแข่งขันได้
“ซีพีเอฟมองเรื่องสินค้ากุ้งยั่งยืนและคาร์บอนต่ำเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะปัจจุบันตลาดกุ้งทั้งญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้นำเข้ากุ้งหลักของโลก ต่างให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ และใช้เรื่องนี้เป็นจุดตั้งต้นในการรับซื้อกุ้งจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก กุ้งต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่า มาจากฟาร์มใด เลี้ยงด้วยระบบใด ในอนาคต ลูกค้าต้องการทราบว่ากุ้งมีการปลดปล่อยคาร์บอนเท่าไร ทางผู้ผลิตรวมถึงเกษตรกรจึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตอบโจทย์เทรนด์ดังกล่าว”
การพัฒนาระบบกุ้งยั่งยืนทำอย่างไร
การเลี้ยงกุ้งคาร์บอนต่ำเป็นส่วนหนึ่งของการเลี้ยงกุ้งที่ยั่งยืน บริษัทให้ความสำคัญตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ เราให้ความสำคัญตั้งแต่เรื่องการจัดหาวัตถุดิบที่ใช้ผลิตอาหารกุ้ง เช่น ปลาป่น กากถั่วเหลือง ตรวจสอบย้อนกลับได้ ว่ามาจากแหล่งผลิตที่ถูกกฎหมาย ใช้แรงงานที่ถูกต้อง ไม่ใช้แรงงานบังคับ การใช้กากถั่วเหลืองก็ต้องมาจากพื้นที่ที่ไม่บุกรุกป่า เป็นต้น
เรื่องการใช้พลังงาน ซีพีเอฟเป็นบริษัทแรกที่ประกาศยกเลิกการใช้ถ่านหินตั้งแต่ปี 2020 โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำทุกแห่งใช้เชื้อเพลิงชีวมวล ที่เป็นวัสดุเหลือทิ้ง อย่างเศษไม้ ซังข้าวโพด และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในโรงงาน และฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้ง เพื่อร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เรื่องการบริหารจัดการน้ำ ใช้หลัก 3R คือ Reuse Recycle Reduce เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกรองน้ำ ช่วยให้สามารถนำน้ำที่ผ่านการกระบวนการเลี้ยงกุ้งหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ ปล่อยน้ำออกสู่ภายนอกให้น้อยที่สุด ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำได้มากกว่า 70% และซีพีเอฟยังถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องหมุนเวียนน้ำแก่เกษตรกรรายย่อยได้นำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความยั่งยืน
การส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกร
“เรื่องการสนับสนุนเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ไทยส่งออกกุ้งไปต่างประเทศมากถึงร้อยละ 70 ของผลผลิตทั้งหมด ลูกค้าและผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มองว่าสินค้าที่เลือกใช้มีการปลดปล่อยคาร์บอนเท่าไร ในส่วนของซีพีเอฟได้มีการส่งเสริมเกษตรกรปรับตัวในเรื่องการเลี้ยงอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด”
แนวทางการส่งเสริมทุกด้าน เช่น ระบบการบริหารจัดการน้ำ ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ระบบการหมุนเวียนน้ำ หรือ รีไซเคิล นำน้ำที่ผ่านการเลี้ยงแล้วกลับมาใช้ใหม่ เพราะระบบนี้เหมาะสมกับประเทศไทย ในฤดูฝนเกษตรกรในน้ำแหล่งความความเค็มต่ำ ไม่สามารถสูบน้ำมาใช้จากภายนอกได้ ระบบการรีไซเคิลน้ำช่วยและยังช่วยป้องกันโรคเข้ามาในบ่อเลี้ยงอีกด้วย
ดังนั้น การทำระบบรีไซเคิลน้ำจึงมีความสำคัญนำน้ำที่ผ่านการใช้กลับมาใช้ประโยชน์ ควบคู่กับการจัดการของเสียในบ่อ ซึ่งมีส่วนช่วยเกษตรกรประสบความสำเร็จได้
อีกเรื่องที่ส่งเสริมเกษตรกรให้ลดการใช้ หรือ Reduce โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ซึ่งซีพีเอฟถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกษตรกรสามารถปรับใช้ เช่น การปล่อยกุ้งเท่าไร การใช้จุลินทรีย์ในอาหาร และในการบำบัดของเสียที่เกิดในบ่อ เพื่อลดการเปลี่ยนถ่ายน้ำ เป็นต้น
‘ผลิตภัณฑ์กุ้งจากซีพีเอฟ’ ช่วยเซฟโลก
ปัจจุบันนี้ ซีพีเอฟเป็นผู้ผลิตอาหารแห่งแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งระยะสั้นและระยะยาวจาก the Science Based Targets initiative (SBTi) และบริษัทยังให้วามสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ โดยสินค้าจากกุ้งของซีพีเอฟได้รับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์แล้ว 40 รายการตั้งแต่อาหารกุ้ง ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ กุ้งสด ไปจนกระทั่งถึงสินค้าแปรรูป เช่น เกี๊ยวกุ้ง บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง เป็นต้น
เป้าหมายของกุ้งยั่งยืน
การพัฒนาระบบเลี้ยงกุ้งยั่งยืน และสร้างสรรค์สินค้าคาร์บอนต่ำ เป้าหมายหลักเรามุ่งจะมีส่วนร่วมในการเดินหน้าสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อรักษาอุณหภูมิของโลกไม่ให้สูงขึ้นกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ทั้งยังเป็นการเสริมห่วงโซ่การผลิตในอุตสาหกรรมกุ้ง ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันไปพร้อมกันด้วย
“ซีพีเอฟ มุ่งเสริมสร้างการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานกุ้งไทยผ่านเทคโนโลยี นวัตกรรม และมาตรฐานสากล พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เพื่อร่วมยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมกุ้งไทยอย่างยั่งยืน ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน แต่ยังมีส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยบนเวทีโลกไปพร้อมกัน”


