สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเดินหน้าจัดสรรทุนสนับสนุนโครงการด้านอนุรักษ์พลังงาน โดยเน้นโครงการที่เป็นชุมชน อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงเป็นหลัก ขณะที่โครงการของส่วนราชการจะต้องร่วมจ่าย “คนละครึ่ง” กับกองทุนอนุรักษ์ฯ พร้อมประกาศทิศทางการดำเนินงานปีงบประมาณ 2569 เน้นจัดสรรงบให้โครงการที่สอดคล้องกับนโยบายQuick Big Win โดยมีกรอบวงเงินสนับสนุน 9,000 ล้านบาท
นายรัฐฉัตร ศิริพานิช ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) เปิดเผยว่า หลังจากปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อรับคำขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีผู้ยื่นข้อเสนอมารวม 1,070 โครงการ คิดเป็นวงเงิน 13,488 ล้านบาท สูงกว่างบที่วางไว้สำหรับปี 2568 ที่ 2,750 ล้านบาท และเพื่อเป็นการสนองนโยบายกระทรวงพลังงานในการสร้างรายได้ ลดรายจ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ในการพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานจะให้ความสำคัญต่อโครงการในพื้นที่ทุรกันดาร ประชาชนยังไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นหลัก ซึ่งในกลุ่มนี้มีข้อเสนอเข้ามาวงเงินรวมประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยกองทุนมีวงเงินที่สามารถสนับสนุนได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในส่วนราชการจะเน้นจัดสรรโครงการลักษณะ “คนละครึ่ง” คือผู้ขอรับทุนจะต้องร่วมจ่าย (Co-pay) ในโครงการครึ่งหนึ่งของงบโครงการ โดยมีโครงการส่วนราชการยื่นข้อเสนอเข้ามาวงเงินประมาณ 2,400 ล้านบาท วงเงินที่จัดสรรได้มีประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่ให้ความสำคัญ เช่น การสนับสนุนระบบผลิตพลังงานโรงพยาบาล วิสาหกิจชุมชนด้านการเกษตร โรงงานและอาคาร รวมถึง งานวิจัยและการพัฒนาบุคลากรด้านพลังงาน
สรุปภาพรวมโครงการที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาจำนวนทั้งสิ้น 1,070 โครงการ รวมวงเงิน 13,488 ล้านบาท สามารถจำแนกเป็นโครงการด้านต่างๆ ได้ดังนี้ โครงการคนละครึ่ง ในส่วนราชการ จำนวน 290 โครงการ วงเงิน 2,444 ล้านบาท โครงการสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า จำนวน 129 โครงการ วงเงิน 2,203 ล้านบาท การสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงงาน/อาคาร ฯลฯ รวม 348 โครงการ วงเงิน 3,873 ล้านบาท โครงการวิจัย 130 โครงการ วงเงิน 1,481 ล้านบาท โครงการสาธิต 112 โครงการ วงเงิน 2,785 ล้านบาท โครงการการพัฒนาบุคลากร และโครงการประชาสัมพันธ์ อื่นๆ รวม 61 โครงการ วงเงิน 702 ล้านบาท
ปัจจุบันสถานะโครงการที่ยื่นเข้ามาขอสนับสนุนเงินกองทุนอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา โดย ส.กทอ.จะกลั่นกรองข้อเสนอโครงการและรวบรวมข้อมูลข้อเสนอโครงการเพื่อนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความเห็น หลังจากนั้นจะนำเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ต่อไป ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มแจ้งผลและดำเนินโครงการได้ประมาณต้นเดือนมกราคม 2569
นายรัฐฉัตรกล่าวว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานของกองทุนอนุรักษ์ฯ ในปีงบประมาณ 2569 เตรียมวางแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569-2571 เตรียมการประกาศยุทธศาสตร์การจัดสรรเงินกองทุนฯ และประกาศเปิดรับข้อเสนอโครงการฯ ประจำปีงบประมาณ 2569 เบื้องต้นได้วางกรอบงบประมาณไว้ที่ 9,000 ล้านบาทเพื่อรองรับนโยบาย Quick Big Win และรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ตลอดจนเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ๆ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต้องผ่านที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาก่อนในท้ายที่สุด
“ส.กทอ.เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในภารกิจที่เกี่ยวกับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสนับสนุนการดำเนินการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ซึ่งรวมถึงนโยบายด้านพลังงาน โดยรัฐบาลปัจจุบันได้วางแนวทาง Quick Big Win ด้านพลังงาน ซึ่งจะมีส่วนช่วยเร่งการเพิ่มรายได้และลดภาระรายจ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน หน่วยงานรัฐ และผู้ประกอบกิจการโรงงานเอกชน บทบาทของกองทุนอนุรักษ์พลังงานจึงเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันนโยบายดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และเดินหน้าสู่การมุ่งเป้าหมาย Net Zero ได้ตามแผนในปี ค.ศ. 2050 ตามที่กระทรวงพลังงานได้ตั้งเป้าหมายไว้ใหม่”