xs
xsm
sm
md
lg

เข้มขึ้น!ขบ.ปรับเกณฑ์ค่าตรวจควันดำรถยนต์ เป็นไม่เกิน 20% เริ่ม 1 พ.ย.68

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมการขนส่งทางบก ประกาศปรับปรุงค่าตรวจควันดำจากรถยนต์ ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เริ่ม 1 พ.ย.68 แนะ!!! เจ้าของรถและผู้ประกอบการขนส่ง ตรวจเช็กสภาพรถ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา PM 2.5

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกประกาศกำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด ปรับปรุงการกำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ให้มีความเข้มงวดขึ้น เพื่อลดการปล่อยควันดำได้น้อยลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมมลพิษ แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทรถยนต์ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป

ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกได้มีประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดเกณฑ์มาตรฐานและวิธีการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 26 กันยายน 2568 และประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดเกณฑ์มาตรฐานและวิธีการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 26 กันยายน 2568 โดยมีสาระสำคัญ กรณีผู้ตรวจการเรียกรถให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบค่าควันดำ เกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำจากรถ เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง ให้ใช้ระยะความยาวของทางเดินแสงมาตรฐาน 76 มิลลิเมตร ค่าควันดำสูงสุดต้องไม่เกินร้อยละ 20 (จากเดิมไม่เกินร้อยละ 30)


อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำดังกล่าว เป็นการตรวจวัดริมทางของผู้ตรวจการ เป็นไปตามเจตนารมณ์ในการลดมลพิษจากแหล่งกำเนิดตามที่ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตามนโยบายของการกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการมาอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง

โดยจัดผู้ตรวจการออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสาร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเพิ่มความถี่ในการปฏิบัติงานออกตรวจวัดควันดำทั่วประเทศ โดยเฉพาะบนถนนสายหลักและสายรองที่เข้า-ออกกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ หากตรวจพบมีค่าควันดำเกินร้อยละ 20 จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จนกว่าเจ้าของรถจะนำรถไปแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกำหนด และนำมาตรวจสภาพอีกครั้งจนผ่านการตรวจวัดจึงจะนำไปใช้งานได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการขนส่งและเจ้าของรถ ควรให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ ได้แก่ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ กรองน้ำมัน และตรวจเช็คตามที่ผู้ผลิตกำหนด รวมถึงการปรับพฤติกรรมการขับขี่ที่อาจก่อให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะ


กำลังโหลดความคิดเห็น