xs
xsm
sm
md
lg

“สร้างคนให้พร้อมก่อนสร้างระบบ” คุณเก้าภูพิชญ์ บัวหิรัญพัทธ์ ชี้จุดเปลี่ยนสำคัญขององค์กรยุค AI

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ยุคนี้ไม่ใช่การแข่งขันระหว่างคนกับ AI อีกต่อไป แต่คือการแข่งขันระหว่าง การใช้ AI ในองค์กรอย่างเข้าใจ กับ องค์กรที่ยังไม่เข้าใจมัน” ประโยคนี้คือสิ่งที่ คุณเก้าภูพิชญ์ บัวหิรัญพัทธ์ ผู้ก่อตั้ง Verta X AI พูดขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่สะกิดใจใครหลายคนในวงการธุรกิจได้ไม่น้อย 
คุณเก้าอธิบายว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI ไม่ควรเริ่มจาก “ระบบ” หรือ “เทคโนโลยีล้ำ ๆ” ที่องค์กรอยากนำมาใช้ก่อน แต่ควรเริ่มจาก “คน” และ “ผู้นำ” ในองค์กร เพราะต่อให้ระบบฉลาดแค่ไหน ถ้าคนในทีมยังไม่เข้าใจวิธีคิดใหม่ ๆ หรือยังกลัวการเปลี่ยนแปลง ระบบนั้นก็ไม่อาจสร้างคุณค่าได้จริง

“AI จะไม่มาแทนที่คน แต่จะช่วยให้คนที่พร้อมกว่า ทำงานได้ดีกว่าเดิม” ประโยคนี้ไม่ใช่แค่คำเตือน แต่คือจุดเริ่มต้นของแนวคิด “สร้างคนให้พร้อมก่อนสร้างระบบ” ที่คุณเก้าใช้ผลักดันการเปลี่ยนผ่านองค์กรยุคใหม่

เริ่มที่ผู้นำก่อนระบบ — เมื่อความเข้าใจของผู้นำคือรากฐานของการเปลี่ยนแปลง
หลายองค์กรลงทุนระบบ AI มูลค่าหลายล้านบาท หวังให้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับการทำงาน แต่สุดท้ายกลับไม่เห็นผลลัพธ์ที่คาดหวัง สิ่งที่ขาดไม่ใช่ “เครื่องมือ” หากคือ “ความเข้าใจของผู้นำ”
คุณเก้าภูพิชญ์ บัวหิรัญพัทธ์ ผู้ก่อตั้ง Verta X AI อธิบายอย่างตรงไปตรงมาว่า
“ถ้าผู้นำไม่เข้าใจ AI ก็ไม่สามารถสื่อสารหรือสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ได้”
เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว “ผู้นำกับการใช้ AI” ไม่ได้หมายถึงแค่การอนุมัติโครงการ แต่หมายถึงการเป็นผู้จุดประกายให้ทีมเห็นคุณค่าและโอกาสจาก AI อย่างถูกทิศทาง

 


ถ้าวันนี้ผู้บริหารยังขาดความรู้ ความเข้าใจ หรือแม้แต่ Awareness เรื่องเทคโนโลยี AI
องค์กรก็ยากที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างแท้จริง การเปลี่ยนผ่านจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้นำเริ่มต้นปรับ “AI Mindset” ของตัวเองก่อน
เพราะการเริ่มจากผู้นำไม่ได้แปลว่าให้ผู้นำเรียนรู้เทคโนโลยีเชิงลึก แต่คือการเข้าใจมุมมองใหม่ว่า
“AI ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อแทนที่คน แต่เพื่อขยายศักยภาพของคนให้ก้าวไกลกว่าเดิม”
เมื่อผู้นำเข้าใจบทบาทของ AI อย่างถูกต้อง คำถามต่อมาคือ “แล้วผู้นำควรเริ่มต้นอย่างไร?”
1. เข้าใจพื้นฐานของ AI
ผู้นำไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี แต่ควรรู้ว่า AI ทำงานอย่างไร ช่วยอะไรได้บ้าง และมีข้อจำกัดอะไร เพื่อจะได้ตัดสินใจและสื่อสารกับทีมอย่างถูกทิศทาง
ผู้นำควรเข้าใจว่า AI มีหลายประเภท แต่ละประเภทให้ประโยชน์แตกต่างกัน เช่น สำหรับ Presentation วิเคราะห์ข้อมูลหรือการตลาด และวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนขององค์กร รวมถึงสามารถประยุกต์ใช้กับทุกแผนกเพื่อสนับสนุนงานและการตัดสินใจ
2. สื่อสารวิสัยทัศน์ให้ชัด
ผู้นำต้องทำให้ทีมเห็นว่า AI คือเครื่องมือเสริม ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนคน เพื่อสร้างความมั่นใจและลดความกลัวในการเปลี่ยนแปลง
3. เปิดพื้นที่ให้เรียนรู้และทดลอง
สร้างวัฒนธรรมที่กล้าลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ แม้จะยังไม่สมบูรณ์ เพราะทุกการทดลองคือการเรียนรู้ที่นำไปสู่นวัตกรรมจริง
4. นำด้วยการลงมือทำ
ผู้นำควรใช้ AI ด้วยตัวเองในงานประจำ เช่น การสรุปข้อมูลหรือวิเคราะห์เบื้องต้น เพื่อแสดงให้ทีมเห็นว่า “การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ เริ่มได้จากตัวเรา”
“เมื่อผู้นำเริ่มเข้าใจและใช้ AI อย่างมีเป้าหมาย องค์กรจะไม่รู้สึกว่ากำลังถูกเทคโนโลยีบังคับ แต่จะรู้สึกว่ากำลังใช้เทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนคน”
ดังนั้นเมื่อผู้บริหารมองเห็น AI ในมุมนี้ การ ปรับ mindset ก่อนใช้ AI ในองค์กร จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัฒนธรรมที่พร้อมเรียนรู้ และพร้อมปรับตัวไปกับการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ

หลักคิด “AI Mindset” — จากความกลัวสู่การมองเห็นโอกาส
หลายองค์กรยังติดภาพว่า “AI จะมาแย่งงาน” แต่ในความเป็นจริง AI ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อแทนที่คน หากเพื่อช่วย “ลดงานซ้ำซ้อน” และเปิดโอกาสให้มนุษย์ได้ใช้เวลาไปกับงานที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
สิ่งที่ควรกังวลจึงไม่ใช่ว่า AI จะมาแทนเราไหม แต่คือ วันนี้เรามีสกิลเรื่อง AI แล้วหรือยัง?


เพราะตอนนี้ธุรกิจจำนวนมากเริ่มมองหาคนที่สามารถใช้ AI เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานได้จริง คนที่เข้าใจและใช้เครื่องมือ AI อย่างฉลาด จึงกลายเป็น “ทรัพยากรที่มีคุณค่า” ที่องค์กรต้องการที่สุดในยุคนี้

ในทางกลับกัน ผู้ที่ขาดทักษะ AI อาจพบว่าตนเองถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยไม่รู้ตัว เพราะตลาดแรงงานกำลังสร้างอาชีพใหม่ ๆ จากเทคโนโลยีนี้ เช่น นักออกแบบระบบ AI, นักพัฒนาโมเดลข้อมูล, ที่ปรึกษาการใช้ AI ในองค์กร หรือแม้แต่ผู้ประกอบการที่

สร้างนวัตกรรมตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันด้วย AI
ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการ “อัปสกิล” และ “เพิ่มคุณค่า” ให้ตัวเองด้วยการเรียนรู้การใช้ AI อย่างต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องรู้ลึกทางเทคนิค แต่ควรเข้าใจว่า AI จะช่วยเราอย่างไรในงานประจำ และเราจะใช้มันเพื่อเสริมศักยภาพของตัวเองได้แค่ไหน
ดังนั้นแก่นของ “AI Mindset” คือแนวคิดที่มองว่า AI ไม่ใช่เครื่องจักรที่ต้องระวัง แต่เป็น เพื่อนร่วมทีม (Co-pilot) ที่ช่วยให้เราทำงานได้ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และสร้างคุณค่ามากขึ้น
องค์กรที่ปรับตัวได้เร็วในยุคนี้มักเป็นองค์กรที่ ฝึกให้พนักงานทุกระดับเข้าใจบทบาทของ AI ในงานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร การตลาด การขาย หรือฝ่ายปฏิบัติการ
เพราะหัวใจของ “การใช้ AI อย่างมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-centered AI)” คือการทำให้เทคโนโลยี เสริมศักยภาพคน ไม่ใช่ แทนที่คน เพราะ AI อาจแทนแรงงาน แต่แทนความเป็นมนุษย์ไม่ได้
“AI ที่ดีที่สุด ไม่ใช่ AI ที่ฉลาดที่สุด แต่คือ AI ที่ทำให้คนฉลาดขึ้น”

วิธีเอา AI ไปใช้จริงในองค์กร — จาก Workshop สู่การเปลี่ยนวัฒนธรรม

คุณเก้าภูพิชญ์ และทีม Verta X AI เน้นการ “สอนให้คนได้ลงมือทำจริง” ผ่าน Workshop การใช้ AI สำหรับธุรกิจ ที่ออกแบบเฉพาะตามลักษณะของแต่ละองค์กร
หลักสูตรนี้ การันตีว่าใครก็ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นคนไม่เก่งคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยี เพราะมีวิธีเทรนเฉพาะและ Workshop Hands-on ทำให้ทุกคนสามารถสร้างงานด้วย AI พร้อมกันได้ทันที
วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน AI: คุณเก้าภูพิชญ์ บัวหิรัญพัทธ์
คุณเก้า ถ่ายทอด เทคนิคและประสบการณ์จริงด้าน AI ให้ผู้บริหารและพนักงานในหลากหลายองค์กร พร้อมให้คำปรึกษาและจัด Workshop ที่เน้นการใช้งานจริงเพื่อ ธุรกิจยุคใหม่
“เส้นทางความเชี่ยวชาญของ คุณเก้า”
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรนนิ่ง การใช้ AI สำหรับองค์กร และผู้บริหาร
● วิทยากรอบรม โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ Digital Mastery ของ กนอ. ปีงบประมาณ 2568 หัวข้อ AI in Action สำหรับผู้บริหาร การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
● ที่ปรึกษา Mentor ในโครงการ SMART SMEs Go Digital & AI ผู้จัด สภาอุตสาหกรรม
● วิทยากรอบรม ในหลักสูตร Leader AI และการฝึกอบรม AI สำหรับผู้บริหาร ของ PADA Academy
● วิทยากรบรรยาย หัวข้อ Exclusive AI Masterclass: ผู้นำเหนือระดับด้วย AI ของ PADA Academy
● วิทยากรบรรยายในหัวข้อ การใช้ AI กับงานประชาสัมพันธ์ของกรมทางหลวง
● วิทยากรอบรม สัมมนา “AI for business growth” การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อยกระดับธุรกิจ ผู้จัด สวทช.
● วิทยากรอบรม AI Training & Workshop หัวข้อ AI for Entrepreneurs ผู้ประกอบการ สุราษฎร์ธานี บิสซิเนส ฟอรั่ม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
● แชร์ความรู้ AI สำหรับธุรกิจยุคใหม่ ให้กับ สมาคมส่งเสริมพัฒนาธุรกิจไทย สุราษฎร์ธานี
● จัดอบรม และเป็นวิทยากรอบรมหลักสุตร “AI For Business” สำหรับผู้ประกอบการ
● วิทยากรอบรม เรื่อง Generation AI เพื่องานเผยแผ่พระพุทธศาสนา
● วิทยากรอบรม In HouseTraining : AI ChatGPT for Work ให้แก่
บริษัท ซีเอสเค เพาเวอร์ เทคโนโลยี จำกัด
บริษัท บิ๊กไฟว์ อิเล็คทรอนิกส์กรุ๊ป จำกัด
บริษัท กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
บริษัท บลูแอนด์ไวท์ โลจิสติกส์ จำกัด (Blue & White Logistics)
บริษัท ไผ่ทองไอศครีม จํากัด
บริษัท เรียลตี้วัน เอสเตท (ประเทศไทย) จำกัด (Realty One Estate)
บริษัท ปาซาร์ เอสเตท จำกัด (Pazar Estate)
บริษัท ไลออนมอลล์ จำกัด (Lion Mall Co., Ltd.)
บริษัท โปร อินดัสเตรียล ซัพพลาย จำกัด

ประสบการณ์หลากหลายทั้งในภาคธุรกิจ ภาครัฐ และงานวิชาการ ทำให้คุณเก้าเชี่ยวชาญในการ สอน AI แบบลงมือทำจริง และช่วยองค์กร นำ AI มาใช้ในองค์กร อย่างมีประสิทธิภาพ
ไฮไลต์หลักสูตร AI:
● เรียนรู้จากตัวจริง: คุณเก้า วิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่จะมาถ่ายทอดเทคนิคและประสบการณ์ตรงในการใช้ AI เพื่อธุรกิจ

● ประยุกต์ใช้ AI จากงานส่วนตัวสู่ทีมและองค์กร เริ่มจากงานที่ทำเอง เพื่อให้ทีมและองค์กรทำงานได้เร็วขึ้น ลดขั้นตอน ลดต้นทุน และเพิ่มกำไร

● เรียนรู้และลงมือทำจริงกับงานประจำของตัวเอง ผ่าน Workshop การใช้ AI สำหรับธุรกิจที่ออกแบบเฉพาะตามลักษณะงานของแต่ละองค์กร โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี
ในเวิร์กช็อปนี้ ผู้เข้าร่วมจะได้ทดลอง:
● ใช้ AI Tools 10 ตัว เพื่อสร้างชิ้นงานที่ใช้ได้จริง เช่น รายงานสรุปอัตโนมัติ, แดชบอร์ด, สื่อและพรีเซนเทชัน, โพสต์โปรโมตและคอนเทนต์เชิงกลยุทธ์

● ออกแบบ Workflow และ Automation สำหรับงานจริง เพื่อให้กระบวนการทำงานเร็วขึ้น ลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพ

● ทดลองวางระบบ Decision Support System ด้วย AI สำหรับผู้บริหาร เพื่อเข้าใจการใช้ข้อมูลช่วยตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

● ฝึกใช้เครื่องมือ AI กับงานประจำจริง เช่น วิเคราะห์ยอดขายเพื่อวางกลยุทธ์การตลาด สร้างรายงานสรุปอัตโนมัติพร้อมกราฟ แดชบอร์ด ออกแบบสื่อและพรีเซนเทชันอย่างมืออาชีพ สร้างโพสต์โปรโมตและคอนเทนต์เชิงกลยุทธ์ คัดกรอง Resume วิเคราะห์คุณสมบัติผู้สมัคร และออกแบบระบบทำงานอัจฉริยะให้ทีมทำงานเร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าหมายคือการ สร้างแนวทางเชื่อมต่อระหว่าง AI tools กับ workflow ของทีม เพื่อให้เกิด ผลลัพธ์จริงภายใน 30 วัน
ดังนั้นการนำ AI มาใช้ในองค์กรไม่ใช่แค่การติดตั้งซอฟต์แวร์ แต่คือการ เปลี่ยนวิธีคิด การทำงาน และวัฒนธรรมของคนทั้งองค์กร
จบที่ AI For Business เข้าใจง่าย ทำได้จริง เมื่อจบหลักสูตรแล้วสามารถ นำ AI มาใช้ในองค์กร ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นงานประจำ งานทีม หรือโปรเจ็กต์เชิงกลยุทธ์
2 ประเด็นหลักที่องค์กรต้องเข้าใจ ก่อนนำ AI มาใช้จริง


1. ใช้ AI อย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อคนในองค์กร
AI ควรถูกออกแบบมาเพื่อ ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน และเปิดพื้นที่ให้พนักงานได้ใช้เวลาไปกับการ คิด วิเคราะห์ และสร้างนวัตกรรม การเริ่มใช้ AI ในองค์กรจึงควรเรียนรู้ว่า AI สามารถทำอะไรได้บ้าง และงานใดที่สามารถปรับให้ AI เข้ามาช่วยได้จริง เช่น การสรุปการประชุมอัตโนมัติ หรือการสร้างรายงานสรุปโดยไม่ต้องเสียเวลาแปลงข้อมูลด้วยตัวเอง
แนวทางปฏิบัติ:
● เรียนรู้ความสามารถของ AI แล้วเทียบกับงานที่ทำอยู่

● งานซ้ำ ๆ เช่น การถอดเทปประชุม หรือสร้างรายงาน สามารถให้ AI ช่วยทำได้

● เริ่มจากงานเล็ก ๆ หรือโปรเจ็กต์ทดลองก่อน แล้วค่อยขยายสู่การทำงานระดับทีมและองค์กร
2. ความกังวลว่า AI จะมาแทนคน ควรเปลี่ยนเป็นการออกแบบ “AI ร่วมกับคน”
แทนที่จะกลัวว่า AI มาแทนคนไหม ให้มองเป็นโอกาสในการ ออกแบบงานร่วมกับ AI การให้พนักงานมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นช่วยลดความกลัว และทำให้ทุกคนเห็นว่าความรู้และประสบการณ์ของตนยังมีคุณค่าในการสั่งการ ตรวจสอบ และปรับปรุงผลลัพธ์ของ AI
แนวทางปฏิบัติ:
1. เริ่มประยุกต์ใช้ AI จากงานส่วนตัว → ขยายสู่ทีม → ขยายสู่ระดับองค์กร

2. ทดลองใช้ AI ในงานเล็ก ๆ ก่อน แล้วค่อยพัฒนาเป็น Workflow หรือ Automation ที่ซับซ้อน

3. ฝึกพนักงานให้เข้าใจบทบาทของ AI ในงานของตัวเอง และเรียนรู้วิธีทำให้ AI ทำงานร่วมกับคนได้
นอกจากนี้การปรับ Workflow ให้เหมาะสม การเลือกเครื่องมือ AI ที่ตรงกับงาน และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ช่วยให้ทีมทำงานเร็วขึ้นและลดงานซ้ำซ้อน
การนำ AI มาใช้ในองค์กรจึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่อง แนวคิด วิธีคิด และการออกแบบงานร่วมกับคน เพื่อให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างองค์กรที่ปรับตัวสำเร็จด้วยการเข้าใจ AI Mindset


คุณเก้าเล่าว่า หลายองค์กรทั้งภาคเอกชนและสตาร์ทอัพสามารถปรับตัวได้จริง หลังเริ่มต้นจาก Workshop ของ Verta X AI โดยเน้นการสร้าง ความเข้าใจร่วม (AI Mindset) ก่อนลงทุนในระบบ
ตัวอย่างเช่น:

● บริษัทเอกชนในสายบริการ ใช้ ChatGPT เป็นผู้ช่วยเขียนแผนการตลาด ลดเวลาการทำงานลง ครึ่งหนึ่ง และยังช่วยให้ทีมมีเวลามุ่งเน้นงานเชิงกลยุทธ์และสร้างสรรค์มากขึ้น
กรณีศึกษา AI Mindset: การเริ่มจาก Workshop การใช้ AI สำหรับธุรกิจ ทำให้พนักงานทุกระดับเข้าใจบทบาทของ AI ในงานของตน และรู้ว่าตนเองยังมีคุณค่าในการปรับปรุงผลลัพธ์ของ AI

● สตาร์ทอัพเทคโนโลยี ใช้ AI ในการ คัดกรองลูกค้าเป้าหมาย และสร้างคอนเทนต์อัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด พร้อมลดต้นทุนและงานซ้ำซ้อน
กรณีศึกษา AI Mindset: เริ่มจาก ทดลองโปรเจ็กต์เล็ก ๆ ก่อน ขยายสู่ทีมและองค์กร ทำให้เกิด Business Transformation อย่างเป็นระบบ

สรุปแนวคิด “AI เริ่มจากคน ไม่ใช่เครื่องมือ”
คุณเก้าเน้นว่า “AI ที่ดีที่สุดไม่ใช่ระบบที่ฉลาดที่สุด แต่คือระบบที่คนในองค์กรใช้เป็น” การสร้าง วัฒนธรรมการเรียนรู้และปรับ Mindset ของคน จึงเป็นจุดเริ่มต้นขององค์กรที่อยากอยู่รอดและเติบโตในยุค AI
สิ่งสำคัญคือ การใช้ AI ต้องไม่ใช่เพียงนโยบายฝ่าย IT แต่เป็น กลยุทธ์ร่วมของทั้งองค์กร ตั้งแต่ผู้นำจนถึงพนักงานทุกคน การทำให้ทุกคนเข้าใจบทบาทของ AI ในงานของตนเอง จะช่วยให้เทคโนโลยีสร้างคุณค่าได้จริง และทำให้องค์กร ปรับตัวได้อย่างยั่งยืนในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล


กำลังโหลดความคิดเห็น