xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ไฟเขียวเชื่อมโยงไฟฟ้า 4 ปท.อาเซียน-ร่วมมือพันธมิตรเอเชียลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ครม.มีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ฉบับที่ 6 และแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มพันธมิตรเอเชียเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (เอเซค) ครั้งที่ 3 ตามที่ “พลังงาน” เสนอ
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ฉบับที่ 6 และแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มพันธมิตรเอเชียเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (เอเซค) ครั้งที่ 3 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ

โดยถ้อยแถลงร่วมสำหรับโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ฉบับที่ 6 เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีพลังงานทั้ง 4 ประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาการซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดนแบบพหุภาคีในภูมิภาคอาเซียน ถือเป็นรากฐานสำคัญของการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid: APG) สร้างความยืดหยุ่นของระบบโครงข่ายไฟฟ้า ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานของอาเซียนผ่านการลงทุนและส่งเสริมศักยภาพพลังงานหมุนเวียน

โครงการระยะแรก สปป.ลาวได้ขายไฟฟ้าไปยังสิงคโปร์ ผ่านสายส่งของไทยและมาเลเซีย ปริมาณสูงสุดที่ 100 เมกะวัตต์ และในระยะที่ 2 มาเลเซียจะขายไฟฟ้าเพิ่มเติมให้กับสิงคโปร์ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการซื้อขายไฟฟ้าเป็น 200 เมกะวัตต์ โครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในการสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมการผ่านสายส่งไฟฟ้า (Wheeling Charge) และเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าในระยะยาว

ทั้งนี้ การรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 43

ในส่วนร่างแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มพันธมิตรเอเชีย
เพื่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Asia Zero Emission Community : AZEC) หรือเอเซค ครั้งที่ 3 เป็นการยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันของประเทศพันธมิตร 11 ประเทศ (ออสเตรเลีย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม) ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้แนวคิด “เป้าหมายเดียว หลากหลายแนวทาง” โดยมุ่งเน้นการหารือเพื่อแสวงหาแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคส่วนที่ลดได้ยาก ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาตลาดคาร์บอนและการติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน และเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในการเข้าถึงนวัตกรรมด้านการเงินสีเขียวและกลไกความช่วยเหลือด้านการเงินและความเชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศพันธมิตรเอเซค

“ทั้ง 2 กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นนี้ แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทย โดยกระทรวงพลังงานให้ความสำคัญทั้งด้านความมั่นคงทางพลังงาน การสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมทั้งการใส่ใจสิ่งแวดล้อมผ่านเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นานาประเทศในภูมิภาคให้ความสำคัญและมีเป้าหมายที่จะดำเนินการร่วมกัน ซึ่งผลประโยชน์
ที่เกิดขึ้น นอกจากประเทศไทยจะได้รับนวัตกรรมและรายได้จากทั้ง 2 กิจกรรมแล้ว ยังเป็นการสร้างพันธมิตรอันดีระหว่างประเทศในภูมิภาคอีกด้วย” นายอรรถพลกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น