xs
xsm
sm
md
lg

7 คำถามที่ควรถามก่อนซื้อประกันชีวิตควบการลงทุน: ตัดสินใจฉลาด ได้ความคุ้มครองจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำหรับข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และ สมาคมประกันชีวิตไทย ได้ระบุไว้ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานอายุ 25–45 ปี ได้มีการเริ่มและหันมาสนใจ “ประกันควบการลงทุน” หรือ “ประกันชีวิตควบการลงทุน” มากขึ้นกว่าเดิมเกือบ 40% เลย ด้วยเหตุผลเพราะคนไทยมองว่าเป็นทางเลือกที่ได้ทั้ง “ความคุ้มครองชีวิต” และ “โอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว” ไว้ในผลิตภัณฑ์เดียวแต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจในรายละเอียดเรื่องค่าธรรมเนียมแฝง เงื่อนไขการลงทุน และการหักค่าใช้จ่ายรายปีหรือรายเดือน จนทำให้ผลตอบแทนจริงไม่เป็นไปตามที่หลายๆ คนได้คาดหวัง หากคุณกำลังพิจารณาซื้อประกันชีวิตควบการลงทุนจากบริษัทชั้นนำอีกมากมาย และวันนี้เราได้นำความรู้ของ 7 คำถามสำคัญที่ควรถามตัวเอง (และตัวแทน) ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้คุณนั้นได้มีการวางแผนทางการเงินให้เกิดความคุ้มค่า

ทำไมต้องถามก่อนตัดสินใจ?


มีหลายคนมองว่า “ประกันชีวิตควบการลงทุน” คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งการออม การลงทุน และความคุ้มครองในผลิตภัณฑ์เดียว จึงทำให้มีหลายๆ คนนั้นรีบตัดสินใจซื้อโดยไม่ศึกษารายละเอียดให้รอบด้าน แต่ในความเป็นจริงกรมธรรม์ประเภทนี้มีความซับซ้อนมากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะเรื่องของโครงสร้างค่าใช้จ่ายและผลตอบแทนที่อาจไม่โปร่งใสหากคุณนั้นไม่อ่านเงื่อนไขให้ละเอียดและชัดเจน

● สิ่งที่ผู้ซื้อควรรู้ กรมธรรม์แบบควบการลงทุนมักมีค่าใช้จ่ายแฝงหลายประเภท เช่น ค่าการดำเนินการประกันภัยสำหรับเบี้ยประกันภัยหลัก ค่าการประกันภัย ค่าบริหารกรมธรรม์ และค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ “เงินที่แท้จริง” ที่ถูกนำไปลงทุน หลายคนจึงพบว่าผลตอบแทนที่ได้รับไม่ตรงกับที่คาดไว้ เพราะเข้าใจว่าเบี้ยทั้งหมดถูกนำไปลงทุนเต็มจำนวน แต่ที่จริงแล้วบริษัทประกันมีการหักค่าใช้จ่ายบางส่วนในทุกปีอีกด้วย
● ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย แน่นอนว่าผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า “ประกันชีวิตควบการลงทุน = การลงทุนเต็ม 100%” แต่ความจริงแล้วผลิตภัณฑ์นี้คือ “ประกันชีวิตที่มีส่วนลงทุนแนบอยู่” ไม่ใช่กองทุนรวมโดยตรง จึงต้องทำความเข้าใจให้ชัดว่าเงินส่วนหนึ่งจะถูกใช้เพื่อความคุ้มครองชีวิต ไม่ได้ถูกนำไปลงทุนทั้งหมดและยังต้องเน้นความสำคัญของ “การตั้งคำถามให้ครบ” เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและยังช่วยให้คุณนั้นได้เลือกแผนที่ตรงกับเป้าหมายการเงินของคุณอีกด้วย

● การตั้งคำถามให้ครบ คือเกราะป้องกันความเข้าใจผิด การตั้งคำถามก่อนซื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เช่น ถามถึงสัดส่วนเงินลงทุนจริง ค่าธรรมเนียมที่ถูกหัก การเลือกกองทุนได้หรือไม่ และเงื่อนไขการเวนคืนก่อนกำหนด เพราะคำตอบเหล่านี้จะช่วยให้คุณประเมินความคุ้มค่าได้อย่างโปร่งใส และสามารถเลือกแผนที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของตัวคุณเอง และยังสามารถป้องกันความผิดพลาดในระยะยาวได้

7 คำถามที่ควรถามก่อนซื้อประกันชีวิตควบการลงทุน
1. เบี้ยขั้นต่ำและเงื่อนไขการชำระเบี้ย
ก่อนตัดสินใจซื้อ ประกันชีวิตควบการลงทุน สิ่งที่ต้องสอบถามให้ชัดเจนคือ เบี้ยประกันขั้นต่ำและเงื่อนไขการชำระเบี้ย เพราะแต่ละแบบประกันอาจกำหนดข้อแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องจำนวนเงินที่ต้องชำระต่อปีและระยะเวลาการชำระ ผู้ซื้อควรถามว่า เบี้ยขั้นต่ำต่อปีเท่าไร เพื่อประเมินความสามารถในการชำระเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และสอบถามด้วยว่า ต้องชำระกี่ปีจึงจะครบสัญญา เพราะการชำระครบตามกำหนดมีผลต่อความคุ้มครองและผลตอบแทนในระยะยาว นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบว่า หากหยุดชำระเบี้ยก่อนครบกำหนด จะกระทบความคุ้มครองชีวิตหรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ หรือไม่ เพราะบางกรมธรรม์อาจยกเลิกความคุ้มครองโดยอัตโนมัติหรือหักเงินจากมูลค่ากองทุน การเข้าใจเงื่อนไขเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้วางแผนกระแสเงินสดได้อย่างรอบคอบ และป้องกันปัญหาการขาดความคุ้มครองหรือเสียสิทธิประโยชน์ในอนาคต

2. ความคุ้มครองชีวิตและความเสี่ยงที่คุ้มครอง
ก่อนตัดสินใจซื้อ ประกันชีวิตควบการลงทุน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าแบบกรมธรรม์นั้นเน้นไปที่ ความคุ้มครองชีวิต หรือเน้น การสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน เพราะทั้งสองเป้าหมายมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน หากเป้าหมายหลักคือ ความคุ้มครองชีวิต กรมธรรม์จะให้วงเงินคุ้มครองสูงและมั่นคง แต่ผลตอบแทนอาจต่ำกว่าการลงทุนโดยตรง ในทางกลับกัน หากเน้น การสร้างผลตอบแทน ส่วนของเบี้ยประกันจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนที่เลือกได้ ซึ่งอาจมีความผันผวนตามตลาด การเข้าใจความเสี่ยงที่คุ้มครองและเป้าหมายของตนเองจะช่วยให้ผู้ซื้อเลือกแบบประกันชีวิตที่สอดคล้องกับแผนการเงินระยะยาว นอกจากนี้ การเปรียบเทียบสัดส่วนระหว่างความคุ้มครองชีวิตและเงินลงทุนจริงในกรมธรรม์ จะช่วยให้คุณประเมินได้ว่าเงินที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าและตรงกับความต้องการทางการเงินมากที่สุด

3. ประเภทของกองทุนและการสับเปลี่ยน (Switching)
สำหรับ ประกันชีวิตควบการลงทุน อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจคือ ประเภทของกองทุนและสิทธิ์ในการสับเปลี่ยน (Switching) เพราะกรมธรรม์แต่ละแบบจะเชื่อมโยงกับกองทุนรวมที่บริษัทประกันกำหนดไว้ ซึ่งอาจมีทั้งกองทุนตราสารหนี้ หุ้น หรือกองทุนผสม การสอบถามให้ชัดเจนว่า สามารถเลือกกองทุนเองได้หรือไม่ และมีตัวเลือกกี่กองทุน จะช่วยให้บริหารพอร์ตการลงทุนได้ตรงกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ นอกจากนี้ควรสอบถามเงื่อนไขการสับเปลี่ยน เช่น สับเปลี่ยนได้กี่ครั้งต่อปี และ มีค่าธรรมเนียมหรือไม่ เพราะการสับเปลี่ยนกองทุนมีผลต่อผลตอบแทนระยะยาว หากเกินจำนวนครั้งที่กำหนดอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม การเข้าใจสิทธิ์และข้อจำกัดเหล่านี้ จะช่วยให้คุณบริหารเงินลงทุนภายใต้กรมธรรม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้น

4. ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของการทำ ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) คือการเข้าใจ “ค่าธรรมเนียม” ให้ครบทุกส่วน เพราะแม้ผู้ซื้อจะมองว่าเบี้ยทั้งหมดถูกนำไปลงทุน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประกันชีวิตควบการลงทุนทั่วไปมักมีการ หักค่าใช้จ่ายหลายประเภท ก่อนเงินจะถูกส่งเข้ากองทุน ซึ่งส่งผลให้เงินลงทุนจริงลดลงและอาจกระทบต่อผลตอบแทนในระยะยาว และแน่นอนว่าค่าธรรมเนียมคุณมักพบเจอนั้น ได้แก่

● Premium Charge (ค่าการดำเนินการประกันภัยสำหรับเบี้ยประกันภัยหลัก): ค่าใช้จ่ายที่หักออกจากเบี้ยประกันภัยเพื่อความคุ้มครองครั้งแรกและครั้งต่อๆ ไป
● Policy Charge (ค่าธรรมเนียมกรมธรรม์): เรียกเก็บเพื่อบริหารและดูแลสัญญา ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่หักทุกเดือนหรือทุกปี
● Cost of Insurance (ค่าการประกันภัย): ส่วนของค่าใช้จ่ายที่ใช้สำหรับความคุ้มครองชีวิต ยิ่งอายุเพิ่ม ค่าความคุ้มครองส่วนนี้ก็จะสูงขึ้น
● Fund Switching Fee (ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนกองทุน): บางบริษัทจำกัดจำนวนครั้งในการสับเปลี่ยนกองทุนต่อปี และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเมื่อเกินจากที่กำหนด
และสิ่งเหล่านี้จะทำให้ “เงินลงทุนสุทธิ” ที่เข้าไปทำงานให้คุณลดลงโดยไม่รู้ตัว แต่ Tokio Beyond แตกต่างเพราะเป็นแผนประกันชีวิตควบการลงทุนที่ “ไม่มีค่าดำเนินการประกันภัยสำหรับเบี้ยประกันภัยหลัก (No Premium Charge)” หมายความว่า เบี้ยที่คุณชำระทุกบาท ถูกนำไปลงทุนเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่มากกว่าในระยะยาว พร้อมสร้างความโปร่งใสให้ผู้ถือกรมธรรม์เห็นภาพชัดเจนว่าเงินของคุณทำงานทางบริษัทได้มีการทำงานอย่างไร

5. เงื่อนไขการถอน / แก้ไข / ยกเลิกกรมธรรม์
ก่อนซื้อ ประกันชีวิตควบการลงทุน สิ่งสำคัญคือทำความเข้าใจเรื่อง สิทธิ์ในการถอนเงิน แก้ไข หรือยกเลิกกรมธรรม์ เพราะการทำธุรกรรมเหล่านี้มีผลต่อเงินลงทุนและความคุ้มครองชีวิต

● การถอนเงินก่อนครบกำหนด: กรมธรรม์หลายแบบจะกำหนดระยะเวลาบังคับถือครอง (Holding Period) หากถอนเงินก่อนครบกำหนด อาจมี ค่าธรรมเนียมการถอน (Surrender Charge) หรือได้รับเงินคืนไม่เต็มจำนวน
● การแก้ไขกรมธรรม์: ควรถามว่าปรับเปลี่ยนเบี้ยหรือสัดส่วนกองทุนได้หรือไม่ และมีข้อจำกัดใด
● การยกเลิกกรมธรรม์: ตรวจสอบว่าเมื่อเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบกำหนด จะได้รับเงินคืนเท่าไร และความคุ้มครองชีวิตจะสิ้นสุดทันทีหรือไม่
การถามและทำความเข้าใจเงื่อนไขเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้วางแผนการเงินได้อย่างรอบคอบ ป้องกันการสูญเสียเงินลงทุนหรือความคุ้มครองโดยไม่ตั้งใจ

6. ผลตอบแทนย้อนหลังและ Benchmark
ก่อนตัดสินใจซื้อ ประกันชีวิตควบการลงทุน สิ่งสำคัญคือศึกษาผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนที่แนบมากับกรมธรรม์อย่างละเอียด เพื่อประเมินแนวโน้มการบริหารและสมรรถนะของกองทุนที่ผ่านมา แม้ผลตอบแทนย้อนหลังจะไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคตได้ แต่สามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ การเปรียบเทียบกับกองทุนประเภทอื่นที่มีนโยบายการลงทุนใกล้เคียง เช่น กองทุน RMF หรือ SSF จะช่วยให้เห็นภาพว่าการลงทุนผ่านประกันควบการลงทุนคุ้มค่าหรือไม่ ทั้งในแง่ของผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี ความเสี่ยง และความผันผวนของตลาด นอกจากนี้การพิจารณา Benchmark หรือดัชนีอ้างอิงของกองทุนยังช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าใจว่าสมรรถนะของกองทุนเทียบกับมาตรฐานตลาดอย่างไร และช่วยประกอบการตัดสินใจว่ากรมธรรม์นั้นเหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินระยะยาวหรือไม่

7. เงื่อนไขภาษีและข้อกฎหมาย
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อ ประกันชีวิตควบการลงทุน ต้องพิจารณาคือเรื่อง สิทธิประโยชน์ทางภาษี และ ข้อกำหนดทางกฎหมาย ของกรมธรรม์ ผู้ถือกรมธรรม์ควรถามให้ชัดเจนว่าเบี้ยประกันที่จ่ายนั้นสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้หรือไม่ เพราะบางแผนอาจจำกัดวงเงินสูงสุดต่อปี หรือมีเงื่อนไขเฉพาะเกี่ยวกับประเภทกรมธรรม์และระยะเวลาการถือครอง นอกจากนี้คุณควรตรวจสอบข้อกฎหมายและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกหรือถือครองกรมธรรม์ เช่น หากเวนคืนก่อนครบกำหนด ระยะเวลาบังคับถือครองหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องอาจส่งผลต่อการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หรืออาจมีข้อจำกัดด้านความคุ้มครองชีวิต การเข้าใจเงื่อนไขเหล่านี้ตั้งแต่ต้นจะช่วยให้ผู้ซื้อวางแผนทางการเงินได้รอบคอบ ป้องกันความผิดพลาด และใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้เต็มที่ตามกฎหมาย

วิธีประเมินคำตอบอย่างชาญฉลาด


● เมื่อคุณพูดคุยกับตัวแทนประกัน สิ่งสำคัญคือการ วิเคราะห์คำตอบอย่างมีสติและรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่ากรมธรรม์ที่เลือกตรงกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ หนึ่งในวิธีที่ควรทำคือ คำนวณสัดส่วนเงินลงทุนจริงเทียบกับเบี้ยที่ชำระ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนใดหักออกไปก่อนนำไปลงทุน อีกทั้งควร เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมระหว่างบริษัท และ อ่านเอกสารกรมธรรม์จริงอย่างละเอียดก่อนเซ็นสัญญา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดหรือเงื่อนไขแฝง
● สำหรับบางแผนประกันในตลาด เช่น Tokio Beyond ของ โตเกียวมารีนประกันชีวิต ก็มีจุดแข็งที่น่าสนใจ คือ ไม่มีค่าดำเนินการประกันภัยสำหรับเบี้ยประกันภัยหลัก (No Premium Charge) ทำให้เบี้ยประกันที่นำไปลงทุนเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่วันแรก ลูกค้าจึงสามารถประเมินผลตอบแทนและติดตามความเคลื่อนไหวของเงินลงทุนได้อย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมา
เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจซื้อ
● เข้าใจวัตถุประสงค์ของการทำประกันของตัวเอง (เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน)
● ตรวจสอบเงื่อนไขค่าธรรมเนียมและการหักเงิน เพื่อให้รู้ว่าเงินลงทุนจริงเหลือเท่าไร
● อ่านข้อกำหนดการถอนเงินและสิทธิ์ของผู้ถือกรมธรรม์อย่างละเอียด
● ปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ เพื่อให้เลือกแบบกรมธรรม์ที่ตรงกับเป้าหมาย

สรุป
การซื้อ ประกันชีวิตควบการลงทุน ไม่ใช่เพียงเรื่องของผลตอบแทนเท่านั้น แต่เป็นการจัดการความเสี่ยงทางการเงินระยะยาวอย่างมีระบบ ผู้ซื้อควรตั้งคำถามและตรวจสอบเงื่อนไขให้ครบถ้วน ทั้งเรื่อง เบี้ยขั้นต่ำ ค่าธรรมเนียม สิทธิ์การสับเปลี่ยนกองทุน การถอนเงิน และเงื่อนไขภาษี เพื่อให้มั่นใจว่ากรมธรรม์ที่เลือกตรงกับเป้าหมายและแผนการเงินของตัวเอง ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มองหาประกันชีวิตควบการลงทุน แบบประกัน Tokio Beyond จากโตเกียวมารีนประกันชีวิต ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้คุณใช้เงินลงทุนได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมได้รับความคุ้มครองชีวิตในเวลาเดียวกัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความคุ้มค่าและความมั่นใจในทุกขั้นตอนของการวางแผนการเงิน


กำลังโหลดความคิดเห็น