xs
xsm
sm
md
lg

Gen “Z – Horizon” ขุมพลังดันศก. ปรากฎการณ์เจนนี่ครั้งแรกในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360- เจาะลึก Gen Z และ Gen Horizon สองขุมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้กำหนดทิศทางการบริโภคในอนาคต ที่นักการตลาดต้องโฟกัสอย่างสมดุล


นางสาววรินทร์ ทินประภา Chief Growth Officer, บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป จํากัด หรือ MI GROUP เปิดเผยว่า Gen Z ช่วงอายุ 13-28 ปี และ Gen Horizon (Gen X) ช่วงอายุ 45-59 ปี เป็นสองเจเนอเรชันที่มีทั้งจำนวนประชากรขนาดใหญ่และอิทธิพลทางเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะในเรื่องของ 'พลังการจับจ่าย' รวมกันถึง 7.6 ล้านล้านบาทต่อปี (Gen Z 2.6 ล้านล้านบาทต่อปี และ Gen Horizon 5 ล้านล้านบาทต่อปี) สะท้อนถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของคนไทย

ทาง MI LEARN LAB จึงได้ศึกษาเชิงลึกในสองช่วงวัยนี้ เพื่อทำความเข้าใจ พฤติกรรม ความต้องการ แรงขับเคลื่อน และคุณค่าของพวกเขา ถอดออกมาเป็นแนวทางเชิงกลยุทธ์สำหรับนักการตลาดและแบรนด์

“แม้จะมีงานวิจัย Gen Z อยู่มาก แต่ MI LEARN LAB ต้องการนำเสนอเลนส์ใหม่ในการเข้าใจคนรุ่นนี้ ขณะเดียวกันเราได้วางกรอบของ Gen Horizon เพื่อสะท้อนว่าพวกเขากำลังนิยาม วัยเกษียณใหม่ ที่นำไปสู่ New Retirement Economy ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและคุณภาพชีวิตดีกว่ารุ่นก่อน สิ่งที่เราสรุปได้ ไม่ใช่เพียงข้อมูลเชิงพฤติกรรม แต่คือ 'โอกาสทางการตลาดจากพลังการจับจ่าย' และ Framework เชิงกลยุทธ์ ที่จะช่วยให้นักการตลาดออกแบบแคมเปญที่ตอบโจทย์ทั้งวันนี้ พร้อมสร้างรากฐานความยั่งยืนในอนาคต"


นายพศธร สุขอัมพร New Business Development Director บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป จํากัด MI GROUP กล่าวต่อว่า MI LEARN LAB ได้ทำการศึกษา แยกวิเคราะห์ผู้บริโภคทั้ง Gen Z และ Gen Horizon ออกมาเพื่อให้เห็นทิศทางและพฤติกรรมการบริโภคที่ต่างขับเคลื่อนประเทศไทยจากคนละทิศทาง แต่ส่งผลร่วมกันอย่างมีพลัง โดย Gen Z เป็นผู้กำหนดเทรนด์ ส่วน Gen Horizon ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักเพราะมีพลังในการใช้จ่ายมากที่สุด

เมื่อเจาะลึกในรายละเอียด พบว่าในส่วนของ Gen Horizon คือ เจเนอเรชันที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความรับผิดชอบและการเริ่มต้นใหม่ พวกเขาคือกุญแจสำคัญที่แบรนด์ควรเข้าใจ เพื่อช่วยให้คนไทยก้าวสู่วัยสูงอายุอย่างมั่นใจ มีคุณค่า และมีกำลังซื้อที่มั่นคงต่อเศรษฐกิจไทย

โดยความมั่นใจคือทุนชีวิตใหม่ของ Gen Horizon สะท้อนผ่าน 7 ความสำคัญในชีวิตที่พวกเขาให้คุณค่าและต้องการเติมเต็ม ได้แก่ 1.การเงิน แม้เป็นช่วงอายุที่มีรายได้สูงสุด แต่ 62% รู้สึกไม่พร้อมต่อวัยเกษียณ และ 68% ยังพึ่งพาเงินสดเป็นหลัก,
2. สุขภาพ ใส่ใจสุขภาพแต่ยังขาดการป้องกัน เพราะมีเพียง 35% ตรวจสุขภาพประจำปี
3.ที่อยู่อาศัย 42% ยอมรับว่าบ้านยังไม่พร้อมต่อการเป็นบ้านผู้สูงอายุ
4.ครอบครัว ไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน
5.คุณค่าตัวเอง
6.เทคโนโลยี ปรับตัวใช้เทคโนโลยี
7.กิจกรรมทางสังคม

อย่างไรก็ตามในส่วนของแนวทางสำหรับแบรนด์สินค้า คือ 1.มุ่งสร้างพลังให้การเริ่มต้นใหม่หรือการเปลี่ยนอาชีพ เพื่อให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่าและยังคงเติบโตได้เสมอ

2.ผสานการเงิน สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ ให้แบรนด์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ที่ช่วยให้พวกเขามั่นคงและสบายใจ
3.สร้างคอมมูนิตี้ ที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีคุณค่า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และยังคงมีบทบาทสำคัญในโลกใบนี้


นายณัฐพันธุ์ ไพรัชวรรณ Strategic Planning Manager บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป จํากัด MI GROUP กล่าวว่า ในส่วนของ Gen Z คือ ตัวแทนของ Early Force - พลังวัยต้นที่กำลังกำหนดอนาคตการบริโภคและวัฒนธรรมใหม่ของประเทศ พวกเขากำลังจะกลายเป็นกำลังซื้อหลักในอีก 7 ปีข้างหน้า และปัจจุบันก็เป็นกลุ่มที่แบรนด์และนักการตลาดให้ความสนใจมากที่สุด

“พวกเขาคือพลังของ 'กำลังซื้อแห่งอนาคต' ที่สะท้อนผ่านพฤติกรรมการใช้จ่าย ความคิดสร้างสรรค์ และการขับเคลื่อนเทรนด์ในหลายอุตสาหกรรม”

โดย Gen Z ยังแบ่งออกเป็น 3 ช่วงวัย คือ วัยเรียน วัยมหาวิทยาลัย และวัยทำงานตอนต้น ซึ่งแต่ละช่วงวัยของ Gen Z มาพร้อมแรงขับและพลังการจับจ่ายที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะ กล่าวคือ


วัยเรียนเริ่มกำหนดรสนิยม เข้าสู่วัยทำงานเริ่มสร้างกำลังซื้ออย่างจริงจัง นักการตลาดจึงต้องเข้าใจ "Moment of Life" มากกว่าแค่ "ช่วงอายุ" เพราะการใช้จ่ายของ Gen Z ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยราคาแต่ด้วยคุณค่าทางอารมณ์และการแสดงตัวตนทำให้พวกเขากลายเป็นพลังผู้บริโภคยุคใหม่ที่กำหนดอนาคต

ส่วนในเรื่องคุณค่าและอารมณ์นั้น Gen Z ให้ความสำคัญกับคุณค่าภายในในแบบของตัวเอง ซึ่งการแสดงออกทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว การใช้โซเชียล การเลือกแบรนด์ ล้วนขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ความรู้สึก และคุณค่าภายใน ดังนั้น Gen Z ต้องการแบรนด์ที่เข้าใจมากกว่าเสนอขาย

นางสาววรินทร์ ทินประภา กล่าวว่า สองเจนนี้ไม่ได้แทนกัน แต่ขับเคลื่อนการจับจ่ายและเศรษฐกิจไทยในทิศทางคู่ขนาน การเข้าใจ Gen Z = Early Force และ Gen Horizon = Future Force ไม่ได้หมายความว่านักการตลาดต้องทำทั้งสองกลุ่มพร้อมกัน แต่คือการเปิดเลนส์ใหม่ให้เห็น สองขุมพลังผู้บริโภคร่วมกำหนดทิศทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมการบริโภคไทย.


**ปรากฏการณ์ “เจนนี่” Power of Influencer
อย่างไรก็ตาม จากปรากฏการณ์ “เจนนี่” ที่ไลฟ์ขายของทาง TikTok กลายเป็นกรณีศึกษา ที่นักการตลาดให้ความสนใจ โดยนางสาววรินทร์ กล่าวว่า กรณีเจนนี่ เป็นปรากฏการณ์ที่มาจากกระแส และเอ็นเกจเม้นท์ที่ใหญ่มากมาสร้างรายได้ เป็นการใช้โอกาสได้เก่งและมีกลยุทธ์ บวกกับตัวเจนนี่มีความรู้ในการทำไลฟ์คอมเมิร์ซอยู่แล้ว มาใช้ร่วมกับอีโมชั่นนอล เอ็นเกจเม้นท์ ตอบโจทย์ฐานแฟนคลับที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับแมส การทำดีฟโปรโมชั่น ปักตะกร้าหลัปหมื่นจึงไม่ยาก เพราะลูกค้าหรือแบรนด์ที่จ้าง ต้องการเอ็นเกจเม้นท์มากกว่ากำไรหรือยอดขาย
นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นจากนักการตลาดเพิ่มเติมว่า ปรากฏการณ์เจนนี่ ถือเป็น Power of Influencer อย่างแท้จริง ที่ได้ทั้งยอดวิว ยอดขาย ซึ่งช่วงแรกๆ ของปรากฏการณ์นี้ แบรนด์เล็กๆ ที่จ้างเจนนี่ไลฟ์ขายของ ได้สร้างแบรนด์อะแวร์เนส เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว และต่อยอดได้ง่ายขึ้น ถือว่าคุ้มค่าในการจ้าง โดย 3 สิ่งที่แบรนด์จะได้อย่างแน่นอน คือ อะแวร์เนส อัลกอริทึ่ม และผู้ติดตาม ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้เราจะเห็นบ่อยๆในจีน กับการไลฟ์ขายของต่อครั้งแล้วมียอดขายหลักร้อยล้านบาทขึ้นไป แต่ในไทยยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เจนนี่ถือเป็นคนแรกที่เกิดขึ้นสำหรับกรณีแบบนี้








กำลังโหลดความคิดเห็น