“โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง” ผู้นำธุรกิจร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ครบวงจรของกรุงเทพฯ ก้าวสู่ปีที่ 27 พร้อมเดินหน้าเป็น Entertainment Lifestyle Destination ชูจุดเด่นมัดใจลูกค้าด้วย เบียร์ อาหาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และบริการ ตั้งเป้าปี 2568 ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท
“โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง” Microbrewery แห่งแรกของประเทศไทย จุดหมายปลายทางด้านอาหาร เครื่องดื่ม และความบันเทิงของกรุงเทพฯ ตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งในใจของคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยการก้าวสู่ปีที่ 27 อย่างมั่นคงและแข็งแรง ชูจุดเด่น 4 ยุทธศาสตร์หลัก เบียร์ อาหาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และบริการ จนสามารถยืนหยัดในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 26 ปี เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สนับสนุน Gastronomy Tourism ของประเทศไทยให้แข็งแกร่ง พร้อมเปิดทศวรรษใหม่ด้วยเป้าหมายใหญ่ มุ่งสู่การเป็น Entertainment Lifestyle Destination ที่ครองใจทั้งชาวไทยและต่างชาติ คาดทำรายได้ทะยานสู่ 1,000 ล้านบาทภายในปีนี้
ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดของธุรกิจร้านอาหารที่ต่างหันมานำเสนอ “ประสบการณ์พิเศษ” เพื่อครองใจลูกค้า “โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง” ยังคงยืนหนึ่งเป็นผู้นำธุรกิจร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ครบวงจรในกรุงเทพฯ ชนิดที่เรียกได้ว่าแทบจะไร้คู่แข่งในสมรภูมิเดียวกัน ด้วยการยึดมั่นในการผสมผสานคุณภาพเบียร์ อาหาร และความบันเทิง เข้าด้วยกันอย่างลงตัว นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกบนถนนพระราม 3 เมื่อเดือนกันยายน ปี 2542 ก่อนขยายสู่สาขารามอินทราและแจ้งวัฒนะ โดยปัจจุบันทั้ง 3 สาขา สามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 5,000 ที่นั่ง พร้อมให้บริการโดยทีมพนักงานมืออาชีพเกือบ 1,000 คน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านรสชาติและความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งครอบครัว คนทำงาน ไปจนถึงชาวต่างชาติที่พำนักในกรุงเทพฯ ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าใช้บริการในแต่ละปีรวม 3 สาขา กว่า 8.5 แสนคน และมียอดจำหน่ายเบียร์สดกว่า 900,000 ลิตร หรือมากถึง 1.8 ล้านแก้วต่อปี ทำยอดขายรวมปีละกว่า 900 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยราว 10% สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของผู้บริโภคที่ยังคงเชื่อมั่นและไว้ใจในมาตรฐานของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงอย่างต่อเนื่อง
โดยตลอดระยะเวลาเกือบสามทศวรรษ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการร้านอาหารและธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศไทยในฐานะ Microbrewery แห่งแรกของไทย ที่ผสมผสานคุณภาพเบียร์สดสูตรดั้งเดิมจากเยอรมนีเข้ากับรสชาติอาหารที่ถูกปากคนไทย และประสบการณ์ความบันเทิงระดับเวิลด์คลาส จนกลายเป็น Lifestyle Destination ที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักและจดจำ โดยเบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจคือ 4 ยุทธศาสตร์หลักที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงให้ความสำคัญมาตลอด
“เบียร์” คุณภาพที่สร้างสรรค์และควบคุมการผลิตโดย Brewmaster จากประเทศต้นตำรับ
ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเบียร์ คุณภาพและรสชาติของเบียร์ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้บริวมาสเตอร์ (Brewmaster) ชาวเยอรมัน ประเทศต้นตำรับของการผลิตเบียร์ มร.โยเค่น นอยเฮาส์ (Mr.Jochen Neuhous) มาร่วมสร้างสรรค์รสชาติจนได้มาตรฐานและถูกปากคนไทย ทั้งเบียร์ลาเกอร์ (Lager Beer) เบียร์ดุงเกล (Dunkel Beer) เบียร์ไวเซ่น (Weizen Beer) ก่อนจะเพิ่มเติมอีก 2 ชนิดคือ เบียร์โรเซ่ (Rosè Beer) และ IPA (India Pale Ale) เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภครุ่นใหม่ โดย มร.โยเค่น นอยเฮาส์ เป็นผู้ควบคุมการผลิตเบียร์ทุกชนิดตั้งแต่เปิดให้บริการครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน เพื่อการันตีคุณภาพและมาตรฐานรสชาติให้คงเดิมไม่ผิดเพี้ยน
ล่าสุดในปี 2565 ทางโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงได้ลงทุนเพิ่มหม้อต้มเบียร์ ตลอดจนถังหมัก ถังบ่ม เครื่องจักร อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากประเทศเยอรมนี และปรับพื้นที่เปิดมุมเบียร์ “Brewmaster” เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มนักดื่มเบียร์รุ่นใหม่ ด้วยเงินลงทุน 10 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้ มร.ไซมอน บาร์ทแมนน์ (Mr.Simon Bartmann) บริวมาสเตอร์ชาวเยอรมัน ผู้เชี่ยวชาญด้านคราฟต์เบียร์ (Craft Beer) มาร่วมสร้างสรรค์และดูแลการผลิตคราฟต์เบียร์เพื่อตอบสนองต่อตลาดซึ่งกำลังได้รับความนิยม โดยได้เพิ่มเบียร์ชนิดใหม่อีก 5 รสชาติ นอกเหนือจากเบียร์ดั้งเดิม 4 ชนิดของโรงเบียร์ และยังจัดให้มีกิจกรรม Brewery Tour ให้ผู้สนใจสามารถเข้าชมขั้นต่อการผลิตเบียร์ตามมาตรฐานแท้ ๆ ของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จนสามารถเพิ่มยอดขายเบียร์สด และขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติไปพร้อมกัน
“อาหาร” อร่อยและหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม
อาหารคืออีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ซึ่งนอกจากเมนูซิกเนเจอร์ อย่างขาหมูทอดตะวันแดง ปลากะพงทอดน้ำปลา กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เกาเหลาเย็นตาโฟ ส้มตำไหลบัว ฯลฯ ทางโรงเบียร์ฯ ยังมีแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development: PD) ที่สร้างสรรค์เมนูอาหารไทยใหม่ ๆ ออกมานำเสนอทุก 3 เดือน อีกทั้งยังมีครัวกลางเป็นศูนย์กลางในการสั่งซื้อและคัดเลือกวัตถุดิบ รวมถึงผลิตซอส น้ำแกง และน้ำจิ้มต่าง ๆ ส่งไปยังครัวของทุกสาขา เพื่อให้รสชาติอร่อยคงที่ได้มาตรฐาน โดยวัตถุดิบที่ใช้เน้นผลผลิตจากเกษตรกรไทย ทำให้ทุกปีโรงเบียร์ฯ มีส่วนช่วยสนับสนุนเกษตรกรไทยผ่านการรับซื้อผลผลิตต่าง ๆ เป็นจำนวนมหาศาล ส่งผลให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ กระจายไปยังท้องถิ่นทั่วประเทศ
นอกจากนี้เพื่อตอบรับกระแสความนิยมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงยังได้เปิด ยูยาเกะซูชิบาร์ (Yuyake Sushi Bar) ให้บริการอาหารญี่ปุ่นคุณภาพพรีเมียม โดยได้เชฟมากฝีมือชาวญี่ปุ่น มร. ทาคาชิ อิโต (Mr. Takashi Ito) มารังสรรค์เมนูและควบคุมคุณภาพให้ได้รสชาติและมาตรฐานแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ อีกทั้งยังเปิด Japanese Cooking Class ให้ผู้สนใจได้เรียนรู้การทำอาหารญี่ปุ่นสไตล์ต้นตำรับจากเชฟชาวญี่ปุ่นขนานแท้
“เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” เน้นความบันเทิงระดับเวิลด์คลาสในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้
กล่าวได้ว่าโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงเป็น Entertainment Hub ที่มอบประสบการณ์ความบันเทิงในแบบที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น โดยเป็นผลงานการออกแบบและสร้างสรรค์โน๊ตดนตรีของ อาจารย์บรูซ แกสตัน (Mr.Bruce Gaston) นักดนตรี นักแต่งเพลง และนักเรียบเรียงเสียงประสาน จากวงฟองน้ำ ชาวต่างชาติคนแรกที่ได้รับรางวัลศิลปาธรกิตติคุณ สาขาคีตศิลป์ ประจำปี 2552 โดยอาจารย์บรูซ แกสตัน ได้เคยทำหน้าที่เป็น Entertainment Director ให้กับโรงเบียร์ฯ มาตั้งแต่ปีแรกที่ก่อตั้ง นับเป็นบุคคลสำคัญผู้วางรากฐานความบันเทิงให้โชว์ของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงมีความอลังการและเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ ซึ่งถูกสืบสาน ต่อยอด และพัฒนารูปแบบเรื่อยมาตามสมัยนิยม จนปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเพิ่มสีสันให้โชว์มีความวิจิตร ตระการตา และน่าสนใจมากขึ้น เพื่อมอบความสุขและความสนุกให้กับลูกค้า ที่พิเศษคือทุกเดือนจะเสริมทัพด้วยการจัดคอนเสิร์ตศิลปินดัง เปิดเวทีให้เป็นจุดนัดพบของศิลปินชั้นนำเกือบทุกแนวเพลงของไทย เพื่อดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นแฟนคลับของศิลปินให้เข้าถึงและรู้จักโรงเบียร์มากขึ้น โดยปัจจุบันบัตรคอนเสิร์ตของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงจำหน่ายในราคาเพียง 200-300 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ทางโรงเบียร์ยังมีการจัดคอนเสิร์ตการกุศลบ่อยครั้ง เพื่อช่วยเหลือสังคมในด้านต่าง ๆ อาทิ คอนเสิร์ต “All of Friends กอดไทยด้วยเสียงเพลง” เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือและผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา, ร่วมกับสมาคมอุทยานแห่งชาติจัดคอนเสิร์ต “เพื่อผู้พิทักษ์ป่าและคืนผืนป่า” สมทบกองทุนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและกองทุนคืนฟื้นฟูป่า, คอนเสิร์ต “เพื่อน! ไม่ทิ้งเพื่อน” เพื่อระดมทุนช่วยเหลือศิลปินที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพและอื่น ๆ เป็นต้น
“การบริการ” ที่พร้อมจะมอบความประทับใจอย่างถึงที่สุด
ยุทธศาสตร์สุดท้ายคือ “การบริการ” ที่ยอดเยี่ยมจนสร้างความประทับใจและเป็นที่จดจำของลูกค้า ด้วยประสบการณ์ตลอด 26 ปีของการทำธุรกิจ ทำให้โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงสะสมองค์ความรู้จนสามารถพัฒนายุทธศาสตร์ให้ครองใจลูกค้าและยืนหยัดอยู่ในธุรกิจได้อย่างสง่างาม ไม่เพียงมีการจัดทำหลักสูตรอบรมและเรียนรู้แก่พนักงาน เพื่อสร้าความรู้สึกอบอุ่น สนุกสนาน และเป็นกันเองให้กับลูกค้า โรงเบียร์ฯ ยังใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบด้าน อาทิ การกำหนดมาตรฐานการเสิร์ฟอาหารอย่ารวดเร็วภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที และ 20 นาทีสำหรับอาหารประเภทปลาสด รวมถึงการใช้ระบบ POS (Point of Sale) ในการควบคุมการสั่งอาหาร โดยมีคำสั่งพิเศษมากกว่า 35 คำสั่ง เช่น เผ็ดน้อย ไม่หวาน ไม่เปรี้ยว ฯลฯ และที่มากไปกว่านั้นคือ ในห้องน้ำทุกสาขามีการติดตั้งอ่างสำหรับอาเจียนไว้ทั้งห้องน้ำชายและหญิง ตลอดจนดูแลความแห้ง สะอาด ซึ่งเป็นจุดอ่อนของร้านอาหารทั่วไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้านักดื่ม โดยเป็นมาตรฐานหนึ่งที่ทางโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงยังคงรักษาไว้ตั้งแต่แรกจนถึงวันนี้
ไม่เพียงแค่นั้น เพื่อมอบความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าประจำ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงยังจัดให้มีระบบสมาชิกพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ ส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่ม 15%, ส่วนลด 20% สำหรับจัดงานฉลองวันเกิด, ส่วนลดสินค้าที่ระลึกใน Souvenir Shop 15% และรับของสมนาคุณที่จัดทำขึ้นเพื่อสมาชิกโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีระบบสะสมแต้ม รับของรางวัลสุดพิเศษ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าทุกครั้งที่มาใช้บริการในโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
ทั้ง 4 ยุทธศาสตร์นี้ไม่เพียงส่งเสริมให้โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการสังสรรค์ ความสุข และความบันเทิงที่ไม่เหมือนใคร ยังเป็นโมเดลธุรกิจร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ครบวงจรที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทย รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ของประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างผลกำไรและการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ โดยปี 2568 นี้ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงตั้งเป้าหมายที่จะทำรายได้ให้ถึง 1,000 ล้านบาท และเดินหน้าสู่การเป็น Entertainment Lifestyle Destination ที่ครองใจทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในอนาคต


