xs
xsm
sm
md
lg

ฟู้ดดีลิเวอรี่หั่น GP ชิง “คนละครึ่งพลัส” ค้าปลีกลุ้นสะพัด 7 หมื่นล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด - แอปฟู้ดดีลิเวอรี่ ค้าปลีก ขานรับนโยบาย “Quick Big Win” ของทางภาครัฐฯ เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” สมาคมผู้ค้าปลีกไทยลุ้นจีดีพีขยายตัว 0.22% ทำค้าปลีกสะพัด 7 หมื่นล. “แกร็บ” งัดแคมเปญ “GrabFood X คนละครึ่งพลัส ดันยอดโตสูงสุด 9 เด้ง” หั่นค่าคอมมิชชันเหลือ 7% ทุ่ม 200 ล้านโปรโมตแคมเปญ “โรบินฮู้ด” ค่าจีพี 0% อัด 5 มาตรการหนุน ”LINE MAN” ลดจีพีพิเศษ อัด 200 ล้านลุยแคมเปญ คว้า “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์ “เดอะมอลล์” อัดแคมเปญรับตลาด


นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะมาตรการระยะสั้นแบบ “Quick Big Win” ที่มุ่งกระตุ้นกำลังซื้อและเศรษฐกิจฐานรากทั่วประเทศ ของรัฐบาล ถือเป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยโครงการ “คนละครึ่งพลัส”

โดยในส่วนของการใช้สิทธิ์ผ่านฟู้ดดีลิเริ่มวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.00 – 21.00 น. แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ 1.ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สิทธิแบบพิเศษ รัฐช่วยจ่าย 60% และประชาชนจ่าย 40% (60:40)จำนวนสิทธิประมาณ 11 ล้านคนจะได้เงินคนละ 2,400 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท2.ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีได้รับสิทธิในรูปแบบรัฐช่วยจ่าย 50% และประชาชนจ่าย 50% (50:50)จำนวนสิทธิประมาณ 9 ล้านคนจะได้เงินคนละ 2,000 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท


*** สมาคมค้าปลีกฯ คาดกระตุ้นค้าปลีก 7 หมื่นล.
นายณัฐ วงศ์พานิช ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า มาตรการ “คนละครึ่ง พลัส” ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้อย่างตรงจุด และช่วยให้ GDP ไทยขยายตัวได้ราว 0.21–0.22% เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการดังกล่าว ตามการประเมินของกระทรวงการคลัง

มาตรการดังกล่าวบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนในช่วงปลายปี และก็ช่วยกระตุ้นยอดขายของภาคค้าปลีก โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อยและธุรกิจเอสเอ็มอีทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบ และผู้ประกอบการรายเล็กได้ฟื้นตัว

จากผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retail Sentiment Index: RSI) ซึ่งสมาคมผู้ค้าปลีกไทย จัดทำร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นค้าปลีกในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (ตุลาคม–ธันวาคม 2568) มีแนวโน้มปรับตัวสูงสุดของปี ทำสถิติ New High ในรอบ 12 เดือน จาก 52.4 จุด มาอยู่ที่ 63.8 จุด

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “คนละครึ่ง พลัส” โดยผู้ประกอบการค้าปลีก คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะเพิ่มยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 10% โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและร้านค้าในต่างจังหวัด เมื่อเทียบกับไม่มีมาตรการดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ เสนอว่า ในเฟสถัดไปของโครงการ “คนละครึ่ง” ภาครัฐควรพิจารณาเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านค้าทุกขนาดสามารถเข้าร่วมได้อย่างทั่วถึงและเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในภาคค้าปลีกได้กว่า 60,000–70,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี


***** “แกร็บ” อัด 200 ล. ลุย-มอบสิทธิ์์ 9 เด้ง
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “การกลับมาของโครงการคนละครึ่งพลัสในปีนี้ แกร็บเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยผู้ได้รับสิทธิ์กว่า 20 ล้านคนทั่วประเทศ ให้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ

โดยเราสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากโครงการฯ นี้ กว่า 800,000 รายทั่วประเทศ ผ่านแคมเปญพิเศษที่จัดเต็มสิทธิประโยชน์และโปรแกรมมากถึง 9 เด้ง และพัฒนาระบบให้ร้านค้าใช้งานได้ง่าย เพื่อกระตุ้นการบริโภคและเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารโดยตรง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบาย Quick Big Win ของทางภาครัฐ

แคมเปญ “GrabFood X คนละครึ่งพลัส ดันยอดโตสูงสุด 9 เด้ง” แกร็บเตรียมมอบสิทธิประโยชน์แบบจัดเต็มถึง 9 ต่อให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” กับแกร็บฟู้ด คือ


1. เริ่มประกาศแพลตฟอร์มแรก แกร็บหั่นค่าคอมมิชชัน (GP) เหลือเพียง 7% สำหรับร้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ในวันแรกที่เปิดรับสมัคร วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 และสำหรับร้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป จะถูกคิดค่าคอมมิชชันในอัตรา 9%

2. อัดโปรแกรมดันยอดขายเพื่อสนับสนุนร้านเล็ก ได้แก่ แคมเปญ “แกร็บช่วยลด” โดยแกร็บร่วมสมทบแจกโค้ดส่วนลดจัดเต็มให้ร้านค้าสูงสุด 10,000 บาท และแคมเปญ “ร้านเล็กค่าส่งถูก” ซึ่งช่วยดึงดูดลูกค้าด้วยโปรโมชันส่งฟรีทุกออเดอร์ผ่านการจัดส่งแบบประหยัด (SAVER) ระยะทางสูงสุด 5 กม. สำหรับร้านค้าที่สมัครแคมเปญสำเร็จระหว่างวันที่ 3 - 5 พฤศจิกายน 2568 เข้าร่วมแคมเปญ ฟรี! สูงสุด 30 วัน

3. ให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน โดยร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการฯ มีสิทธิ์ได้รับ “สินเชื่อเงินสดทันใจ”จากแกร็บ โดยมีวงเงินกู้สูงสุดถึง 1,000,000 บาท พร้อมรับดอกเบี้ยคืนสูงสุด 300 บาท

4. แจกส่วนลดพิเศษให้ลูกค้าสูงสุดถึง 2,400 บาทต่อคน สำหรับใช้สั่งอาหารผ่านโครงการฯ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสั่งซ้ำและเพิ่มยอดขายให้ร้านอาหาร

5. ยกเว้นค่าคอมมิชชัน (GP) เหลือ 0% บริการกินที่ร้าน (Grab Dine Out) เป็นระยะเวลา 30 วัน สำหรับทุกร้านค้าใหม่
6. แจกฟรีสื่อ ณ จุดขายและอุปกรณ์ตกแต่งร้าน สำหรับ 10,000 ร้านแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ สำเร็จ
7. ให้เครดิตสำหรับการโฆษณาผ่าน GrabAds มูลค่า 400 บาท สำหรับทุกร้านที่ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษบนแอป GrabMerchant เพื่อใช้โปรโมตร้านหรือสร้างแคมเปญโฆษณาเพื่อเพิ่มการมองเห็น
8. มอบส่วนลดสำหรับค่าบริการระบบจัดการร้านอาหารจาก SilomPOS ครึ่งราคา ระยะเวลานาน 1 ปี มูลค่าสูงสุดถึง 14,950 บาท
9. จัดเต็มสื่อโฆษณาและกิจกรรมการตลาด โดยแกร็บทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทเพื่อร่วมโปรโมตแคมเปญผ่านสื่อโฆษณาครบวงจร พร้อมดึงทัพดาราดังร่วมสร้างสีสันและการรับรู้ในวงกว้าง นำโดย เบลล่า-ราณี, เจมีไนน์-นรวิชญ์, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์, สกาย-วงศ์รวี, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์, หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ และ ออม-กรณ์นภัส


ผู้ประกอบการร้านอาหารที่สนใจเข้าร่วมโครงการกับแกร็บฟู้ด ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 – 31 ธันวาคม 2568 เพียงทำการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิบนแอปฯ ถุงเงิน และเลือกเข้าร่วมคนละครึ่งพลัสกับแกร็บฟู้ด ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
• เข้าแบนเนอร์ โครงการคนละครึ่งพลัส บนแอป GrabMerchant
• คลิกดูรายละเอียด และกด ‘ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข’
• ตรวจสอบ ‘เลขประจำตัวผู้เสียภาษี’ ให้ตรงกับในแอปถุงเงิน
• เข้าแอปถุงเงิน กด ‘สมัครฟรี’ ที่แบนเนอร์
• เลือกเข้าร่วมคนละครึ่งพลัสกับแพลตฟอร์ม Grab
• คัดลอก ‘รหัสร้านค้า’ จากแอป GrabMerchant เพื่อกรอกข้อมูลบนแอปถุงเงิน
• ยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP
• ได้รับข้อความยืนยันการลงทะเบียนสำเร็จ


*** โรบินฮู้ด ชูจีพี 0% งัด 5 มาตรการหนุน”
นางสาวมรกต ยิบอินซอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการ Robinhood กล่าวว่า “เราเชื่อว่าพลังของคนไทยจะช่วยกันพยุงเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้ Robinhood พร้อมเป็นหนึ่งแรงสนับสนุนร้านค้าไทยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและเข้าถึงลูกค้าใหม่มากขึ้น”


Robinhood เปิดมาตรการพิเศษ “GP 0% สำหรับร้านค้า 5,000 ร้านแรก” ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” พร้อมจัดเต็ม 5 มาตรการช่วยร้านค้าไทยให้เติบโตได้จริง ได้แก่
1. GP 0% สำหรับร้านค้า 5,000 ร้านแรก ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง”
2. โปรโมทร้านฟรี บน Robinhood App และสื่อโซเชียลต่าง ๆ เพื่อดันยอดขาย
3. ฟรีสื่อตกแต่งร้านค้า เสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้ร้าน
4. ลดต้นทุนร้านค้า ด้วยส่วนลดวัตถุดิบและอุปกรณ์จำเป็นจากพันธมิตร
5. สินเชื่อเพื่อธุรกิจ สนับสนุนร้านค้าที่ต้องการขยายกิจการและเพิ่มสภาพคล่อง
นอกจากช่วยร้านค้าแล้ว ผู้ใช้ Robinhood ยังได้ ราคาดี มีสิทธิ์ใช้โครงการ “คนละครึ่ง” ได้สะดวกในแอปเดียว พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มจากร้านค้าในพื้นที่ เพื่อให้ทุกมื้ออิ่มอร่อยในราคาที่เข้าถึงได้


*** “ไลน์แมน” ทุ่ม 200 ล.-ลดจีพี-ดึง “กรรชัย” ร่วม
นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN กล่าวว่า “ไลน์แมนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาตั้งแต่เฟสแรกเแล้ว และล่าสุดคนละครึ่งพลัส เป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการสั่งอาหารดีลิเวอรี่ได้จริง ผู้ใช้สามารถสั่งผ่าน LINE MAN และชำระด้วยสิทธิคนละครึ่งพลัสได้สะดวก

ขณะเดียวกันยังช่วยกระจายรายได้ให้ร้านอาหารและไรเดอร์ทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมา มีร้านอาหารเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งกับแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่เกือบ 100,000 ร้าน โดยกว่า 60–70% เลือกใช้ LINE MAN

นอกจากนี้ยังมียอดผู้ใช้งานคนละครึ่ง ผ่าน LINE MAN จากเฟสที่ผ่านมาทั้งหมดกว่า 7 ล้านสิทธิ์ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็น เบอร์ 1 คนละครึ่ง โดยพร้อมเดินหน้าสนับสนุนร้านอาหารและผู้บริโภคเต็มรูปแบบ”


ในมุมของร้านอาหารนอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานสิทธิคนละครึ่งได้ง่ายทั้งฝั่งร้านค้าและผู้บริโภค LINE MAN ยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ภายใต้โครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายร้านอาหารและสร้างความคุ้มค่าให้ผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยร้านอาหารที่สมัครเข้าร่วมโครงการผ่าน LINE MAN ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน เป็นต้นไป จะได้รับสิทธิพิเศษแบบจัดเต็ม ได้แก่

1. ลดค่าธรรมเนียม GP เป็นกรณีพิเศษ สำหรับออเดอร์จากโครงการ “คนละครึ่งพลัส”
2. คูปองส่วนลดสำหรับร้านค้าเพื่อนำไปทำโปรโมชัน มูลค่า 3,000 บาท
3. Ads Credit เพิ่มการมองเห็นของร้านในแอปพลิเคชัน สูงสุด 1,000 บาท
4. ขยายระยะทางส่งฟรีเป็น 5 กิโลเมตร
5. สื่อโฆษณา ณ จุดขาย (POSM) เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าร้านสามารถสั่งผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ได้
6. ส่วนลดค่าบริการระบบจัดการร้านอาหาร (POS) สูงสุด 8,000 บาท
7. กิจกรรมทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายร้านอาหารทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้ใช้สิทธิคนละครึ่ง LINE MAN ก็ได้เตรียมแคมเปญการตลาดและงบโปรโมชัน เพื่อมอบสิทธิพิเศษด้านส่วนลดค่าอาหาร สิทธิส่งฟรี และคูปองส่วนลดมากมายสำหรับออเดอร์จากโครงการคนละครึ่งบนแอป LINE MAN พร้อมใช้จุดแข็งในฐานะ “แพลตฟอร์มสัญชาติไทย” ที่เข้าใจคนไทยอย่างแท้จริง และสามารถปรับตัวตอบรับนโยบายภาครัฐได้อย่างรวดเร็ว


ปีนี้ LINE MAN คว้า “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายร้านค้าและสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคทั่วประเทศ

การเลือก “หนุ่ม กรรชัย” มาร่วมแคมเปญครั้งนี้ ถือเป็นจังหวะที่คมและแม่นของ LINE MAN ที่มองเห็นเทรนด์ทันกระแส เพราะเป็นคนข่าวที่อยู่ในกระแสสังคมตลอดเวลาแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งสร้างปรากฏการณ์ไวรัลจากไลฟ์ดังแห่งปี ที่กวาดยอดขายถล่มทลายหลายสิบล้าน จนเป็นกระแสไวรัลดังบนโลกออนไลน์ การใช้พลังความแมสและความน่าเชื่อถือของคนข่าวระดับประเทศมาเป็นกระบอกเสียง จึงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึง “ใจคนไทย” และเชื่อมกับพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ของประเทศได้ตรงจุด


*** “เดอะมอลล์” เตรียมไม้เด็ดรับมือ

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “โครงการคนละครึ่งพลัส เป็นมาตรการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างตรงจุด เพราะเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้น เดอะมอลล์ กรุ๊ป พร้อมทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกระจายรายได้ โดยเฉพาะร้านค้าในศูนย์ฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ SME ที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง มาตรการนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศการจับจ่ายและเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจค้าปลีกได้อย่างเป็นรูปธรรม”

เพื่อต่อยอดนโยบายภาครัฐให้เกิด ผลคูณทางเศรษฐกิจ (Retail Multiplier Effect) เดอะมอลล์ กรุ๊ป เตรียมจัดแคมเปญพิเศษในทุกศูนย์การค้า ได้แก่ เดอะมอลล์, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เอ็มสเฟียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เพื่อจูงใจให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์และใช้จ่ายจริง คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคและร้านอาหารไม่น้อยกว่า 10% พร้อมกระตุ้นทราฟฟิกในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้เติบโตต่อเนื่อง

“เรามองว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนคือแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ทรงพลังที่สุด เดอะมอลล์ กรุ๊ปไม่ได้เพียงรอรับนโยบาย แต่พร้อมสร้างแรงส่งเชิงบวกให้เกิดการใช้สิทธิ์จริงในระบบค้าปลีก เพื่อให้เศรษฐกิจไทยหมุนเวียนอย่างแข็งแรงและยั่งยืน” นางสาววรลักษณ์ กล่าว

ทั้งนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ปจะประกาศรายละเอียดแคมเปญรองรับโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อร่วมเสริมพลังการจับจ่ายของประชาชน และตอกย้ำบทบาทของศูนย์การค้าในฐานะ “ฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
















กำลังโหลดความคิดเห็น