“รมช.คมนาคม” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งการหน่วยงานคมนาคมระดมสรรพกำลังซ่อมแซม - ฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด
วันนี้ (15 ตุลาคม 2568) นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมด้านการขนส่งในสถานการณ์อุทกภัยจากผู้แทนกรมการขนส่งทางบก โดยมี นายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายปิยะ โยมา รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และหัวหน้าหน่วยงานในพื้นที่ร่วมลงพื้นที่ ณ วัดบางนมโค ตำบลบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นางสาวมัลลิกา เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล และกระทรวงคมนาคม มีความความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวพระนครศรีอยุธยาทุกคนเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ในวันนี้ตนได้รับมอบหมายจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ลงพื้นที่มาให้กำลังใจและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่าความช่วยเหลือจากภาครัฐจะเข้าถึงทุกคนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว
ซึ่งกระทรวงคมนาคมไม่ได้นิ่งนอนใจต่อวิกฤตครั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ได้แก่ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการขนส่งทางบก และกรมเจ้าท่า บูรณาการความร่วมมือร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างเต็มที่ในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ระดมสรรพกำลังให้การช่วยเหลืออย่างครบวงจร การอพยพ จัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค รวมถึงการฟื้นฟูเยียวยาหลังสถานการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไป เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่
นอกจากการมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแล้ว กระทรวงคมนาคมยังให้ความสำคัญสูงสุดกับการซ่อมแซมและฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมในทุกมิติ ที่ได้รับความเสียหายให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งความช่วยเหลือและให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ได้แก่ ให้ดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างในบริเวณถนนที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ แก้ไขปัญหาการเปลี่ยนชื่อถนนที่ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับทราบ รวมทั้งเร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
"ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เสียสละ และทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อช่วยเหลือกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และขอยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมจะไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการขนส่งทุกรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าความช่วยเหลือจะเข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที” นางสาวมัลลิกา กล่าว